การเมืองว่าด้วยเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19กำลังเป็นปัญหาระดับสากลที่นักการเมืองแทบทุกคนในเมืองไทย ในสหรัฐอเมริกายกขึ้นมาหาเสียง
ในประเทศไทยรัฐบาลได้เปรียบระดับหนึ่ง เมื่อมีการลงมติในสภาฯตอนกลางดึกของวันที่ 2 มิ.ย.ปรากฏว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ พ.ศ. 2565 ในวาระที่ 1 จากจำนวนผู้ลงคะแนน 472 คนเห็นด้วยกับวงเงินงบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท 269 คน ไม่เห็นด้วย 201 คน งดออกเสียง 2 คน
สรุปว่า รัฐบาลชนะการโต้วาทีการเมืองว่าด้วยเรื่องวัคซีนในยกแรก ที่พูดว่าการเมืองเรื่องวัคซีนก็เพราะตลอดเวลาสามวันสามคืนของการพิจารณา พ.ร.บ. งบประมาณ พ.ศ. 2565 ในสภากล่าวหากันไปมาเรื่องวัคซีนเสียเป็นส่วนใหญ่
ไม่มี สส. คนไหนที่ได้ไมค์แล้วไม่พูดถึงวัคซีนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส. ฝ่ายค้านพอได้ไมค์ก็ใส่ร้ายด่าว่ารัฐบาลล้มเหลวในการจัดหาวัคซีนให้คนไทยได้ทันเวลาและได้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ
ไม่ได้มาตรฐานสากล
สส. รัฐบาลบางคนโจมตีด่ารัฐบาลว่าให้ความสำคัญกับงบประมาณสาธารณสุขน้อยไปโดยเฉพาะงบประมาณที่ใช้จัดซื้อ จัดหาวัคซีนตลอดถึงการบริหารวัคซีนที่ได้แล้วว่าล้มเหลว
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ลุกขึ้นมาปกป้องแก้ต่างจากผู้ที่กล่าวหา และยืนยันว่าจัดหาวัคซีนมาฉีดให้คนไทยได้ตามกำหนด เพื่อเป็นการยืนยันและสร้างความมั่นใจในตอนเช้าของวันที่ 2 มิ.ย.แอสตราเซเนกา ซึ่งได้ใช้โรงงานสยามไบโอไซเอนซ์ผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกาในประเทศไทย ได้ส่งมอบวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตในประเทศไทยส่งมอบให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นลอตแรกจำนวน 1.8 ล้านโดส และลอตต่อๆ ไปจะส่งให้ตามกำหนดในสัญญา ถึงตอนนี้รัฐบาลเป็นต่อในสภาถึงกับประกาศว่าจะหาวัคซีนมาให้ได้หกล้านโดส
ภายในเดือนสองเดือนนี้
เราในฐานะผู้สังเกตการณ์ออกจะมั่นใจว่ารัฐบาลจะหาวัคซีนมาได้ตามสัญญา เพราะว่า อย. ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนหลากหลาย อาทิ ซิโนฟาร์มซิโนแวค แอสตราเซเนกา จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันโมเดอร์น่าและไฟเซอร์ ฯลฯ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนางวินดี่ เชอร์แมน รมช.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาเมืองไทยในวันที่กำลังอภิปรายเรื่องวัคซีนโควิดกันในสภา ทำให้คนอเมริกันที่อยู่ในประเทศทึกทักเอาว่าสหรัฐอเมริกาต้องมาพูดเรื่องบริจาควัคซีนให้ประเทศไทย
คนอเมริกันระดับหัวกะทิที่อยู่ในเมืองไทยถึงกับรวมหัวกันเขียน จม. เปิดผนึกถึงรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ฝากไปกับนางเชอร์แมน ว่า
“สหรัฐอเมริกากำลังมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล้นประเทศ แต่คนอเมริกันที่อยู่ต่างประเทศส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลย ชีวิตของคนอเมริกันอยู่ในภาวะเสี่ยงสูง โดยเฉพาะในประเทศไทยเมื่อมีระบาดใหญ่ระลอกที่สาม ที่เฉลี่ยมีคนติดเชื้อใหม่วันละ 3,800 ราย และตายวันละ 34 คน มาเป็นอาทิตย์แล้ว ทำให้พวกเราชาวอเมริกันเกิดความกังวลสับสนในเรื่องบริหารจัดการวัคซีน ในขณะที่คนอเมริกันที่อยู่ในประเทศได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแล้วเกินครึ่งหนึ่งของประชากร แต่ความจริงคือคนไทยเพิ่งได้รับวัคซีนเพียง 3.58% ณ วันสิ้นเดือนพฤษภาคม”
เนื้อความในจดหมายยังคาดเดาเอาว่า รมช.กต. สหรัฐฯ ต้องพูดกับพลเอกประยุทธ์เรื่องสหรัฐบริจาควัคซีนให้ไทย .. “ดังนั้นเราจึงเรียกร้องว่าข้อตกลงใดๆ ที่จะให้ ต้องครอบคลุมถึงชาวอเมริกันที่อยู่ในประเทศทุกคน เป็นเงื่อนไขส่วนหนึ่งของการบริจาควัคซีน..”
คนอเมริกันในต่างประเทศ ควรได้รับสิทธิในฐานะผู้เสียภาษีให้สหรัฐ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาประชาคมที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รีบวัคซีนป้องกันโควิด ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจัดให้.....ลงชื่อพอล ไรส์ลี่ ประธานรีพับลิกันโอเวอร์ซี คาร์ลแมนแชสเตอร์ อดีตทหารผ่านศึก นางอัมยรีน มิราฟลี่นายกสมาคมสตรีอเมริกันแห่งประเทศไทย
เห็นไหมว่าอเมริกันเห็นแก่ตัวอย่างไร รมช. กต. สหรัฐฯพูดกับนายกฯไทยเรื่องวัคซีนหรือไม่ก็ไม่รู้แต่คนอเมริกันที่อาศัยอยู่ในเมืองตั้งเงื่อนไขไว้ล่วงหน้าว่าอเมริกันต้องมาก่อน
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะในสหรัฐอเมริกา กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในทางการเมืองว่าด้วยเรื่องวัคซีน วารสารนิวส์วีค วางตลาดเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2564 มีรายงานพิเศษเรื่องแผนที่ทางการเมืองกับแผนที่การฉีดวัคซีนเป็นแผนที่เดียวกัน
นิวส์วีครายงานว่า การระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้คนอเมริกันตั้งแต่เดือนเม.ย. ถึงปลาย พ.ค.ได้บ่งบอกว่าการให้บริการสาธารณสุข มีความคล้ายคลึงกับทางการเมืองคือ มีการเลือกปฏิบัติและปฏิบัติแตกต่างกันอย่างชัดเจน
สำนักข่าวเอพี ตั้งข้อสังเกตว่าการฉีดวัคซีนดำเนินไปอย่างเชื่องช้าในรัฐสีแดง (ที่เลือกนายทรัมป์) จากสถิติของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด CDC แสดงให้เห็นว่ารัฐสีแดงได้รับวัคซีนน้อยมากและเชื่องช้าต่อประชากร 100,000 คน อันได้แก่ รัฐ Mississippi, Alabama, Louisiana,and Arkansasอาจเป็นเพราะว่ารัฐนี้อดีตประธาธิบดีทรัมป์ ชนะเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
ในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ชนะในรัฐ Vermont, Massachusetts, Connecticut,Hawaiiand, Maine ห้ารัฐนี้ได้รับวัคซีนมากกว่าต่อประชากร 100,000 คน และยังฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงได้เร็วมาก
จอร์จ เบนจามิน ประธานบริหารสมาคมสาธารณสุข ทำนายว่า แนวโน้มของการให้วัคซีนและความแตกต่างทางบริการสาธารณสุขจะขยายวงกว้างออกมากกว่าที่เป็นมา “ผมผิดหวังมาก แต่ก็ไม่แปลกใจ” เบนจามินกล่าวกับเอพี
วีคนิวส์และเอพี ยังวิจารณ์การบริหารแบบแบ่งแยกแตกต่างในรัฐที่เลือกโจ ไบเดน กับรัฐที่เลือกนายทรัมป์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษาและบริการทางสาธารณสุข แต่เอาตัวอย่างมาให้อ่านแค่นี้เพื่อให้เห็นว่าในสหรัฐอเมริกาหาได้มีสิทธิเท่าเทียมดังคำโฆษณาไม่
นอกจากนั้นวัคซีนไฟเซอร์ของสหรัฐอเมริกา ยังถูกจัดอยู่อันดับหกของวัคซีนป้องกันโควิด โดยนสพ.นิวยอร์กไทม์ ของอเมริการายงาน การจัดอันดับวัคซีนดีที่สุด อันดับ 1-4 เป็นของจีน ส่วนไฟเซอร์ที่หลายคนชื่นชมอยู่อันดับที่ 6 Report by The New York Times on Feb 5, 2021. In the safety ranking, the top four are all Chinese vaccines:
1.Sinopharm (China)
2.Sinovac (China)
3.Kexing (China)
4.Can Sino (China)
5.AstraZeneca (UK)
6.Pfizer (United States and Germany)
7.Modena (United States)
8.Johnson & Johnson (United States)
9.Novavax (United States)
10.Satellite 5 (Russia)
Sinopharm has two vaccines, ranking first and second respectively.
นอกจากในสหรัฐอเมริกา ในบราซิลซึ่งติดอันดับต้นๆ ของการติดเชื้อโควิด ยังยืนยันว่า ในเมืองเซอร์รานา วัคซีนซิโนแวคจากจีน ช่วยให้เมืองหนึ่งในบราซิลปลอดภัยกลับมาใช้ชีวิตได้เกือบปกติ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า Sinovac vaccine Restore a Brazil city to Near normal แปลเป็นไทยคือ วัคซีนซิโนแวคของจีนช่วยฟื้นฟูเมืองหนึ่งในบราซิลกลับมาเกือบเป็นปรกติ
เอพี รายงานว่ายังเหลือคุณยายวัย 63 ปีเพียงคนเดียวที่อยู่ในขั้นวิกฤติในคลินิกของดร.เจราโด ซีซาร์ รีส ในเมืองเซอร์รานาที่มีประชากร 46,000 คน เซอร์รานาที่เริ่มทดลองฉีดวัคซีนซิโนแวค ในโครงการทดลองรหัส S เมื่อสี่เดือนก่อน
ชาวเมืองที่เป็นผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือแต่คุณยายวัย 63 ปี ไม่ยอมฉีดโดยอ้างว่าเธอรอจนกว่าจะได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ซึ่งไม่มีและหายากในบราซิล นางจึงเป็นคนไข้ที่เหลืออยู่รายเดียวของเมือง
คนส่วนใหญ่ยอมถลกแขนเสื้อให้ฉีดวัคซีนซิโนแวคตั้งแต่เริ่มทดลองใช้ ซึ่งทำให้เมืองที่เต็มไปด้วยคนป่วยไข้กลายมาเกือบเป็นปรกติ เมืองเซอร์รานา กลายเป็นดินแดนสวรรค์ ชาวเมืองกลับมาใช้ชีวิตเกือบเป็นปรกติในขณะที่เมืองอื่นๆ ในบราซิลยังเป็นวิกฤติโควิด
หมอที่รักษาคนป่วยในเมืองเซอร์รานาโล่งอกที่ได้เห็นคนป่วยฟื้นจากอาการไข้และหายเป็นปกติ แถมยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ พวกเขาทานอาหารร่วมกันที่บ้าน เมืองเซอร์รานาเริ่มมีชีวิตชีวาผู้คนออกเดินตามถนน เข้าร้านตัดผม ทานอาหารนอกบ้าน
“ตอนนี้ท้องเราอิ่มเหมือนที่เคยอิ่ม” โรเจอีโอซิลวา พนักงานร้านขายอาหารเครื่องดื่มและของว่างให้สัมภาษณ์เอพี “หลายอาทิตย์ก่อนไม่มีคนเข้าแถวเหมือนวันนี้ เราไม่ยอมให้ลูกค้าเข้าร้าน แต่วันนี้ลูกค้ากลับมาแล้ว”
ริคาโด พลาซิโอ ผู้อำนวยการสถาบันบูตันตันแห่งเซา เปาโล และผู้ประสานงานด้านวิจัยกล่าวว่า “ผลของการทดลองโครงการ S สี่เดือนได้ประสิทธิผลน่าพอใจ ในเบื้องต้นเราสามารถควบคุมการระบาดได้ ถ้าหนึ่งในสามของประชากรได้รับซิโนแวคครบถ้วน เราสามารถควบคุมระบาดใหญ่ได้ถึงแม้ไม่ได้ฉีดวัคซีนทุกคน..”
ตั้งแต่อินโดนีเซีย ปากีสถาน อเมริกา บราซิลต่างก็รับรองประสิทธิผลของวัคซีนที่ผลิตในเมืองจีนว่าดีกว่าของอเมริกา แล้วทำไมคนไทยต้องไขว่คว้าหาไฟเซอร์?
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี