วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันจันทร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 02.00 น.
เด็กเสร่อ เห่อฝอย หิวแสง

ดูทั้งหมด

  •  

นิสิตจุฬาฯ กลุ่มหนึ่ง อาศัยสถานะ “คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” หรือ อบจ. ออกประกาศยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์

กลุ่มนี้ อาศัยสถานะที่ได้รับเลือกจากนิสิตราวหมื่นคน จากนิสิตปัจจุบันทั้งหมดเกือบ 4 หมื่นคน (ยังไม่นับรวมศิษย์เก่า เจ้าหน้าที่ คณาจารย์จุฬาฯ อีกจำนวนมาก)


มุ่งหวังจะ “หาแสง” ทั้งๆ ที่ นิสิตจุฬาฯส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการเรียนและกิจกรรมสร้างสรรค์อื่นๆ ดังจะเห็นได้จากกิจกรรมการเมืองที่เด็กกลุ่มนี้ทำก่อนหน้านี้ก็มีนิสิตจุฬาฯ เข้าร่วมเพียงน้อยนิด

การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ จงใจประกาศออกมาช่วงวันปิยมหาราช 23 ต.ค. เจตนาชัดเจนเพื่อตีกระทบถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อด้อยค่ากิจกรรมประเพณีที่แสดงถึงความจงรักภักดี และความกตัญญูต่อพระมหากษัตริย์ผู้มีพระคุณต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ล้นเกล้าฯ ร.5

ทั้งๆ ที่ กิจกรรมดังกล่าว เป็นกิจกรรมของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ และสมาคมศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ฯ หาก อบจ.ไม่เห็นด้วย ไม่เข้าร่วม ทางจุฬาฯ และคณะศิษย์เก่าก็สามารถจัดหานิสิตดี เด่น เก่ง หรือแม้แต่จะเอาศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่พวกขี้แพ้มีปมหิวแสง มาสืบสานประเพณี ก็เชื่อว่าจะมีชาวจุฬาฯ พร้อมใจกันเข้าร่วมจำนวนมาก

1. อบจ.ระบุว่า รูปแบบของขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวนั้นจำลองกระบวนแห่อย่างราชสำนัก จะมี “ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว” ถือ “พระเกี้ยว” ที่เป็นสัญลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั่งบนเสลี่ยงซึ่งถูกแบกโดยนิสิตกว่า 50 คน

“...กิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวสนับสนุนและสะท้อนถึงระบอบอำนาจนิยม รวมถึงค้ำยันความเชื่อว่าคนไม่เท่ากัน รูปแบบกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวยังเป็นภาพแทนของวัฒนธรรมแบบศักดินาที่ยกกลุ่มคนหนึ่งสูงกว่าอีกกลุ่มหนึ่งพร้อมสัญลักษณ์ของศักดินาคือ “พระเกี้ยว” บนเสลี่ยง... คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์ฯ จึงเห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ล้าหลังอันขัดต่อคุณค่าสากลอย่างประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน จากมติในวาระการประชุมสามัญครั้งที่ 1/2564 ของคณะกรรมการบริหารฯ มีมติ 29 : 0 เสียง เห็นควรให้มีการยกเลิกกิจกรรมการคัดเลือก
ผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ เพื่อยุติการผลิตซ้ำธรรมเนียมปฏิบัติที่สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมมิให้คงอยู่ในสถาบันการศึกษาอีกต่อไป”

2. “พระเกี้ยว” คืออะไร? ชาวจุฬาฯ ได้แบ่งปันข้อมูลที่น่าสนใจว่า

“...พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่สี่นั้น มีพระนามเดิมว่า “เจ้าฟ้ามงกุฎ”เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์ ก็ได้รับการเฉลิมพระปรมาภิไธยโดยย่อว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งก็มาจากความหมายถึงคำว่า“มงกุฎ”นั่นเอง

ครั้นพระราชโอรสประสูติ ก็ทรงพระราชทานพระนามให้ว่า “เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์” ซึ่งต่อมาเมื่อครองราชย์ ก็มีพระเฉลิมพระปรมาภิไธยในพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรกว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุฬาลงกรณ์เกล้าเจ้าอยู่หัว” และ ได้มีพระเฉลิมพระปรมาภิไธยจากในพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่สองว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”

ซึ่งความหมายของพระนาม ทั้ง“จุฬาลงกรณ์” และ “พระจุลจอมเกล้า” ก็มาจากการสืบสานพระนามของพระราชบิดา โดยมีความหมายว่า จุลมงกุฎ หรือ “มงกุฎน้อย”และมีพระราชลัญจกร เป็นภาพ จุลมงกุฏ หรือ ที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “พระเกี้ยว”เพื่อสืบทอดต่อจากพระราชลัญจกรของรัชกาลที่สี่ ที่เป็นภาพ พระมงกุฎ นั่นเอง

ด้วยรัชกาลที่ห้า ทรงมีความตั้งพระทัยจะให้ประชาชนคนสยามได้รับการศึกษา และต้องการสร้างคนดีมีความรู้เพื่อทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง ก็ทรงจัดตั้งสถานศึกษาชื่อว่า “โรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน” และพระราชทานตรา“พระเกี้ยว” ประจำพระองค์ เป็นตราเครื่องหมายประจำโรงเรียน

สถานศึกษานี้ต่อมา ก็พัฒนาและขยายโครงสร้างการศึกษาขึ้นเป็นระดับอุดมศึกษา และได้รับการยกระดับขึ้นเป็น “มหาวิทยาลัย”แห่งแรกของสยามประเทศ และได้รับเกียรติได้รับชื่อมหาวิทยาลัย ตามพระราชนามของผู้ก่อตั้งเดิมคือ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”

ตรา“พระเกี้ยว”จึงไม่ใช่เพียงเครื่องหมายปกติธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ แสดงถึง ที่มาของสถาบันการศึกษา พระเจตนารมณ์ที่เปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยที่มีต่อพสกนิกร และความภาคภูมิใจของนิสิตนักศึกษาและนักเรียน ที่รับเกียรติได้ใช้เครื่องหมายนี้ทุกๆ คนมาหลายต่อหลายรุ่น จนถึงปัจจุบัน

 

 

นอกจากตรา“พระเกี้ยว” แล้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังมีความเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในอีกมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะสีชมพู ที่เป็นสีประจำพระองค์ของรัชกาลที่ห้า เสื้อครุยพระราชทาน ของรัชกาลที่หก ต้นจามจุรีที่รัชกาลที่เก้าทรงปลูกด้วยพระองค์เอง และ เพลงพระราชนิพนธ์ที่รัชกาลที่เก้าทรงพระราชนิพนธ์ให้เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัย

เมื่อมหาวิทยาลัยมีความผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณต่อเนื่องมามากมายจนถึงปัจจุบันเช่นนี้ การได้เข้าศึกษาในสถาบันนี้ จึงเป็นความภาคภูมิใจและซาบซึ้งใจที่สุดของพสกนิกรทุกๆคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และก็ไม่เข้าใจว่า หากผู้หนึ่งผู้ใด ที่ขาดความเคารพ ขาดความรัก และขาดความศรัทธาในรากเหง้าและประวัติศาสตร์ที่ดีงามของมหาวิทยาลัยแห่งนี้

จะกระเสือกกระสน แย่งโอกาสผู้อื่น เข้าไปศึกษา เพื่อจะด้อยค่า หยามเกียรติ และก่อประเด็นต่ำตมต่างๆ เพื่อสร้างความขัดแย้งในสังคมเยี่ยงนี้ไปเพื่ออะไรนะครับ”

3. คุณนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ในฐานะศิษย์เก่าคนหนึ่ง เขียน “จดหมายเปิดผนึกถึงผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ระบุว่า

“วันที่ 23 ตุลาคม คือวันปิยมหาราช เป็นวันที่คนไทยทั่วทั้งประเทศจัดงานวางพวงมาลาถวายบังคมต่อพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านมีต่อชาวไทย และที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็มีการจัดงานถวายมาลาต่อหน้าพระบรมรูปสองรัชกาล

แต่ในวันนั้น อบจ.กลับมีการออกแถลงการณ์จะไม่อัญเชิญพระเกี้ยวในการจัดงานบอลประเพณี ประจำปีระหว่างจุฬาฯและธรรมศาสตร์ แต่ใช้วาทกรรมด้อยค่าพระเกี้ยวที่เป็นของสูงและเป็นสัญลักษณ์ของจุฬาฯ

นิสิตจุฬาฯ ทุกรุ่น และประชาชนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและประชาชนชาวไทย

พระคุณของพระองค์ทรงสูงส่งเกินกว่า อบจ.ไม่กี่คนจะมาด้อยค่าพระองค์ท่าน

ผมขอเรียกร้องผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อย่านิ่งเฉยต่อสิ่งเกิดขึ้นซ้ำซากในมหาวิทยาลัย อย่าให้นิสิตจุฬาฯ ต้องผิดหวังต่อการบริหารงานของอธิการและผู้บริหารจุฬาฯ โดยไม่ทำอะไรในการปกป้องชื่อเสียงและพระเกียรติคุณของพระปิยมหาราช พระผู้พระราชทานกำเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”- นันทิวัฒน์ สามารถ

4. คุณ Katanyoo Tungmepol ให้ความเห็นว่า

“จะไม่อัญเชิญพระเกี้ยว จะเปลี่ยนแปลงจุฬา ก็อย่ารับผลประโยชน์จากที่ดินรอบๆ จุฬา

คืนที่ดินทั้งหมดให้ทายาทของท่านไป คืนผลประโยชน์มหาศาลที่หล่อเลี้ยงทั้งจุฬาไปเสีย แล้วไปเก็บเงิน สร้างมหาวิทยาลัยใหม่เอาเอง อนุญาตให้เอาบุคลากรทั้งหมดที่มีอยู่วันนี้ตามไปได้

คนจะเท่ากันได้ต้องมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่เกาะกินผลประโยชน์ แต่ทำลายราก

แบบนี้เรียกว่า กาฝาก หรือมะเร็ง

ทายาทของผู้พระราชทานที่ดินจะได้เอาที่ดินไว้ใช้ทำมาค้าขาย เอาไว้ทำคอนโด ศูนย์การค้า ตามสิทธิ์อันชอบธรรมต่อไป”

5. คุณ Chai Seeho สะท้อนความรู้สึกนึกคิดในฐานะคนนอก อย่างน่าสนใจ บางตอนว่า

“คนไม่เท่ากัน ผมเป็นคนที่เชื่อมาตลอดว่าคนเราไม่มีวันที่จะเท่าเทียมกัน...ตั้งแต่เกิด

แค่วันแรกที่จำความได้ ผมมีพ่อแม่กับย่า ที่สถานะ“สูง”กว่าผม แม้กระทั่งพี่ๆ ก็ต้องยอมรับว่า“สูง”กว่าในสถานะต่างๆ ใครหลายคนคงไม่รู้เกี่ยวกับเสื้อผ้า ชุดนักเรียนนี้เป็น“มรดก”จากพี่สู่น้อง ที่แปลว่าน้องคงไม่ค่อยมีโอกาสได้เสื้อนักเรียนใหม่ตอนเปิดเทอม

เมื่อเข้าเรียนโรงเรียนวัด ที่บางวันต้องเดินไปเรียน 5-6 กม. ก็รู้ว่าไม่มีความเท่าเทียมกันในสังคมนักเรียนโรงเรียนวัด เพราะในขณะที่ผมต้องเดินไปเรียน เพื่อนบางคนก็มีพ่อขับมอเตอร์ไซค์มาส่ง

...ผมมองว่าสิ่งที่ทำให้คนเรา“เท่ากัน”ที่ดีที่สุดคือเราต้อง“สร้าง”สถานะของตัวเอง ไม่ใช่สาบแช่งหรือหวังให้คนอื่นตกลงมาต่ำ หนึ่งในสิ่งที่ทำให้เรายกฐานะได้คือการเรียน ผมไม่เคยอายหรือเสียใจที่เอนท์ไม่ติด จึงเลือกเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง แถม“ดีใจ”ด้วยซ้ำที่สามารถเรียน(จน)จบได้แม้จะต้องใช้เวลาถึง 5 ปี

ผมใช้วุฒิเศรษฐศาสตรบัณฑิตสร้างสถานะให้ตัวเองด้วยการประกอบสัมมาอาชีพ จนสามารถมีปัจจัยสี่เป็นของตัวเอง เมื่อสร้างสถานะเอง ผมดีใจที่ยกสถานะขึ้นมาเทียบเท่าคนอื่นโดยไม่ได้ดึงคนอื่นลงมาอยู่ในสถานะต่ำ

ผมเชื่อแบบนั้น.. และเมื่อผมมีสถานะสูงขึ้นในหน้าที่การงาน(ที่เอื้อต่อสถานะในสังคม) ผมก็อยากให้“เด็กใหม่”เข้าใจสิ่งที่เขาต้องเจอ เหมือนที่ผมเคยเจอ ตอนเรียนจบแล้วไปสมัครงาน แค่บอก“จบราม” บริษัทห้างร้านหลายแห่ง(รวมทั้งบางธนาคารที่ผมไปสมัคร) ยังบอกอย่ามาสมัครให้เปลืองรูปถ่ายเลย ซึ่งผมก็ต้องยอมรับ “สถานะ” ของ “สถาบัน”ว่าแตกต่างกัน ส่วนใครที่คิดต่างจากผม ก็เป็นเรื่องของเขา ผมไม่คิดหรือต้องไปสนใจอะไร เพราะสังคมทั่วโลกผมเชื่อว่าทุกอย่างมี“สถานะ”ที่ทำให้คนต่างกัน

ทันทีที่เรียนจบและทำงาน คุณจะเรียกร้องเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง หรือค่ารับรองเท่ากับผู้บริหาร มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ แต่คุณมีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่ากับคนอื่นอยู่ที่คุณรู้และทำให้ค่าความเป็นคนของคุณสูงส่งหรือต่ำทราม.. แต่ต้องไม่ใช่ดึงคนอื่นลงมาตกต่ำ อยากให้ประธานบริษัทไม่มีรถประจำตำแหน่ง ต้องนั่งรถเมล์มาทำงานเหมือนคุณอันนั้นแค่คิดก็บัดซบแล้ว

เชื่อเถอะ ..เชื่อเหมือนผมว่าสถานะเราเท่ากันในความเป็นคน แต่สถานะทางสังคมมันไม่มีทางเท่ากันได้

ยิ่งเป็น“คนดี” ก็ขอให้เชื่อเถอะว่าคุณมีสถานะดีกว่า“คนเลว”แน่นอน..”

 

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:38 น. ‘ตม.อุบลราชธานี’ตรวจเข้มชายแดนช่องเม็ก จับต่างชาติไม่เข้า-ออกตามช่องทางอนุญาต
09:30 น. ‘เลขาธิการ กกต.’ชวน‘ชาวเชียงราย’เขต 7 ใช้สิทธิเลือกตั้ง คาดยอดผู้มาใช้สิทธิ์ถึง 65%
09:18 น. เสียงจากชายแดนสุรินทร์ ‘โดรนเขมร’ยังบินว่อน คิดให้ดีหากจะ‘เปิดด่าน’
09:04 น. รถเทรลเลอร์ตีนผี พุ่งชนเด็กหนุ่ม รด.วัย18 เสียชีวิตกลางแยกไฟแดง
08:42 น. 'สวนสัตว์สงขลา'มั่นใจ เที่ยวชมสัตว์ได้อย่างปลอดภัย ตามมาตรฐาน WAZA
ดูทั้งหมด
โพสต์เด็ด! 'อาร์ต พศุตม์'พูดถึง'ทักษิณ'หลังศาลสั่งจำคุก 1 ปี
เกิดอะไรขึ้น? 'เปิ้ล นาคร'ออกประกาศร่อนจดหมายปลดพนักงาน
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
'เป๊ก-เพลง'ไปต่อหรือพอแค่นี้? วงในเมาท์แรงหลังจัดตั้งครม. รู้เรื่อง!
เช็คที่นี่!เปิด 32 รายชื่อ‘โผครม.อนุทิน1’ส่งตรวจคุณสมบัติ คาดสัปดาห์นี้นำขึ้นทูลเกล้าฯ
ดูทั้งหมด
เพ้อพล่ามตามแบบคนสอนหนังสือที่เลื่อนลอย
บุคคลแนวหน้า : 14 กันยายน 2568
อาหารทะเลกับสารอาหารต่างๆ
ว่าด้วยเรื่อง ‘เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา’
ไทยแพ้เกมกัมพูชาในเชิงการทูต
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รถเทรลเลอร์ตีนผี พุ่งชนเด็กหนุ่ม รด.วัย18 เสียชีวิตกลางแยกไฟแดง

'สวนสัตว์สงขลา'มั่นใจ เที่ยวชมสัตว์ได้อย่างปลอดภัย ตามมาตรฐาน WAZA

หนุ่มเมียนมาตามหาแฟน เค้นถามเพื่อนไม่ยอมบอก ชักมีดแทงอกซ้าย

ชัยภูมิปลุกขบวน'ผีสุ่ม'ตระการตา! แห่บุญเดือนสิบ สืบสานตำนานผีไร้ญาติ

สุดสลด 5เด็กนักเรียนชวนกันไปเล่นน้ำจมดับ 3 ญาติร่ำไห้ลืออาถรรพ์ลำห้วย

ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ ระหว่างวันที่ 14 -20 กันยายน พ.ศ. 2568

  • Breaking News
  • ‘ตม.อุบลราชธานี’ตรวจเข้มชายแดนช่องเม็ก จับต่างชาติไม่เข้า-ออกตามช่องทางอนุญาต ‘ตม.อุบลราชธานี’ตรวจเข้มชายแดนช่องเม็ก จับต่างชาติไม่เข้า-ออกตามช่องทางอนุญาต
  • ‘เลขาธิการ กกต.’ชวน‘ชาวเชียงราย’เขต 7 ใช้สิทธิเลือกตั้ง คาดยอดผู้มาใช้สิทธิ์ถึง 65% ‘เลขาธิการ กกต.’ชวน‘ชาวเชียงราย’เขต 7 ใช้สิทธิเลือกตั้ง คาดยอดผู้มาใช้สิทธิ์ถึง 65%
  • เสียงจากชายแดนสุรินทร์ ‘โดรนเขมร’ยังบินว่อน คิดให้ดีหากจะ‘เปิดด่าน’ เสียงจากชายแดนสุรินทร์ ‘โดรนเขมร’ยังบินว่อน คิดให้ดีหากจะ‘เปิดด่าน’
  • รถเทรลเลอร์ตีนผี พุ่งชนเด็กหนุ่ม รด.วัย18 เสียชีวิตกลางแยกไฟแดง รถเทรลเลอร์ตีนผี พุ่งชนเด็กหนุ่ม รด.วัย18 เสียชีวิตกลางแยกไฟแดง
  • \'สวนสัตว์สงขลา\'มั่นใจ เที่ยวชมสัตว์ได้อย่างปลอดภัย ตามมาตรฐาน WAZA 'สวนสัตว์สงขลา'มั่นใจ เที่ยวชมสัตว์ได้อย่างปลอดภัย ตามมาตรฐาน WAZA
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

คดีอาญา ป่วยทิพย์ชั้น 14  คุกหนักกว่า 1 ปี แน่นอน

คดีอาญา ป่วยทิพย์ชั้น 14 คุกหนักกว่า 1 ปี แน่นอน

12 ก.ย. 2568

นายกฯไทยคนแรกที่ติดคุก  จากคดีทุจริตประพฤติมิชอบ

นายกฯไทยคนแรกที่ติดคุก จากคดีทุจริตประพฤติมิชอบ

11 ก.ย. 2568

ทักษิณติดคุกจากกรรมเก่า  และเสี่ยงถูกแจ้งข้อหาใหม่เพิ่มจากปมชั้น14

ทักษิณติดคุกจากกรรมเก่า และเสี่ยงถูกแจ้งข้อหาใหม่เพิ่มจากปมชั้น14

10 ก.ย. 2568

คืนชีพ ‘คนละครึ่ง’  แต่ต้อง ‘ไม่หยุดแค่คนละครึ่ง’

คืนชีพ ‘คนละครึ่ง’ แต่ต้อง ‘ไม่หยุดแค่คนละครึ่ง’

9 ก.ย. 2568

ทักษิณอัสดง  เพื่อไทยฝ่ายค้าน

ทักษิณอัสดง เพื่อไทยฝ่ายค้าน

8 ก.ย. 2568

นักการเมืองแย่งอำนาจกัน  อย่าบังอาจกดดันเบื้องสูง

นักการเมืองแย่งอำนาจกัน อย่าบังอาจกดดันเบื้องสูง

5 ก.ย. 2568

ชิงเหลี่ยมการเมือง  ส้ม แดง น้ำเงิน

ชิงเหลี่ยมการเมือง ส้ม แดง น้ำเงิน

4 ก.ย. 2568

ดาบสอง ยุบพรรค  ดาบสาม อาญา

ดาบสอง ยุบพรรค ดาบสาม อาญา

3 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved