ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เรื่องนี้มีกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ และเป็นเรื่องที่คนไทยที่เคารพ เลื่อมใส ศรัทธา และจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไม่คัดค้าน 

แต่ก็มีคนบางกลุ่มไม่ต้องการให้ประเทศไทยดำรงสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ต่อไป โดยอ้างว่าการมีสถาบันพระมหากษัตริย์ทำให้สังคมไทยเกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นเพียงข้ออ้างที่เลื่อนลอย เพราะในสังคมที่ไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ยังมีความไม่เท่าเทียมดำรงอยูู่ เพราะฉะนั้น ข้ออ้างเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นต้นเหตุของความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมจึงเป็นคำโกหก เพราะมีเป้าประสงค์อื่นทางการเมืองแอบแฝง

ภายในบริษัทของนักการเมืองกลุ่มที่ออกมาเรียกร้องให้ยกเลือกสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ไม่มีความเท่าเทียมของบุคคลกลุ่มต่างๆ เพราะเจ้าของบริษัท และโคตรเหง้าศักราช ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ลูกเมียและผัวของเจ้าของบริษัทล้วนมีอภิสิทธิ์เหนือกว่าคนงานและพนักงานของบริษัท ลูกหลานของเจ้าของบริษัทมีความเป็นอยู่ดีกว่าลูกหลานของลูกจ้าง คนงาน และกรรมกรในบริษัท แล้วก็ไม่เคยปรากฏว่านักการเมืองที่เป็นเจ้าของบริษัทจะมีความเป็นอยู่เสมอเหมือนเท่าเทียมกับลูกจ้าง คนงานของบริษัท 

เพราะฉะนั้น คำว่าสังคมต้องเสมอภาค เท่าเทียมตามคำโกหกของนักการเมืองจำพวกที่ต้องการล้มสถาบันพระมหากษัตริย์จึงไม่เคยมีจริงในประเทศไทย และใน
ทุกประเทศทั่วโลกใบนี้ แม้ในสังคมหรือประเทศที่มีระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์ ก็ไม่เคยมีความเท่าเทียม เสมอภาคอย่างแท้จริง เพราะลูกเมียของเหมา เจ๋อตง หรือ เติ้งเสี่ยวผิง หรือ หู จิ่นเทา หรือ สี จิ้นผิง ก็ไม่เคยมีความเป็นอยู่เสมอเหมือนกับคนจีนทั่วไป ดังนั้นคำว่าเสมอภาคกันโดยแท้จริงจึงไม่เคยบังเกิดบนโลกใบนี้ แต่ทว่า ความเสมอภาคกลายวาทกรรมการเมืองเท่านั้น แม้กระทั่งในพรรคการเมืองที่ต้องการล้มเจ้า ก็ยังไม่เคยมีความเสมอภาคที่แท้จริง เพราะทุกอย่างล้วนเป็นคำโฆษณาชวนเชื่อทั้งสิ้น

ขออ้างไปถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในวันนี้ คือวันที่ประเทศสหราชอาณาจักร จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 โดยพระราชพิธีจัด ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน พระราชพิธีนี้เป็นเครื่องแสดงให้โลกเห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ของอังกฤษยังดำรงคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน แม้จะมีอายุยาวนานถึงพันปีมาแล้วก็ตาม นั่นแสดงให้เห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ของอังกฤษยังจำเป็นต่อประเทศสหราชอาณาจักร และชาวอังกฤษ รวมถึงผู้คนในเครือจักรภพอังกฤษอย่างชัดเจน เพราะการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ก็คือการแสดงการยอมรับของผู้คนในประเทศนั้นๆ อย่างเป็นรูปธรรม

คาดกันว่า พระราชพิธีนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจของอังกฤษดีขึ้น เพราะมีเงินแพร่สะพัด หมุนเวียนมากถึง 1 พันล้านปอนด์ แต่บางสำนักคาดว่าเม็ดเงินจะสะพัดมากกว่า 3 พันล้านปอนด์ ภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ของช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เรื่องของเม็ดเงินที่แพร่สะพัดช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น แต่ที่มากกว่าคือการประกาศให้โลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ 

เหตุที่นำพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระมหากษัตริย์ของสหราชอาณาจักรมากล่าวในที่นี้ ก็เพราะต้องการบอกว่าหลายประเทศบนโลกใบนี้ยังมีการปกครองที่สถาบันพระมหากษัตริย์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อของราชอาณาจักรไทยรวมอยู่ด้วย แม้พระราชวงศ์จักรีจะมีอายุ 200 กว่าปี แต่หากสืบสาวให้ลึกไปจนถึงพระราชอาณาจักรก่อนๆ ก่อนจะมาถึงพระราชอาณาจักรไทย ก็จะพบว่าไทยหรือสยามของเรามีประวัติความเป็นมานับพันปีแล้ว ซึ่งก็พบความเกี่ยวเนื่องและสืบทอดต่อๆ กันมาในแต่ละยุคแต่ละช่วงได้อย่างชัดเจน และก็เป็นความจริงว่า ดินแดนที่เป็นไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงบัดนี้ล้วนมีเจ้าผู้ปกครองรัฐ และอาณาจักรสืบต่อกันมาทุกยุค จนมาถึงยุคกรุงรัตนโกสินทร์ เราก็ยังคงดำรงสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้อย่างมั่นคง และจะคงรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้สืบไปจนนานตราบนาน 

การที่พระราชอาณาจักรไทยยังคงดำรงสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ เป็นเพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ยังมีความสำคัญ และมีความจำเป็นต่อการดำรงอยู่ของพระราชอาณาจักรไทย ดังนั้นสถาบันพระมหากษัตริย์จึงยังคงอยู่คู่กับพระราชอาณาจักรสืบมาจนถึงปัจจุบัน หากสถาบันพระมหากษัตริย์ไร้ความสำคัญต่อการดำรงคงอยู่ของแผ่นดินไทยแล้ว คนไทยทั้งแผ่นดินจะพิจารณาเองว่าจะดำเนินการอย่างไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่จำเป็นต้องให้เด็กเมื่อวานซืน ซึ่งไร้ประสบการณ์ในการดูแลบ้านเมือง รวมถึงนักการเมืองจำพวกละเลงขนมเบื้องด้วยปาก ที่หาสาระไม่ได้ ออกมาชี้นำเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ 

คนไทยส่วนใหญ่มั่นใจว่าสถาบันพระมหากษัตริย์สำคัญและจำเป็นมากกว่าพรรคการเมืองที่มีนักการเมืองจำพวกละเลงขนมเบื้องด้วยปาก และเด็กเล่นขายของ
ที่พยายามสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้บ้านเมือง โดยที่ไม่เคยสร้างคุณประโยชน์ใดให้กับชาติบ้านเมือง ดังนั้นจึงยืนยันได้หนักแน่นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ยังจำเป็นกับประเทศไทยและคนไทย ประเทศไทยต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อไป แต่ไม่จำเป็นต้องมีนักการเมืองที่หาประโยชน์มิได้ เพราะรังแต่จะสร้างปัญหาให้บ้านเมืองไม่จบไม่สิ้น เราจึงจำเป็นต้องจัดการขั้นเด็ดขาดกับพรรคการเมืองที่เต็มไปด้วยนักการเมืองไร้คุณค่า ปราศจากประโยชน์