วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ราวเดือนมิถุนายน ได้เขียนบทความสนับสนุนมาตรการจูงใจกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศให้เข้ามาถ่ายทำในประเทศอย่างต่อเนื่อง ตอนนั้น ครม.เห็นชอบมาตรการยกเว้นภาษีนักแสดงชาวต่างชาติ 5 ปี ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
ยกให้เป็นนโยบาย “กุ้งฝอย” ตกเอาปลากะพง(กองถ่ายหนังต่างประเทศ)
ซึ่งคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
โดยรัฐบาลยังมีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้สร้างภาพยนตร์ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ 50 ล้านบาท ขึ้นไป ในรูปแบบการคืนเงิน (Cash Rebate) ร้อยละ 15-20 ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดกองถ่ายต่างชาติ
อย่าลืมว่า ปัจจุบัน อุตสาหกรรมภาพยนตร์โลกมีการแข่งขันสูงมาก ผู้สร้างภาพยนตร์มีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น หลายประเทศมีมาตรการทางการเงินและมาตรการทางภาษีเพื่อดึงดูดให้เกิดการลงทุนสร้างภาพยนตร์ในประเทศตน
ล่าสุด สัปดาห์นี้ ครม.มีการดำเนินการต่อเนื่องเพิ่มเติม พร้อมมีข้อมูลความคืบหน้าที่น่าสนใจมาก
1. ตั้งแต่เริ่มต้นมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน มีภาพยนตร์เข้าร่วมมาตรการแล้ว จำนวน 43 เรื่อง
เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ประมาณ 8,560 ล้านบาท
การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เมื่อเทียบระหว่างเงินที่รัฐบาลคืนให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศกับจำนวนเงินที่ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศนำเข้ามาลงทุนและกระจายรายได้ไปสู่ภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ที่เป็นสถานที่ถ่ายทำทั่วประเทศ
โดยรัฐบาลได้จ่ายเงินคืนแก่ผู้ผลิตภาพยนตร์ภายใต้มาตรการดังกล่าวแล้ว จำนวน 22 เรื่อง รวมเป็นเงินจำนวน 541 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณประจำปีของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ปรากฏว่า มีหนัง 6 เรื่องนี้ ยังไม่ได้รับเงินมาตรการส่งเสริมฯ สัปดาห์ที่ผ่านมา ครม. จึงมีมติอนุมัติงบกลาง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมฯ วงเงิน 212 ล้านบาท
2. ภาพยนตร์ต่างประเทศ จำนวน 6 เรื่องดังกล่าว ได้ถ่ายทำเสร็จสิ้นในช่วงปี พ.ศ. 2564
นำเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย 1,191 ล้านบาท
กระจายรายได้ไปสู่ทีมงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ไม่น้อยกว่า 12,000 คน
ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนสร้างผลกระทบในระบบเศรษฐกิจอัตราทวีคูณ (ประมาณ 2,384 ล้านบาท)
ได้แก่
กองถ่ายหนัง JM (ฝรั่งเศส) นำเงินมาลงทุนในประเทศไทย 140 ล้านบาท
กองถ่ายหนัง Forbidden (สิงคโปร์) นำเงินเข้ามาในไทย 71 ล้านบาท
กองถ่ายหนัง Shantaram 1 สหรัฐอเมริกา นำเงินเข้ามาในไทย 379 ล้านบาท
กองถ่ายหนัง Shantaram 2 สหรัฐอเมริกา นำเงินเข้ามาในไทย 243 ล้านบาท
กองถ่ายหนัง Beer Run สหรัฐอเมริกา นำเงินเข้ามาในไทย 255 ล้านบาท
กองถ่ายหนัง Beer Run2 สหรัฐอเมริกา นำเงินเข้ามาในไทย 99 ล้านบาท
ภาพยนตร์เหล่านี้ ผ่านการตรวจสอบเอกสารทางการเงินและได้รับอนุมัติเงินคืนจากคณะกรรมการพิจารณาการคืนเงินสำหรับมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว รวม
216 ล้านบาท
เทียบกับเม็ดนำเงินที่นำเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย 1,191 ล้านบาท
ไม่รวมผลประโยชน์อื่นๆ ของประเทศ อาทิ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศผ่านซอฟท์ พาวเวอร์ภาพยนตร์ต่างชาติเหล่านี้ การพัฒนาความสามารถของทีมงานคนไทยซึ่งเก่งกาจให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นไปเรื่อยๆ ฯลฯ
ภาพยนตร์ทั้ง 6 เรื่องดังกล่าว มีแผนออกฉายภายในปี พ.ศ 2565 ผ่านทางโรงภาพยนตร์และช่องทางออนไลน์ เช่น HBO, Paramount+, Apple TV โดยภาพยนตร์ทุกเรื่องมีการใส่เครดิตท้ายเรื่องว่ามีการถ่ายทำในประเทศไทย ได้รับเงินสนับสนุนและความร่วมมือจากประเทศไทยเป็นอย่างดี ซึ่งข้อความเหล่านี้จะได้รับการเผยแพร่ไปสู่สายตาผู้ชมและผู้ผลิตภาพยนตร์ทั่วโลก
นี่จึงตอกย้ำว่า เป็นการนำ “กุ้งฝอย” ตกเอาปลากะพง!
3. ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2560 - 2564) มีค่าเฉลี่ยรายได้จากการลงทุนของกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยเฉลี่ยประมาณ 3,500 ล้านบาทต่อปี
เฉพาะในปี 2564 ธุรกิจดังกล่าวสร้างรายได้เข้าประเทศ 5,007 ล้านบาท
ปีนี้ ก็มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ข้อระวัง คือ อย่าให้เกิดกรณีเหมือนกองถ่ายหนังในอดีต ที่ไปถ่ายทำที่อ่าวมาหยา แล้วสร้างความเสียหาย จนกระทั่งศาลฎีกาเพิ่งตัดสินเมื่อเร็วๆ นี้ ให้บริษัทหนังชดใช้ 10 ล้านบาท นี่คือข้อพึงระมัดระวัง
สารส้ม

คนนนท์เตรียมตัว! จนท.วางแนวป้องกันน้ำท่วมชั้นที่ 2 หวั่นท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ
หวังเห็นเหมือนบอล7สี! 'ฮัดสัน'กระตุ้นแข้งช้างศึกเรียกศรัทธาแฟนบอล
ไม่อยากรื้อฟื้น-พาดพิงใคร? 'แม่ทัพกุ้ง'แจงปมเปิดข้อมูลถูกสั่งให้'หยุดยิง'
ส่องชุดงานแต่ง'ใหม่ - ดาวิกา 'และ 'เต๋อ - ฉันทวิชช์'ตัดเย็บขึ้นเป็นพิเศษโดย Gucci
‘ผู้การสิงห์บุรี’ส่งพนักงานสอบสวน อบรมเสริมทักษะรับแจ้งคดีอาชญากรรมเทคโนโลยี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี