วันอังคาร ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
            .jpg)
ในฐานะส่วนหนึ่งของวงการสื่อมวลชน...
ในยามวิกฤติโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ถล่มโลก ซวนเซกันหมด วัคซีนยี่ห้อไหนก็เอาไม่อยู่ (แต่ยังป้องกันป่วยหนัก ป้องกันตายได้) นับเป็นภาวะที่รุนแรงที่สุดของโลก นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา
บทบาทของสื่อมวลชน ควรทำแค่เพียง “แซะ” ขยายข่าวร้าย ปลุกปั่น ดิสเครดิต ด่ารัฐบาล ด้อยค่าวัคซีนบางชนิดที่องค์การอนามัยโลกยืนยันว่ามีคุณภาพเพียงพอ มีประโยชน์ และขยายเรื่องดราม่าเรียกอารมณ์สะเทือนใจ สะเทือนขวัญ รวมไปถึงเสนอข่าวการเมืองหวังสร้างความนิยมในหมู่แนวร่วมม็อบที่มีเครือข่ายครอบคลุมยึดครองสื่อออนไลน์ ผ่านขบวนการปั่นกระแส ทั้งในไทยและต่างประเทศ
กี่ครั้งแล้ว ที่ข้อมูลข่าวสารที่เสนอออกไป โดยไม่ตรวจสอบเสียก่อน แต่ถูกกระพือออกไปแล้ว ขยายข่าว ปั่นกระแสความรู้สึกของคนในสังคมให้สิ้นหวัง โกรธแค้น ชิงชัง ฯลฯ แต่ภายหลังพบหลักฐานข้อเท็จจริงและคำชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง หรือตรงกันข้ามสิ้นเชิง
สื่อควรมีบทบาทอย่างนี้ จริงหรือ?
เมื่อวานนี้ ได้รับข้อเขียนของ พญ.นงนลินี จัยสิน เป็นคุณหมอที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด อ่านแล้วกระแทกใจมาก ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ให้คิดอ่านกันต่อไป
“...เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
ต้องถามคุณสรยุทธกลับ ถามดาราคอลเอาท์ ถามหมอที่เอาแต่วิจารณ์ ถามทุกคนที่สร้างเฟคนิวส์มาตั้งแต่ต้น และถามนักการเมืองที่ใจดำคอยขัดขวางการทำงานทุกอย่าง ทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายค้าน
ดิฉันเพิ่งมีโอกาสได้ไปอาสาที่กทม.เมื่อไม่นาน สิ่งที่เห็นคือคนไข้ส่วนใหญ่ที่เข้าถึงบริการคือกลุ่มสีเขียว กลุ่มคนในค่ายในแคมป์ของเจ้าของกิจการที่เข้าถึงบริการง่ายและหน่วยงานรับน้ำท่วมปาก
ทำไมคุณเป็นนักข่าวไม่ไปเจาะลึกว่าคนไข้ในรพ.สนามแต่ละวันรับคนไข้กลุ่มไหน รับมาแล้วต้องอยู่ถึง 14 วัน ขณะที่คนติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน
คุณเห็นแค่ปลายทางที่คนไข้หนัก
คุณร้องไห้ คุณประสานผู้บริหารสปสช.กรมการแพทย์ที่อยากเอายามาแจกคนไข้หนักเสียเอง
โชคดีบังเอิญที่ดิฉันได้รับรู้ความพยายามอันนี้จึง พยายามโพสต์ พยายามโทรเข้ากรมการแพทย์ เพื่อมิให้พวกคุณนำยานำออกซิเจนมาแจกเสียเอง เพราะอะไร?
เพราะคนเหนื่อยไม่ต้องการแค่ยา ไม่ต้องการออกซิเจน
ต้องการการประเมินดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องการยาลดการอักเสบที่ใช้ฉีดเอา มิได้กินเอา
ถ้ารักษาคนไข้หนักกันเอาเอง เราก็จะเหมือนอังกฤษ ที่ช่วงนึงคนตายเยอะมาก เพราะแจกยาต้านไวรัสและสเตียรอยด์
ผลที่ตามมาคือได้พันธุ์ไวรัสเป็นของตัวเอง
ดิฉันห้ามมิใช่ว่าเรื่องการเมือง เพราะดิฉันไม่เคยได้ผลประโยชน์จากการบริหารบิ๊กตู่สักบาท
ดิฉันไม่เคยถามว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร แต่อยากจะบอกว่าเราจะไม่มีวันมาถึงจุดนี้เลยถ้าเราไม่อคติต่อกัน เอาเรื่องการเมืองนำ
เราควรจะได้นักข่าวที่ช่วยรพ.สนามเต็มที่
เราควรจะได้นักข่าวที่เป็นกระบอกเสียงแทน และกดดันรพ.สนามให้รับคนไข้หนักมากกว่าคนไข้ครองเตียงเพื่อประกัน
เราควรจะได้ดาราที่ช่วยกันบริจาคเพื่อรพ.หรือเพื่อปชช.ที่ตกงาน หรืออย่างน้อย แรงจิตอาสาก็ยังดีในการช่วยดูแลคนไข้สีเขียวแบ่งเบาภาระสาสุข
ดาราเป็นจิตอาสาความเป็นบุคคลสาธารณะทำให้คนฮึกเหิมอยากอาสามากขึ้น
ความเป็นดารา ความเป็นนักข่าวที่เป็นบุคคลสาธารณะ คุณได้จากสังคมมากมาย ยามบ้านเมืองปกติ คุณควรรักปชช.มากกว่าการเมือง
นาทีนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิตปชช. มิใช่คอลเอาท์หรือใครจะอยู่จะไป
หมอบางคนถูกยกย่องเป็นหมอแห่งประเทศ เพราะด่ารัฐบาลได้สะใจ มากกว่าที่จะเสียสละทุ่มเทแบ่งเบาภาระคนหน้างาน
ขนาดดิฉันไปอยู่แค่ 7 วัน ยังเปลี่ยนสีคนไข้ให้คนสนใจแล้วนำมาเป็นนโยบายได้ พวกคุณอยู่กทม.ตลอด ทำมาหากินร่ำรวย มีเครดิตทางสังคม หากคุณทุ่มเททำงานร่วมกับแพทย์ด่านหน้า คุณจะเห็นเหมือนสิ่งที่ดิฉันเห็น
แต่ถึงอย่างไร ขอบคุณคุณสรยุทธคุณได้ที่กลับลำ ไม่สร้างความลำบากใจให้แพทย์ที่อยู่ด่านหน้า ด้วยการดื้อดึงที่จะหายา favi และสเตียรอยด์มาแจกเอง เห็นตัวอย่างประเทศที่ทอดทิ้งคนไข้แจกยากินเองแม้ในคนไข้หนักไหมคะ? ทั้งอังกฤษ ทั้งอินเดีย ทั้งอเมริกา เขามีสายพันธุ์เป็นของตัวเอง
สาสุขเราเข้มแข็งเพราะเราหล่อหลอมมาจาก [❤️] พระบรมราชชนกมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ท่านรักษาคนไข้ที่แมคคอร์มิค ท่านเอากระโถนฉี่ใต้เตียงให้คนไข้เมื่อคนไข้ร้องขอ ท่านทำเป็นตัวอย่างได้ท่านจึงสอนพวกเราให้รักคนไข้ได้อย่างศักดิ์สิทธิ์มายาวนาน จำไว้ว่าเมตตาบารมีสำคัญที่สุดค่ะ
เมื่อเราทำอะไรด้วยความแค้น แรงแค้นจะเป็นบูมเมอแรงส์สะท้อนกลับมาที่เรา...มากกว่าใคร
มองตรงไหนเห็นปัญหา ปัญญาต้องตามมาค่ะ มิใช่ช่องทางจัดการรัฐบาลตามมา...
นาทีนี้ เราต้องช่วยกันเพื่อประเทศชาติของเรา มิใช่เพื่อคุณประยุทธ์หรือคุณทักษิณค่ะ...
อยากฝากข้อคิดเรื่องเล่าเช้านี้ไว้
ว่าจะไม่พูดเรื่องการเมืองอดไม่ได้เหมือนสิ่งเสพติดมีแต่หายนะ
ขอโทษทุกคนที่เคยนำมาออกสื่อเล็กๆในพท.ดิฉัน มิใช่การแฉ แต่คือการเตือนสติ จากพี่จากน้องจากคนนึงที่รักประเทศชาติไม่อยากให้พวกคุณหลงทาง....”
อ่านแล้วก็ต้องคิด คิด คิด...
สื่อนำเสนอความจริงได้ ตรวจสอบรัฐบาลได้ แต่ต้องอยู่บนฐานข้อมูลที่ครบถ้วน รอบด้าน เป็นประโยชน์ต่อสังคมในการแก้ปัญหายามวิกฤติ มิใช่ซ้ำเติมปัญหา
และกี่ครั้งแล้วที่รายการนี้ และสื่ออีกจำนวนมาก นำเสนอข้อมูลที่คลาดเคลื่อน จนต้องมาตามลบ หรือตามแก้ข่าวทีหลัง ทั้งๆ ที่ เป็นยามวิกฤติเช่นนี้ กี่ครั้งแล้ว แค่ไปตามอ่านในเฟซบุ๊ค Warat Karuchit ของ ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ก็เหลือคณานับแล้ว
เราช่วยกันฝ่าวิกฤติครั้งนี้เถิด
สารส้ม

										‘ตำรวจภาค1’กัดไม่ปล่อย ตะครุบนักขนยาเสพติดตะวันออก
									
										'กองทัพไทย'ย้ำเงื่อนไข 4 ข้อ กัมพูชาต้องปฏิบัติตาม ถือสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์
									
										ศาลจีนสั่งประหาร 5 จำเลย เอี่ยวแก๊งอาชญากรในเมียนมา
									
										สวยแต่สกปรก! 191 รวบ 2 สาวพีอาร์ ผันตัวค้า‘ไอซ์-พอตเค’ทางไลน์ ผงะค้นห้องเจอกองขยะ
									
										‘สบเมย’เตือนปชช.งดสัมผัสน้ำ-ห้ามกินปลาจาก‘สาละวิน’ หลังตรวจพบ‘สารหนู’สูงเกิน
									
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี