ในขณะที่เทศบาลในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศกำลังรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชันกันกันอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนว่าที่ กทม. ซึ่งประชาชนได้รับโอกาสสำคัญในการเลือกผู้ว่าฯ กลับไม่ค่อยเห็นแบบความกระตือรือร้นแบบนี้เท่าไหร่
ตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนปรากฏการณ์นี้ได้ชัดเจนเลยคือ ในขณะที่หน่วยงานของรัฐทั่วประเทศเริ่มนำข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT นำเสนอ มาใช้ในการทำให้การจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้เกิดความโปร่งใสเพิ่มขึ้น ป้องกันการแข่งขันในการประมูลที่ไม่ยุติธรรม ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณชาติได้จริงเป็นหลักแสนล้านบาทแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนในตอนแรกๆ กทม. จะไม่อยู่ในรายชื่อหน่วยงานรัฐที่ตื่นตัวกับโครงการดีๆ อย่างนี้เลย ทำให้การประมูลงานสร้างหลายงานยังอยู่ในกลุ่มวงแคบๆ ความโปร่งใสต่ำๆที่การแข่งขันยังน้อยๆ อยู่
จากที่ตัวผมเองเคยได้เข้าไปทำงานในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบกรุงเทพมหานครที่มีชื่อเรียกกันเล่นๆ ว่า ป.ป.ช. กทม. ซึ่งกรรมการชุดนี้มี พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เป็นประธานฯ แต่งตั้งขึ้นโดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ในสมัยแรกของการที่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ ดูเป็นการเริ่มต้นด้วยดีและมีความหวัง โดยข้าราชการได้นำเอาระบบประเมินความดีความชอบประจำปีที่ได้มีการวางระบบไว้ดีมาก มีการให้คะแนนการกระทำที่มีคุณธรรม ปราศจากการทุจริตไว้อย่างละเอียดเป็นหมวดหมู่ประกอบกับคุณภาพของข้าราชการ กทม. ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นที่มีคุณภาพที่ดี ผมจึงมองว่าการทำงานของกรรมการชุดน่าจะได้ออกมาดีมีอนาคต
แต่ปรากฏว่า การร้องเรียนเรื่องต่างๆ เข้ามามีน้อยมาก เรื่องที่สอบแล้วมีการลงโทษได้จริง มีอยู่แค่ 1 คดี คือคดีทุจริตขายน้ำแดงในโรงเรียน ส่วนคดีใหญ่ซึ่งกิจการเอกชนรายหนึ่งถูกเรียกเงินให้จ่ายสินบนจากระดับผู้อำนวยการที่มีอำนาจประเมินภาษีบำรุงท้องถิ่น เป็นเงินเกือบสิบล้านบาท เพื่อแลกกลับการที่จะประเมินรายรับให้ลดลง กรณีนี้ถึงแม้ว่าผู้ร้องเรียนจะมีหลักฐานที่ดูว่าแน่นหนามากเพราะผู้เรียกร้องเงินได้เข้าไปในห้องของผู้บริหารของเอกชนด้วยตัวเอง และถูกกล้อง CCTV อัดภาพและเสียงไว้อย่างชัดเจน ว่ามีการเรียกร้องเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่จะสมยอมประเมินรายได้ของเอกชนรายนั้นให้ลดลงได้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไปแต่ฝ่ายข้าราชการประจำ กมท. ขอไปตั้งคณะกรรมการไต่สวนหาข้อเท็จจริงเอง แล้วตัดสินว่าหลักฐานที่บันทึกไว้นั้น มีเพียงจากหลักฐานชิ้นเดียว จึงอาจถูกการตกแต่งขึ้นได้ และมีพยานจากผู้กล่าวหาเพียงท่านเดียว จึงไม่เพียงพอ ที่จะตัดสินลงโทษได้ มันเป็นไปได้อย่างไร!
สรุปว่า ผู้อำนวยการคนนั้นก็ยังคงได้อยู่ในตำแหน่งเดิม ที่เดิมและทำหน้าที่เดิมในปีต่อมา แล้วก็ได้เข้าไปประเมินภาษีของเอกชนรายเก่า ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนอีกด้วย! น่าสงสารเอกชนรายนั้น ที่ประพฤติตนเป็นคนดีของสังคม ไม่ยอมร่วมกระทำสิ่งผิดๆ แม้จะมีผลลดค่าใช้จ่ายภาษีของธุรกิจของตนก็ตาม กลับกลายเป็นต้องถูกลงโทษจากการทำดีไปเสีย
เรื่องนี้เลยทำให้ คณะกรรมการฯ ป.ป.ช. กทม.ไม่เคยได้รับการร้องเรียนจากเอกชนอีกเลย! แน่สิครับ ใครจะกล้าอีกล่ะ
ท่ามกลางความรุนแรงของการคอร์รัปชัน ก็ยังพอจะมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง นั่นคือปัญหาการรีดไถเงินค่าใบอนุญาตก่อสร้าง มีครั้งหนึ่งที่บริษัทสถาปนิกชื่อดังหลายบริษัทเกิดความร่วมแรงรวมใจกันที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยออกแบบบ้านที่ผ่านมาตรฐานและระเบียบกฎหมายทุกข้อแล้ว เป็นแบบสำเร็จรูปให้ฟรีๆ เลย ยื่นยังไงก็ต้องผ่าน แสดงให้เห็นว่า ถ้าพยายามจะแก้ไขจริงๆมันพอจะแก้ได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม สำหรับอาคารขนาดใหญ่ ที่ไม่สามารถออกแบบสำเร็จรูปได้ ยังมีความเสี่ยงอยู่ ACT ก็ได้เคยจัดสัมมนา เพื่อหาทางขจัดสินบนออกใบอนุญาตก่อสร้างแบบนี้ก็ปรากฏว่าได้ความสนใจจากผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างน้อยมาก แถมหลังการสัมมนายังมีผู้ประกอบการบางรายแอบมากระซิบผมว่า “อาจารย์อย่าไปยุ่งเรื่องนี้เลย พวกผมรู้วิธีจัดการเรื่องนี้ได้ดีกว่าและก็มีความสุขสบายลงตัวอยู่แล้ว” ซึ่งทำให้ผมเศร้าใจมาก
อีกเรื่องที่น่าตกใจคือ ผู้บริหาร กทม. อีกท่านหนึ่งซึ่งผมเคยไปเป็นที่ปรึกษา เคยขอให้ผมหาวิธีที่ส่งเสริมให้ข้าราชการ กทม. และ ผู้ประกอบการ ทำความดี หรือ ส่งเสริมให้ประชาชนดูแลการก่อสร้างในชุมชนเขา หรือหน้าบ้านเขาให้มีคุณภาพ ดีกว่าที่จะไปไล่จับนำคนมาลงโทษ แบบนั้นจะเกิดความวุ่นวาย กทม. จะหยุดชะงัก ไม่มีผลงาน
จุดหนึ่งที่เป็นรูรั่วใหญ่คือ รองผู้ว่าฯ ฝ่ายโยธาที่ผู้ว่าฯ มีสิทธิ์แต่งตั้งมาร่วมทีม เป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก เพราะเป็นผู้คุมงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างของ กทม. ด้านในการก่อสร้าง ซ่อมบำรุง จำนวนมหาศาลในแต่ละปีถ้าสามารถไปคุมบริษัทเอกชน ทั้งบริษัทออกแบบ และบริษัทรับเหมาให้สมัครสมานสามัคคีกันดี แบบประสานผลประโยชน์กันลงตัวแล้ว ก็จะไม่มีเรื่องมีราวร้องเรียนออกมาภายนอก คนกลุ่มนี้ ยังเป็นคนที่จะมาช่วยกันระดมหาคะแนนเสียงให้กับทีมผู้ว่าฯ ที่เขาจะคุยได้ และมีงบของขวัญราคาแพงๆ มอบให้รองผู้ว่าฯ ฝ่ายโยธาทุกคนไม่ว่าฝ่ายไหน ที่จะเข้ามารับตำแหน่งใหม่ โดยไม่ต้องเรียกร้องขอ บางครั้งผู้ว่าฯ ยังไม่ได้รับการต้อนรับดีเท่ารองผู้ว่าฯ ฝ่ายโยธานี้เลย
ดังนั้น ผู้สมัครผู้ว่าฯ ใม่ว่าจะสังกัดพรรคหรือที่บอกว่าสมัครแบบอิสระทั้งหลาย อย่าลืมว่าต้องอิสระจากกลุ่มผลประโยชน์เหล่านี้ให้ได้ด้วย ที่ผ่านมา เคยมีมาคนหนึ่งที่ผมเห็น ก็คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ทำได้ เพราะคะแนนมาด้วยคะแนนตัวเอง เงินเลือกตั้งก็มีคนบริจาคช่วยให้ แบบนี้ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณใคร ไม่ต้องตอบแทนด้วยการแจกโครงการให้ใคร แต่ต้องทำงานเองหนักมาก เพราะจะมีข้าราชการบางส่วนไม่ทำงานให้เต็มที่ ผลงานก็จะไม่ออกถ้าจะนั่งสั่งการสบายๆ
ทั้งนี้เหตุผลสำคัญคือ ผลประโยชน์ใน กทม. ลงตัวมานานแล้ว!
เห็นได้ว่า เรื่อง ทุจริตคอร์รัปชันใน กทม. เป็นเรื่องใหญ่ที่แก้ได้ แต่ยังไม่มีคนแก้อย่างจริงจัง ถ้าปล่อยไว้ ก็จะเป็นอุปสรรคกับทุกๆ นโยบายที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ ได้ให้ไว้ไม่ว่าจะมีแผนพัฒนาเมืองให้ก้าวหน้าได้มากแค่ไหน ถ้ายังมีคอร์รัปชันอยู่แบบนี้ แผนที่มีก็แทบจะไม่มีโอกาสเป็นจริงได้เลย จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ผู้ว่าฯ ใหม่จะต้องให้ความสำคัญ
ได้ข่าวมาว่า ACT หรือ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) กำลังรวบรวมเรื่องราวการคอร์รัปชันในกทม. โดยเก็บข้อมูลจากข่าว และ สัมภาษณ์ผู้ที่มีประสบการณ์อยู่ รวมถึงตัวผมเองด้วย เพื่อจะนำไปถาม
ผู้สมัครผู้ว่าฯ ทั้งหลายถึงนโยบายและความจริงจัง จริงใจในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันใน กทม. ผมขอติดตามเรื่องนี้และจะนำความคืบหน้ามาเล่าให้ฟังต่อไปนะครับ
รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค และ ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี