สัปดาห์ จะมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของ “พืชกัญชา”
1. เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มีมติเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. … โดยปลดล็อกกัญชา-กัญชงออกจากบัญชีรายชื่อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (ยส.5)
ขั้นต่อไป คือ กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอ (ร่าง) ประกาศดังกล่าวต่อ “คณะกรรมการ ป.ป.ส.” ที่มี “นายวิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 29 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ในวันที่ 25 ม.ค.นี้
หากวันที่ 25 ม.ค.นี้ ผ่านความเห็นชอบจาก “คณะกรรมการ ป.ป.ส.” ก็จะเสนอต่อ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีอำนาจตามประมวลกฎหมายยาเสพติดเห็นชอบเพื่อลงนามประกาศใช้ต่อไป
2. นพ.ธงชัย กีรติหัถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด เปิดเผยว่าในการประชุม 20 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการฯ มีการเข้าประชุม 28 ท่าน โดย 25 ท่านเห็นชอบต่อร่างนี้ ที่เหลือเห็นชอบแต่ขอให้รับข้อสังเกตไว้ด้วย ซึ่ง(ร่างนี้) กำหนดระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. .... คือ สารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis ยกเว้นที่ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษคือ ก.สารสกัดจากพืชกัญชา กัญชง เฉพาะที่ได้จากการอนุญาตปลูกในประเทศ ในทุกส่วนที่มีปริมาณสาร THC ไม่เกิน 0.2% โดยน้ำหนัก และ ข.สารสกัดจากเมล็ดกัญชา กัญชงที่ได้จากการปลูกในประเทศเช่นกัน
เท่ากับว่า หากร่างนี้มีผลบังคับใช้ “พืชกัญชา” จะไม่ได้ถูกระบุเป็น “ยาเสพติด”อีกต่อไป
ฉะนั้น ผู้ที่ครอบครอง “ทุกส่วนของกัญชา” จะไม่ถูกจับกุมเว้นแต่ผู้ที่ครอบครอง “สารสกัดจากทุกส่วนของกัญชา ที่มี THC เกิน 0.2% โดยน้ำหนักเท่านั้นที่จะถือว่าผิดกฎหมาย
รวมถึง จะสามารถปลูกกัญชาได้!
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความ “กัญชา”จะไม่ถูกควบคุมเพียงแต่จะไม่ได้ดำเนินการในฐานะที่เป็น “ยาเสพติด” จะเป็นการควบคุมในลักษณะคล้ายกับยาสูบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3. พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการควบคุมยาเสพติด กล่าวว่า ประเด็นว่าร่างประกาศจะขัดอนุสัญญาระหว่างประเทศหรือไม่นั้น ในอนุสัญญาระหว่างประเทศให้ควบคุมเรื่องการปลูกพืชกัญชา ในตระกูลแคนนาบิส แต่ไม่กำหนดว่าจะต้องควบคุมภายใต้กฎหมายยาเสพติด ดังนั้น เรากำลังเสนอร่างกฎหมายมาควบคุมเช่นเดียวกับกระท่อม แต่ขณะเดียวกันคุมเฉพาะที่ปลูกในประเทศส่วนที่มาจากต่างประเทศยังคงเป็นยาเสพติดที่ต้องห้ามอยู่
“การควบคุมหากกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดนั้น อยู่ที่จะเอาไปทำอะไร หากเอามาทำอาหารก็จะมี พ.ร.บ.อาหาร เครื่องสำอางก็มี พ.ร.บ.เครื่องสำอางส่วนการปลูกทำได้ ยกเว้นปลูกเพื่ออุตสาหกรรมที่ต้องขออนุญาตการปลูกที่บ้าน แล้วนำช่อดอกมาใช้ หากยังไม่มีกฎหมายฉบับอื่นออกมาบังคับหรือควบคุม ก็ใช้ได้ ในการควบคุมการปลูกก็อาจมี พ.ร.บ.กัญชาควบคุม เหมือนกับการควบคุมการปลูกยาสูบ ซึ่งขณะนี้มีการยกร่างรอแล้ว” พ.ต.อ.ประเวศน์กล่าว
4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล ระบุว่า มติที่ประชุมผ่านร่างประกาศระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ถือเป็นการปลดล็อกกัญชา เพื่อสนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ประกาศต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพัฒนาพืชกัญชา-กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และสุขภาพ ตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สำหรับการเสริมสร้างรายได้ของประชาชน และนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สินค้า อุตสาหกรรมต่างๆ ขึ้นมา
“หลังจากนี้การพิจารณาขึ้นอยู่กับ ป.ป.ส. ฝากว่าขอให้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนประโยชน์ของบ้านเมือง อย่าคำนึงถึงอำนาจตัวเองที่เคยมีว่าจะสูญหายไป ซึ่งจะทำให้เกิดความสูญเสียในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะวันนี้กัญชาเป็นพืชที่มีประโยชน์” นายอนุทินกล่าว
5. การศึกษาวิจัยเรื่อง “การถอดบทเรียนการปลูกกัญชาทางการแพทย์ของวิสาหกิจชุมชน กรณีศึกษาบ้านโนนมาลัย” ใน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ต้น โดย ภก.ชัยสิทธิ์ สุนทรา เภสัชกรชำนาญการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี พบว่า การปลูกกัญชา 6 ต้น นั้น สามารถสร้างผลกำไร ให้แก่เกษตรกรได้ตั้งแต่รอบแรกของการปลูก โดยมีในช่วงระยะเวลา 8 เดือน พบว่าในภาพรวม 7 แปลงปลูกกัญชา มีต้นทุนคงที่ 80,201 บาท ต้นทุนผันแปร 37,931 บาท รวมต้นทุนทั้งหมด 118,132 บาท แต่เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว สามารถสร้างรายได้สุทธิ 148,285 บาท ชัดเจนว่าการปลูกกัญชาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และหากชาวบ้านทั่วไปสามารถปลูกได้อย่างถูกกฎหมายรายได้จะกระจายสู่ชุมชน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้มีสิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปด้วยว่า การปลดล็อกว่าพืชกัญชาไม่เป็นยาเสพติดแล้ว นั่นหมายความว่า การปลูกกัญชาก็จะแพร่หลายขึ้น ปริมาณผลผลิตก็จะมากขึ้น แล้วราคาก็จะต้องลดลง เป็นธรรมดา
ดังนั้น ผลตอบแทนจากการปลูกกัญชาก็อาจจะไม่เฟื่องฟุ้งเหมือนที่หลายคนวาดหวังไว้
แต่ที่แน่ๆ ชาวบ้านจะสามารถเข้าถึงการปลูกกัญชาได้สะดวกกว่าเดิม ต้นทุนลดลงกว่าเดิม
สุดท้าย จุดเปลี่ยนของพืชกัญชา หากวันที่ 25 ม.ค.นี้ ผ่านความเห็นชอบจาก “คณะกรรมการ ป.ป.ส.” หลังจากนั้น ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว เพราะจะส่งต่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหาเสียงด้วยนโยบายกัญชา 6 ต้นนั่นเอง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี