ในฐานะส่วนหนึ่งของวงการสื่อมวลชน...
ในยามวิกฤติโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ถล่มโลก ซวนเซกันหมด วัคซีนยี่ห้อไหนก็เอาไม่อยู่ (แต่ยังป้องกันป่วยหนัก ป้องกันตายได้) นับเป็นภาวะที่รุนแรงที่สุดของโลก นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา
บทบาทของสื่อมวลชน ควรทำแค่เพียง “แซะ” ขยายข่าวร้าย ปลุกปั่น ดิสเครดิต ด่ารัฐบาล ด้อยค่าวัคซีนบางชนิดที่องค์การอนามัยโลกยืนยันว่ามีคุณภาพเพียงพอ มีประโยชน์ และขยายเรื่องดราม่าเรียกอารมณ์สะเทือนใจ สะเทือนขวัญ รวมไปถึงเสนอข่าวการเมืองหวังสร้างความนิยมในหมู่แนวร่วมม็อบที่มีเครือข่ายครอบคลุมยึดครองสื่อออนไลน์ ผ่านขบวนการปั่นกระแส ทั้งในไทยและต่างประเทศ
กี่ครั้งแล้ว ที่ข้อมูลข่าวสารที่เสนอออกไป โดยไม่ตรวจสอบเสียก่อน แต่ถูกกระพือออกไปแล้ว ขยายข่าว ปั่นกระแสความรู้สึกของคนในสังคมให้สิ้นหวัง โกรธแค้น ชิงชัง ฯลฯ แต่ภายหลังพบหลักฐานข้อเท็จจริงและคำชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง หรือตรงกันข้ามสิ้นเชิง
สื่อควรมีบทบาทอย่างนี้ จริงหรือ?
เมื่อวานนี้ ได้รับข้อเขียนของ พญ.นงนลินี จัยสิน เป็นคุณหมอที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด อ่านแล้วกระแทกใจมาก ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ให้คิดอ่านกันต่อไป
“...เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
ต้องถามคุณสรยุทธกลับ ถามดาราคอลเอาท์ ถามหมอที่เอาแต่วิจารณ์ ถามทุกคนที่สร้างเฟคนิวส์มาตั้งแต่ต้น และถามนักการเมืองที่ใจดำคอยขัดขวางการทำงานทุกอย่าง ทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายค้าน
ดิฉันเพิ่งมีโอกาสได้ไปอาสาที่กทม.เมื่อไม่นาน สิ่งที่เห็นคือคนไข้ส่วนใหญ่ที่เข้าถึงบริการคือกลุ่มสีเขียว กลุ่มคนในค่ายในแคมป์ของเจ้าของกิจการที่เข้าถึงบริการง่ายและหน่วยงานรับน้ำท่วมปาก
ทำไมคุณเป็นนักข่าวไม่ไปเจาะลึกว่าคนไข้ในรพ.สนามแต่ละวันรับคนไข้กลุ่มไหน รับมาแล้วต้องอยู่ถึง 14 วัน ขณะที่คนติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน
คุณเห็นแค่ปลายทางที่คนไข้หนัก
คุณร้องไห้ คุณประสานผู้บริหารสปสช.กรมการแพทย์ที่อยากเอายามาแจกคนไข้หนักเสียเอง
โชคดีบังเอิญที่ดิฉันได้รับรู้ความพยายามอันนี้จึง พยายามโพสต์ พยายามโทรเข้ากรมการแพทย์ เพื่อมิให้พวกคุณนำยานำออกซิเจนมาแจกเสียเอง เพราะอะไร?
เพราะคนเหนื่อยไม่ต้องการแค่ยา ไม่ต้องการออกซิเจน
ต้องการการประเมินดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องการยาลดการอักเสบที่ใช้ฉีดเอา มิได้กินเอา
ถ้ารักษาคนไข้หนักกันเอาเอง เราก็จะเหมือนอังกฤษ ที่ช่วงนึงคนตายเยอะมาก เพราะแจกยาต้านไวรัสและสเตียรอยด์
ผลที่ตามมาคือได้พันธุ์ไวรัสเป็นของตัวเอง
ดิฉันห้ามมิใช่ว่าเรื่องการเมือง เพราะดิฉันไม่เคยได้ผลประโยชน์จากการบริหารบิ๊กตู่สักบาท
ดิฉันไม่เคยถามว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร แต่อยากจะบอกว่าเราจะไม่มีวันมาถึงจุดนี้เลยถ้าเราไม่อคติต่อกัน เอาเรื่องการเมืองนำ
เราควรจะได้นักข่าวที่ช่วยรพ.สนามเต็มที่
เราควรจะได้นักข่าวที่เป็นกระบอกเสียงแทน และกดดันรพ.สนามให้รับคนไข้หนักมากกว่าคนไข้ครองเตียงเพื่อประกัน
เราควรจะได้ดาราที่ช่วยกันบริจาคเพื่อรพ.หรือเพื่อปชช.ที่ตกงาน หรืออย่างน้อย แรงจิตอาสาก็ยังดีในการช่วยดูแลคนไข้สีเขียวแบ่งเบาภาระสาสุข
ดาราเป็นจิตอาสาความเป็นบุคคลสาธารณะทำให้คนฮึกเหิมอยากอาสามากขึ้น
ความเป็นดารา ความเป็นนักข่าวที่เป็นบุคคลสาธารณะ คุณได้จากสังคมมากมาย ยามบ้านเมืองปกติ คุณควรรักปชช.มากกว่าการเมือง
นาทีนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิตปชช. มิใช่คอลเอาท์หรือใครจะอยู่จะไป
หมอบางคนถูกยกย่องเป็นหมอแห่งประเทศ เพราะด่ารัฐบาลได้สะใจ มากกว่าที่จะเสียสละทุ่มเทแบ่งเบาภาระคนหน้างาน
ขนาดดิฉันไปอยู่แค่ 7 วัน ยังเปลี่ยนสีคนไข้ให้คนสนใจแล้วนำมาเป็นนโยบายได้ พวกคุณอยู่กทม.ตลอด ทำมาหากินร่ำรวย มีเครดิตทางสังคม หากคุณทุ่มเททำงานร่วมกับแพทย์ด่านหน้า คุณจะเห็นเหมือนสิ่งที่ดิฉันเห็น
แต่ถึงอย่างไร ขอบคุณคุณสรยุทธคุณได้ที่กลับลำ ไม่สร้างความลำบากใจให้แพทย์ที่อยู่ด่านหน้า ด้วยการดื้อดึงที่จะหายา favi และสเตียรอยด์มาแจกเอง เห็นตัวอย่างประเทศที่ทอดทิ้งคนไข้แจกยากินเองแม้ในคนไข้หนักไหมคะ? ทั้งอังกฤษ ทั้งอินเดีย ทั้งอเมริกา เขามีสายพันธุ์เป็นของตัวเอง
สาสุขเราเข้มแข็งเพราะเราหล่อหลอมมาจาก [❤️] พระบรมราชชนกมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ท่านรักษาคนไข้ที่แมคคอร์มิค ท่านเอากระโถนฉี่ใต้เตียงให้คนไข้เมื่อคนไข้ร้องขอ ท่านทำเป็นตัวอย่างได้ท่านจึงสอนพวกเราให้รักคนไข้ได้อย่างศักดิ์สิทธิ์มายาวนาน จำไว้ว่าเมตตาบารมีสำคัญที่สุดค่ะ
เมื่อเราทำอะไรด้วยความแค้น แรงแค้นจะเป็นบูมเมอแรงส์สะท้อนกลับมาที่เรา...มากกว่าใคร
มองตรงไหนเห็นปัญหา ปัญญาต้องตามมาค่ะ มิใช่ช่องทางจัดการรัฐบาลตามมา...
นาทีนี้ เราต้องช่วยกันเพื่อประเทศชาติของเรา มิใช่เพื่อคุณประยุทธ์หรือคุณทักษิณค่ะ...
อยากฝากข้อคิดเรื่องเล่าเช้านี้ไว้
ว่าจะไม่พูดเรื่องการเมืองอดไม่ได้เหมือนสิ่งเสพติดมีแต่หายนะ
ขอโทษทุกคนที่เคยนำมาออกสื่อเล็กๆในพท.ดิฉัน มิใช่การแฉ แต่คือการเตือนสติ จากพี่จากน้องจากคนนึงที่รักประเทศชาติไม่อยากให้พวกคุณหลงทาง....”
อ่านแล้วก็ต้องคิด คิด คิด...
สื่อนำเสนอความจริงได้ ตรวจสอบรัฐบาลได้ แต่ต้องอยู่บนฐานข้อมูลที่ครบถ้วน รอบด้าน เป็นประโยชน์ต่อสังคมในการแก้ปัญหายามวิกฤติ มิใช่ซ้ำเติมปัญหา
และกี่ครั้งแล้วที่รายการนี้ และสื่ออีกจำนวนมาก นำเสนอข้อมูลที่คลาดเคลื่อน จนต้องมาตามลบ หรือตามแก้ข่าวทีหลัง ทั้งๆ ที่ เป็นยามวิกฤติเช่นนี้ กี่ครั้งแล้ว แค่ไปตามอ่านในเฟซบุ๊ค Warat Karuchit ของ ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ก็เหลือคณานับแล้ว
เราช่วยกันฝ่าวิกฤติครั้งนี้เถิด
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี