กรณี “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” พระวัดสร้อยทอง กรุงเทพมหานคร ได้ไลฟ์ยามค่ำคืนกับ “พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” พระนักเทศน์ชื่อดังนำเสนอในท่วงทำนองตลก ขบขัน เฮฮา ราวกับวงสนทนารายการตลกในช่วงเวลาที่พระสงฆ์พึงจำวัด เสียดสีการบ้านการเมือง โดยมียอดคนดูจำนวนมาก และได้มีการเชิญชวนให้คนดูบริจาคเงิน อ้างว่าติดกัณฑ์เทศน์ โดยโอนเข้าบัญชีได้เลย
หลังจากนั้น ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และเรียกร้องให้คณะสงฆ์ตรวจสอบพฤติกรรมอันไม่สำรวมว่าเหมาะสมหรือไม่ ละเมิดวินัยสงฆ์หรือไม่
1. ไพรวัลย์ โพสต์เฟซบุ๊กอธิบาย หลังโดนวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมไม่สำรวม ระบุว่า
“...ไม่สำรวมแบบนี้ใครจะศรัทธา หัวเราะ = ศาสนาเสื่อม
อาตมาคิดว่า แน่นอนทีเดียวในการที่อาตมาเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการในการเผยแผ่ศาสนาแล้ว จะต้องมีชาวพุทธบางกลุ่มมองว่า ไม่เหมาะ ไม่ควร ทำให้ศาสนาเสื่อม หรือทำให้คนหมดศรัทธา ไม่ว่าชาวพุทธกลุ่มนั้น จะมองแบบไหน อาตมาขอยอมรับและไม่ขอปฏิเสธเลย
อาตมาจะเขียนให้ชัดอีกครั้งว่า เหมาะสมทั้งหมด ไม่มีทางเป็นไปได้ และไม่เหมาะสมทั้งหมด ก็อาจไม่มีอยู่จริง ธรรมะมันเหมือนกับอะไรบางอย่าง ซึ่งมีหลายระดับและเหมาะกับคนแต่ละช่วงวัยแตกต่างกันไป บางคนอาจจะชอบกับรสขมของอเมริกาโน่ ในขณะที่บางคนอาจกินได้แค่ลาเต้อย่างเดียว...
อาตมาคงต้องพูดซ้ำๆ แหล่ะว่า รูปแบบของการสอนธรรมะ มันก็มีบริบทและกลุ่มคนที่จะรับฟังแตกต่างกันไป การสอนในรูปแบบหนึ่ง อาจจะเหมาะกับคนกลุ่มหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะไม่เหมาะกับคนอีกกลุ่มหนึ่งก็ได้ อาตมาไม่สามารถทำให้ใครรู้สึกพึงพอใจในรูปแบบการสอน การเทศน์ การพูด หรือแม้แต่การประพฤติตัวของอาตมาได้นะ แต่ในขณะเดียวกัน อาตมาก็มั่นใจว่า ทุกคนสามารถเลือกเสพในสิ่งที่เหมาะหรือถูกจริตของตนเองได้
ดังนั้น เชื่ออาตมาเถอะ อย่ายอมให้อาตมากลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าความทุกข์หรือความขัดข้องใจในการนับถือศาสนาของใครเลย อาตมาไม่เท่ากับศาสนา อาตมาไม่เท่ากับพระสงฆ์ทุกรูป
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ควรจะท่องจำให้ได้แบบท่านนายกกันบ้าง
ดีใจนะ ที่ได้คุยกับโยมพิงกี้ ดีใจที่เราดูศาสดาขอพักร้อนเหมือนกัน คนไม่นับถือศาสนา ดูเข้าใจสาระของศาสนา มากกว่าคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นศาสนิกซะอีก เอาอะไรมาเสื่อม ถามก่อนนน สภาพพ”
2. ไพรวัลย์พูดถูก ตรงที่ว่า “เชื่ออาตมาเถอะ อย่ายอมให้อาตมากลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าความทุกข์หรือความขัดข้องใจในการนับถือศาสนาของใครเลย อาตมาไม่เท่ากับศาสนา อาตมาไม่เท่ากับพระสงฆ์ทุกรูป”
ถ้าไพรวัลย์ลาสิกขาออกไปเสีย ศาสนาพุทธก็ไม่ได้เสื่อมถอยเลย
ส่วนไพรวัลย์ ก็สามารถไปทำมาหากินตามทักษะที่ตัวเองมี
โดยไม่อาศัยผ้าเหลืองห่อหุ้มกายเป็นตัวช่วยในการแสดงออก หรือในกิจกรรมที่ตนเองมั่นใจว่าโดดเด่น มีแสงสาดส่องโดดเด่น
แล้วมีรายได้ก็เสียภาษี เหมือนประชาชนคนไทยทั่วไป
ถ้าแบบนี้ ไม่ต้องคำนึงถึงวินัยสงฆ์
ไม่ต้องง้อพระพุทธศาสนา ไปเป็นศาสดาของคนไม่มีศาสนาเลยก็น่าจะงดงาม และตรงไปตรงมา
ไม่ต้องมีใครกะล่อน แอบแฝงหากินอย่างละโมบ
ในเมื่อไพรวัลย์ถึงขนาดบอกว่า “เอาอะไรมาเสื่อม ถามก่อนนนน ดูสภาพ”ก็อย่าเป็นมันเลยพระสงฆ์
ลาสิกขาบทไปเลย ไม่ต้องกังวล เชื่อว่าพระพุทธศาสนาไม่เสื่อมไปมากกว่านี้แน่นอน
3. ทั้งไพรวัลย์ และสมปอง ต้องย้อนกลับไปดูพฤติกรรมก่อนหน้านี้
เคยโทรไปออกรายการเพศศึกษา
เคยครองชีวิต เสพติดอยู่ในเรื่องทางโลก ตั้งแต่ทำตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ขายอาหารเสริม เชียร์ฟุตบอล
เคยแสดงความเห็นการเมืองด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง โจมตีทางการเมืองไม่รู้กี่ครั้ง ทำให้คนที่เขาเชื่อในผ้าเหลืองเคลิ้มตามความหลงผิดในเฟคนิวส์ของตัวเอง ฯลฯ
ถ้าจะยังห่มเหลืองเป็นพระสงฆ์ ก็ต้องครองตนให้ถูกต้อง ตามพระธรรมวินัย
จะมาอ้างว่า สภาพพุทธศาสนาเสื่อมถอยแล้ว ตนเองจะทำอะไร ออกนอกพระวินัยอย่างไรก็ได้ หาได้ไม่
พระรูปไหนประพฤติตนนอกรีต ก็ต้องถูกจัดการ เช่น พระดื่มเบียร์ ฉันหมูกระทะกลางดึก ก็ต้องถูกจัดการให้ลาสิกขาไป เป็นต้น
ยกตัวอย่าง ศีลของพระสงฆ์ ที่ควรจำให้ขึ้นใจ เช่น
ปาราชิก มี ๔ ข้อ ดังนี้ ๑.เสพเมถุน แม้กับสัตว์เดรัจฉานตัวเมีย (ร่วมสังวาสกับคนหรือสัตว์) ๒.ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี (ขโมย) ๓.พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน)หรือแสวงหาศาสตราอันจะนำไปสู่ความตายแก่ร่างกายมนุษย์ ๔.กล่าวอวดอุตตริมนุสสธัมม์ อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้าในตัวว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง)
สังฆาทิเสส มี ๑๓ ข้อ ดังนี้ ๑.ปล่อยน้ำอสุจิด้วยความจงใจ เว้นไว้แต่ฝัน ๒.เคล้าคลึง จับมือ จับช้องผม ลูบคลำ จับต้องอวัยวะอันใดก็ตามของสตรีเพศ ๓.พูดจาหยาบคาย เกาะแกะสตรีเพศ เกี้ยวพาราสี ๔.การกล่าวถึงคุณในการบำเรอตนด้วยกาม หรือถ้อยคำพาดพิงเมถุน ๕.ทำตัวเป็นสื่อรัก บอกความต้องการของอีกฝ่ายให้กับหญิงหรือชาย แม้สามีกับภรรยา หรือแม้แต่หญิงขายบริการ ๖.สร้างกุฏิด้วยการขอ ๘.แกล้งใส่ความว่าปาราชิกโดยไม่มีมูล ๙.แกล้งสมมุติแล้วใส่ความว่าปาราชิกโดยไม่มีมูล ๑๐.ยุยงสงฆ์ให้แตกกัน๑๑.เป็นพวกของผู้ที่ทำสงฆ์ให้แตกกัน ๑๒.เป็นผู้ว่ายากสอนยาก และต้องโดนเตือนถึงสามครั้ง ๑๓.ทำตัวเป็นเหมือนคนรับใช้ ประจบคฤหัสถ์
ไหนจะมีอีกหลายหมวด หลายข้อ ทั้งนิสสัคคิยปาจิตตีย์ ปาจิตตีย์ ฯลฯ
ถ้าไม่สามารถครองตนได้ หรือโดยเจตนาจะฝ่าฝืนด้วยข้ออ้างสารพัน ก็ควรลาสิกขาไปเสีย จะเป็นบุญกับพระพุทธศาสนา ไม่ต้องมาอาลัยอาวรณ์ อ้างว่าจะไม่มีพระสอนธรรมะให้คนรุ่นใหม่หรอก เพราะคนรุ่นใหม่ ถึงเวลาที่เขาอยากจะศึกษาธรรมะ เขาก็หาศึกษาได้ ตามพระที่แท้ ธรรมะที่แท้ ไม่ใช่พ่อค้าที่ห่มผ้าเหลือง ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ตามเงื่อนเวลาของชีวิต
จะมาอ้างว่า ทำเพื่อแตกต่าง เหมือนกาแฟมีหลายชนิด ให้ผู้บริโภคเลือกสรร ไม่ได้
จะเอายาบ้า ยาอี ยาเลิฟ มาใส่กาแฟ เพื่อให้คนเสพติด หวังเงินติดกัณฑ์เทศน์ หิวแสง หวังประจบคฤหัสถ์ หวังเป็นเซเลบฯ โด่งดัง ตามมาด้วยผลประโยชน์มากมาย โดยไม่ต้องถูกตรวจสอบ ไม่ได้เด็ดขาด
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี