วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
.jpg)
เมื่อวาน 20 มีนาคม 2565 พรรคเพื่อไทยจัดอีเว้นท์ใหญ่ “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ที่อุดรธานี
ไฮไลท์ คือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ประกาศสู้ศึกเลือกตั้ง ทวงคืนอำนาจรัฐ จะต้องเป็นรัฐบาลให้ได้
1. ชัดเจนว่า นี่คือการประกาศต่อสู้ทางการเมือง เพื่อแย่งชิงการเป็นรัฐบาล
เพราะฉะนั้น ควรจะเลิกอ้างวาทกรรมเรื่องเผด็จการ-ประชาธิปไตย ตีกินฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอีกต่อไป
2. เทียบกับอีเว้นท์แรก เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ครั้งนั้น พรรคเพื่อไทยเปิดตัว “แพทองธาร ชินวัตร”ประธานคณะทำงานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม
จัดใหญ่กว่าเปิดตัว “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ครั้งนี้ ชัดเจนว่า ใครคือเจ้าของพรรคตัวจริง?
3. “สืบทอดพันธุกรรม”
ในครั้งนี้ นพ.ชลน่าน ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม เราสืบสายเลือดมาจากไทยรักไทย พลังประชาชน ครอบครัวเพื่อไทยจะเป็นนวัตกรรมใหม่ภาคประชาชน ที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาการปิดกั้น โอกาสการมีส่วนร่วมจากประชาชน ที่มีหัวใจเดิมคือพรรคเพื่อไทย จะใช้กลไกนี้มาสร้างกลไกภาคพลเมืองมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ให้ชนะเลือกตั้งถล่มทลายแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน...
“...สำคัญที่สุด คือ ผู้นำ ผู้นำครอบครัวเพื่อไทย จะต้องสามารถหลอมเอาหัวใจเดิมๆ สืบทอดพันธุกรรม มาสืบทอดความสำเร็จ ...เรามั่นใจนวัตกรรมการเมืองภาคพลเมือง 400 เขต ภายใน 2 เดือนนี้ 8 ล้านสมาชิก และครอบครัวจะใหญ่โตขึ้นในบ้านหลังใหม่ของพวกเรา มั่นใจจะได้ 15 ล้านถ้าเราช่วยกัน เพื่อไทยหัวใจเดิม เป้าหมายแลนด์สไลด์จะเป็นของเรา แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดผู้นำ เราได้สายเลือดแห่งพันธุกรรมของผู้มีปรารถนาดีต่อบ้านเมือง เราภาคภูมิใจที่จะประกาศว่า ผู้นำของครอบครัวเพื่อไทย คือ ประธานคณะทำงานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมคือ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” - หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว
4. คุณหนูตระกูลชิน “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย”
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวว่า ขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ไว้วางใจแต่งตั้งให้ตนเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เมื่อได้ย้อนดูย้อนดูประวัติศาสตร์ของพรรค ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ทำให้น้ำตาจะไหล หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนจำได้ แต่ขณะนั้นตนเป็นแค่ผู้เฝ้ามองยังไม่มีส่วนร่วมทางการเมือง ตอนคุณพ่อ(นายทักษิณ ชินวัตร) ตั้งพรรคไทยรักไทย ตนอายุเพียง 12 ขวบ ตอนคุณพ่อโดนรัฐประหาร เรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปี 2 ตอนคุณอายิ่งลักษณ์ ถูกรัฐประหาร อายุ 28 ปี วันนี้เป็นผู้ใหญ่ เป็นคุณแม่คนแล้ว...
“เรามีเป้าหมาย 2 เรื่อง เรื่องแรกสร้างการมีส่วนร่วมในการทำงาน ในแต่ละเจเนอเรชั่น ซึ่งมีความคิดแตกต่างกัน เราต้องหาจุดตรงกลางให้คนมีความคิดแตกต่างกัน ทำงานร่วมกันได้ เราจะรอเวลาที่เหมาะสมจะเปิดเผยนโยบายให้รับทราบต่อไป
เป้าหมายที่สอง เราต้องตั้งรัฐบาลให้ได้ ระบอบเผด็จการต้องหมดไป อาจจะไกลตัว แต่ไม่ไกล เราต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และเป็นแกนนำ ทำประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ถ้าพรรคจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ นโยบายดีแค่ไหนก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ นโยบายของเราจะเติมเงินในกระเป๋าอย่างมีเกียรติ และทำให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจ อำนาจรัฐเท่านั้น จะทำให้ทุกอย่างเป็นจริงและเดินไปถึงเป้าหมาย
บ้านหลังนี้ต้อนรับทุกคนด้วยหัวใจดวงเดิม เราจะอยู่ด้วยกันเป็นครอบตัว เราจะไม่ทิ้งกัน” แพทองธารกล่าว
5. ในอีเว้นท์ล่าสุด เป็นการประกาศตัวชัดเจนว่า เป็น “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย”
วันนี้ คุณหนูตระกูลชิน เป็น “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย”
ดูยิ่งใหญ่ และทรงอิทธิพลกว่า “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” เพราะถึงขนาดหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังซูฮกยกย่อง ประหนึ่งเป็นพ่อบ้านในการกล่าวนำเปิดตัวท่าน
6. น่าสะท้อนใจมาก ที่บุคคลระดับหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ที่นิยมอ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยซ้ำแล้วซ้ำอีก ได้หยิบยกวาทะ “สืบทอดพันธุกรรม” – “เราได้สายเลือดแห่งพันธุกรรม” มาเป็น “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” เพราะนั่นย้อนแย้งกันหรือไม่กับการสร้างภาพความเป็นพรรคการเมืองที่สมาชิกมีส่วนร่วมตามครรลองประชาธิปไตย
ตอกย้ำสิ่งที่นายจอม เพชรประดับ เคยโพสต์เฟซบุ๊คว่าด้วยเรื่อง “พรรคเพื่อไทย” ควรจะเปลี่ยนเป็น “พรรคพวกชินวัตร มากกว่า” ระบุว่า
“...น่าจะถึงเวลาที่ “พรรคเพื่อไทย” ควรจะเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่เป็น “พรรคพวกชินวัตร” ไปเลย จะได้หมดเรื่อง หมดข้อกังขา กระจ่างแจ้งกันไปเลย แสดงว่ายังไม่เข็ดหลาบกับการเล่นการเมืองแบบวงศาคณาญาติเหมือนอย่างที่พันธมิตรฯ หรือ กปปส.เคยต่อต้านขับไล่จนบ้านแตก คนในครอบครัวแต่ละคนต้องมีอันเป็นไปอยู่ในแผ่นดินบ้านเกิดตัวเองไม่ได้... ...คุณทักษิณ ชินวัตร แม้จะมีความฉลาดหลักแหลมมีวิสัยทัศน์ในด้านเศรษฐกิจ แต่ในด้านการเมือง คุณทักษิณ ไม่เคยเปลี่ยน ยังคงใช้ “ประชาชน” เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่ออำนาจและพวกพ้องตัวเองอยู่เหมือนเดิม...”
และชวนให้ลองย้อนนึกดูว่า ที่ผ่านมา ทักษิณเคยถีบหัวเรื่องส่งคนเสื้อแดงอย่างไร?
เคยปล่อยให้ลูกน้อง ระดับรัฐมนตรี ระดับแกนนำ ติดคุกติดตะราง แต่ตัวเองหนีคดีเอาตัวรอดอย่างไร?
7. อีเว้นท์ที่แล้ว คุณหนูตระกูลชิน ผู้สืบทอดพันธุกรรม กล่าวว่า
“...จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ในฐานะที่ปรึกษา มุ่งมั่นทำงานอย่างแท้จริง ในฐานะลูกของนายทักษิณ ซึ่งท่านไม่เคยลืมบุญคุณแผ่นดินไทย ไม่เคยลืมคนไทย ท่านปรารถนาอย่างมาก อยากกลับเมืองไทย..” - 28 ต.ค. 2564
เรียกว่า กล่าวถึงความต้องการกลับบ้านของนายทักษิณ ตั้งแต่โอกาสแรกที่ได้รับตำแหน่ง
สื่อสะท้อนชัดเจนถึงความต้องการทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนตนของคนตระกูลชินวัตร
ขณะที่นายทักษิณ ผู้หลบหนีโทษจำคุก และหมายจับ คดีทุจริตประพฤติมิชอบ ก็กล่าวบ่อยครั้งว่า จะกลับไทยแน่นอน และกลับแบบไม่ต้องติดคุก ส่วนจะกลับแบบไหนเมื่อไหร่จะบอกอุ๊งอิ๊งเป็นคนแรก!!!
เท่ากับ ส่งสัญญาณว่า การกลับไทยแบบไม่ต้องเข้าคุกของนายทักษิณ เกี่ยวพันกับการเข้ามาเล่นการเมืองของอุ๊งอิ๊ง ใช่หรือไม่?
เอาอีกแล้วหรือ?
8.อุ๊งอิ๊งมีสิทธิและคุณค่าที่จะเข้ามาทำงานการเมือง
แต่ไม่ควรจะเป็นเครื่องมือของคนหนีคุกหนีตะรางจากคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นบิดาของตนเองก็ตาม เพราะหากทำเช่นนั้น ก็เท่ากับทำลายความชอบธรรมในการทำงานการเมืองของตนเอง และทำลายความไว้วางใจและความหวังดีต่อประเทศชาติส่วนรวมของผู้สนับสนุนไปโดยปริยาย
ลองนึกภาพ อุ๊งอิ๊งที่ทำงานการเมือง โดยไม่มีนายทักษิณมาอยู่ในสมการความคิด ย่อมจะคล่องตัว และน่าสนใจติดตาม และเอาใจช่วย หากเรื่องใดเป็นประโยชน์กับประเทศชาติส่วนรวม
เปรียบเทียบกับอุ๊งอิ๊งที่ต้องแบกนักโทษหนีคุกไว้บนหลัง ต้องกังวลกับการอาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้ได้กลับบ้านโดยไม่ต้องติดคุก เหมือนสมัยรัฐบาลอาปู “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ยิ่งลักษณ์นายกฯ” เกิดผลกระทบและความเสียหายแก่ประเทศชาติขนาดไหน
.jpg)
9. ในอดีต นายกฯตระกูลชินฯ เคยอาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์แก่นายทักษิณมาแล้วหลายครั้งหลายหน
อาศัยความไว้ใจที่ประชาชนมอบให้ ไปเอื้อประโยชน์ส่วนตัวแก่คนในครอบครัว
ที่อุ๊งอิ๊งกล่าวเทียบเคียงว่า ตนเองอายุเท่าใด เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองอะไรบ้างนั้น ควรจะกล่าวให้ถ้วนทั่ว ถึงเหตุการณ์ด้านลบที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยด้วย รวมถึงการทุจริตประพฤติมิชอบในยุครัฐบาลใต้อาณัติของทักษิณ ที่ทำให้คนในครอบครัวตนเองได้ผลประโยชน์
ยกตัวอย่างง่ายๆ แค่เรื่องธรณีสงฆ์อัลไพน์ พิสูจน์จนคดีถึงที่สุดแล้ว นายยงยุทธติดคุกไปแล้ว ศาลพิพากษาชัดเจนว่าเป็นการทุจริตประพฤติมิชอบที่มุ่งเอื้อประโยชนแก่ผู้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ผู้ถือเอกสารสิทธิที่ดิน ซึ่งก็คือบริษัทที่ตระกูลชินวัตรและอุ๊งอิ๊งเป็นเจ้าของนั่นเอง
การกระทำอุกอาจ อาศัยอำนาจรัฐ อำนาจการเมือง แปลงธรณีสงฆ์สนามกอล์ฟอัลไพน์ แต่ผู้ได้รับผลประโยชน์ในทางธุรกิจตัวจริง ครอบครัวนายทักษิณ ยังไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ
ปัจจุบัน ที่ดินอัลไพน์ก็ยังไม่กลับคืนเป็นธรณีสงฆ์
กรรมจะเป็นเครื่องชี้เจตนา กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
คุณหนูตระกูลชิน สืบทอดพันธุกรรม ทวงอำนาจรัฐเพื่อพ่อ หรือเพื่อใคร?
สันติสุข มะโรงศรี

พสกนิกรหลั่งไหลสักการะ พระพันปีหลวง กทม.เตรียมรับปชช. เข้ากราบพระบรมศพ
อุตุเตือน12จว. รับมือฝนหนัก ใต้คลื่นลมแรง ระวังการเดินเรือ
ปชน.ชูสโลแกน‘มีเรา ไม่มีเทา’ โวกวาด250สส. ขอเวลาดัน‘เท้ง’ขึ้นอันดับ1 พท.จองกฐินซักฟอกรัฐบาล
เชิญ‘หนู-วรภัค’แจง กมธ.มั่นคงลุยสอบ5พ.ย.นี้ เคลียร์ปมสแกมเมอร์/ทุนเทา
‘เป้ อารักษ์’ ชวน ‘TIMETHAI’ ควบม้า เตรียมบุกทองหล่อ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี