l ข้าพเจ้า เขียนเรื่อง “หนังสืองานศพของข้าพเจ้า”
ในชีวิต ๗๒ ปี ของข้าพเจ้า ผ่านความเศร้าจากการตาย ของพี่น้องร่วมชาติ
๑.การตายจากสูงอายุ โรคร้ายเป็นบุคคล และโรคระบาดร้ายแรง
-พี่สาว ๒ คน และน้องสาว ๑ คน เสียชีวิตในวัยเด็ก จากโรคระบาด ในขณะที่ยังเป็นเด็กเล็กมาก ไม่รู้ความ และไม่มีภาพปรากฏในใจ และความคิด
-ก๋ง และยาย ป๋าและแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนมิตร ที่ช่วงที่เราเป็นเด็ก และเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งคนใกล้ คนที่เราเคารพรักยิ่ง โดยเฉพาะพ่อแม่ “หัวใจแทบหลุดสลาย”
๒.อุบัติเหตุหมู่ และเดี่ยว
เพื่อนสนิทมิตรสหาย บางคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยตนเอง เป็นผู้ขับ และบางคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ในฐานะผู้โดยสาร รถทัวร์
-ที่เศร้าใจมาก คือ “พี่สาวคนโต” เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ ในปี ๒๕๕๙
๓.พิบัติภัยทางธรรมชาติ ฯลฯ
ภัยที่มีสาเหตุมาจากธรรมชาติ อาทิ แผ่นดินไหว อุทกภัย อัคคีภัย พายุ อุกกาบาต ฯลฯ
ภัยพิบัติที่มีสาเหตุมาจากมนุษย์
เช่น การสูบน้ำใต้ดินปริมาณมากจนส่งผลให้เกิดการทรุดตัวของพื้นดิน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณมาก การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดิน ฯลฯ
๔.การตายจากน้ำมือของมนุษย์ (จำนวนมาก)
เป็นของหลักคิด อุดมคติ อุดมการณ์ ของผู้นำ และผู้ร่วมสนับสนุนที่ขัดแย้งกันรุนแรง
โดยมักจะเป็นเรื่องของการเมือง เช่น
เหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖ , ๖ ตุลาคม ๑๙
การต่อสู้ของรัฐบาลและพคท. รวมทั้ง “กรณีนักศึกษาประชาชนเรือนหมื่น” หลัง ๖ ตุลา ๑๙ พฤษภา ๓๕ ฆ่าตัดตอน ๒,๐๐๐ ศพ (ยุคทักษิณ) พธม. ๒๕๔๙-๒๕๕๑
ปี ๒๕๕๒ และกรณีปิดล้อมเมือง เผาบ้านเผาเมืองของกลุ่ม นปช. ปี ๒๕๕๓ กปปส. ปี ๒๕๕๖-๒๕๕๗
l มีเหตุการณ์พิเศษที่ไม่ธรรมดา ของ โลกและประเทศไทย คือ “โควิด-19 และวัคซีน” ปี ๒๕๖๒ จนถึงปัจจุบัน
ตัวหลัก ของการนำมาซึ่งการเสียชีวิตและทุกข์ยากอย่างยิ่ง คือ “โควิด-19”
แต่มีตัวรอง ตัวเสริม ที่มีผลให้ “การระบาดของโรครุนแรง และทวีการเสียชีวิตของคนจำนวนมาก”
ที่มาจากปัจจัยสำคัญคือ
๑.โครงสร้างและระบบการเมืองที่มีความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม ขาดคุณธรรมของประเทศต่างๆ และโลก
๒.ความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง และยังไม่มีทางออก
๓.ระบบประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อทางศาสนา สิทธิเสรีภาพที่เป็นอิสระ การเห็นแก่ตัวฯ
๔.การบริหารจัดการของรัฐบาล และระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศ
๕.เรื่องเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่
๖.ความรวดเร็ว กว้างไกล ของระบบสื่อสารดิจิทัล ที่เป็นเครื่องธุรกิจใหญ่ และขาดจรรยาบรรณ
๗.เรื่องวัคซีน ที่ยังผลิตไม่ทัน ไม่เพียงพอ และการกุมตลาดของผู้ผลิตซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ระดับโลก ทำให้เกิดสภาวะ ที่ “งานศพของผู้คน” จาก โรคระบาดโควิด-19 ทยอยมากขึ้นเรื่อยๆ
ยอดตายทำ “นิวไฮ” ต่อเนื่อง นอกจากยอดการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว
ผลของการระบาดระลอกที่ 3 ทำสถิติสูงสุดครั้งแล้วครั้งเล่า ในเดือน พฤษภาคม มิถุนายน และ กรกฎาคม
l มาพิจารณา ดูสถานการณ์ในประเทศไทย และการเปรียบเทียบกับ โลก ณ ๑๑ ก.ค. ๒๕๖๔
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อ 345,027 รักษาหาย 251,658 ผู้เสียชีวิต 2,791 = 0.008089
สถานการณ์ทั่วโลก
ยอดผู้ติด187,615,494 รักษาหาย 171,577,199 เสียชีวิต 4,048,856 = 0.215806
l ความตายในวิกฤติโควิด-19 วิกฤติใหญ่ ที่แปลกประหลาดพิสดารยิ่ง
มีความตายรูปแบบเนื้อหา ที่พอจะนำมาเสนอ ให้คนที่อยู่ได้ศึกษา สรุปเป็นบทเรียนในการใช้ชีวิต
๑.การตาย ที่ต้องไปฌาปนกิจที่เมรุ และตามพิธีทางศาสนาของผู้ตาย โดยมีการจำกัดผู้มาร่วมฯ
๒.การตายทั้งเป็นทางเศรษฐกิจ และจิตใจ
๓.การตายทางความคิดที่นำหลักการตะวันตก มาใช้อย่างไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในสังคมไทย
กลุ่มนี้ ส่วนหนึ่งเป็นดีรักบ้านเมือง แต่ติดความคิดประชาธิปไตย และการแก้ปัญหาแบบตะวันตก และอาจจะขาดการติดตาม วิเคราะห์ ความคิดความเห็นและข้อมูลของคนส่วนใหญ่ในสังคม ส่วนหนึ่งจะเป็นกลุ่มคนที่ทำงานด้านวิเคราะห์วิจัยสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และสื่อฯ
๔.การตายทางชีวิตการเมือง และความน่าเชื่อถือ ที่เกิดจากการด้อยค่าตนเอง ทำสิ่งที่ไม่ดี ก่อความเสียหายต่อบ้านเมือง
ทุกรูปแบบไม่หยุด
(๑) นักการเมืองฝ่ายค้าน-อาจารย์ อคติ นักเคลื่อนไหวปีกแค้น
(๒) กลุ่มอ้างประชาธิปไตย เพื่อสนับสนุนทักทอน และ คัดค้านรัฐประหาร เกลียดทหาร ฯลฯ
-ที่แสดงออกในรัฐสภา และนอกรัฐสภา
-ในห้องไลน์ ด้วยการสร้างและส่งข่าวเท็จ เพื่อดิสเครดิตรัฐบาลและหมอฯ
-การก่อกวนทางการเมืองและสังคม เพื่อมิให้รัฐบาลทำงานแก้โควิด-19 ไม่ได้
-การยุยงส่งเสริม นักศึกษา เยาวชนฯ ให้เกิดอคติต่อรัฐบาล และออกมาก่อกวนในที่สาธารณะ ฯลฯ
๕.การตาย ด้วยการทำบาปของผู้คนที่หลากหลายความคิด
(๑) ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 และออกไปแหล่งมั่วสุม คลัสเตอร์ต่างๆ อันเป็นจุดแพร่เชื้อใหญ่
(๒) เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องฯ แต่ไม่ทำหน้าที่ ที่ถูกต้อง
(๓) นักการเมืองและผู้ใกล้ชิด ที่ใช้ “โควตาวัคซีน” ไปให้พวกพ้องหรือนำไปแสวงหากำไร
(๔) ฯลฯ
l การตัดสิน : สงครามยังไม่จบ “อย่าเพิ่งนับศพทหาร” อย่านับลูกไก่ จนกว่ามันจะฟักออกมาจนหมด
l สิ่งที่คนไทยที่ดีมีศีลธรรม ปรารถนา ด้วยใจที่มีเมตตา กรุณา ต่อ : คนบาปเหล่านี้ คือ คำสารภาพบาป
l คำอธิษฐานสารภาพบาป แบบคริสต์
ข้าแต่พระบิดาเจ้าผู้ทรงสถิตเหนือฟ้าสวรรค์
ข้าพระองค์ถ่อมใจลงต่อพระพักตร์ของพระองค์
สารภาพบาปผิดที่ข้าพระองค์ได้กระทำ
(กล่าวเนื้อความที่ตนเองต้องการสารภาพ)
...................................................................
ขอพระเจ้าทรงพระเมตตาอภัยบาปผิด แก่ข้าพระองค์ ตามความรักมั่นคงที่พระองค์มีต่อข้าพระองค์ และของฤทธิ์เดชของ
พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ ช่วยข้าพระองค์ ประทานกำลังแก่ข้าพระองค์ ที่ข้าพระองค์จะมีกำลังเอาชนะความบาปเหล่านี้ และไม่หลงไปกระทำความบาปผิดอีก
ทูลต่อพระองค์ด้วยใจที่สำนึกผิด ในพระนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน
l วิธีสารภาพบาปแบบวิถีพุทธ
๑.การปฏิบัติเจริญสติภาวนาได้ระยะหนึ่ง หากถูกต้องจะพบญาณที่เรียกว่าบุพเพนิวาสานุสติญาณ
คือเห็นอดีตของตนเอง ที่ไปทำดี ทำชั่ว ทำผิด ฯลฯ
พบว่าที่เราทำไป เป็นเพราะความไม่รู้
เมื่อพบแล้ว เข้าใจแล้ว ก็อยากที่จะสารภาพ นำมาบอกมาเล่าให้ผู้รู้ฟัง และ
เมื่อรู้แล้ว ก็จะตามศึกษาเข้าไปๆ ก็จะเห็นญาณที่ 2เรียกว่าการเกิดดับของจิต เป็นจุตูปปาญาณ
การเกิดดับนี้ เพราะเราไม่รู้เท่าทัน
๒.เราจึงกระทำทุกอย่างตามการเกิดดับนี้ พระพุทธเจ้าพบสิ่งนี้ นำมาบอก
เพราะเรารู้ว่า
-ต้นตอของอบายภูมิและนรกคือโลภะและโทสะ
-ต้นตอของสวรรค์คือการให้ทานรักษาศีล
-ต้นตอของนิพพานคือการเจริญวิปัสสนาภาวนา
๓.เราจึงต้องเจริญสติภาวนาเพื่อเปลี่ยนโมหะอวิชชาให้เป็นนิพพาน
ด้วยการเจริญสติวิปัสสนาก่อน
เริ่มเก็บสติตั้งต้นด้วยการตามดูความรู้สึก
ตั้งแต่ตื่นนอน ลุกขึ้น เก็บที่นอน เข้าห้องน้ำ อาบน้ำแปรงฟัน
ทำงาน การเดิน การนั่ง การหยิบ จับ ทำงาน ทุกอิริยาบถ
ตามสังเกตดูกายดูใจไปตลอดทั้งวัน
หากทำได้อย่างนี้ การดำเนินชีวิตประจำวันจะเป็นเรื่องที่สนุก ไม่เบื่อเลย เพราะได้อยู่กับปัจจุบันขณะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี