วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / อ่านระหว่างบรรทัด
อ่านระหว่างบรรทัด

อ่านระหว่างบรรทัด

สันติสุข มะโรงศรี
วันจันทร์ ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
แค่เพียงประเทศไทยไปต่อ

ดูทั้งหมด

  •  

ถ้าประเทศไทยเดินหน้าต่อ ตามแนวทาง ทำแล้วทำอยู่ ทำต่อ


โดยที่ฝ่ายระบอบทักษิณ และฝ่ายที่ชักใยใช้ม็อบ 3 นิ้วไม่ได้ครองอำนาจรัฐ

ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร?

1. ประเทศชาติไม่ต้องสูญเสียเงิน 560,000 ล้านบาทไปกับโครงการแจกเงินหมื่นเข้าดิจิทัลวอลเล็ต

สามารถเก็บรักษาพื้นที่ทางการคลังไว้รับมือความไม่แน่นอนในสงครามภูมิรัฐศาสตร์โลก

แต่ประชาชนก็ยังได้รับการดูแลช่วยเหลือผ่านมาตรการอื่นๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นมามากมาย เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส 1,000 บาท โดยเอาเงินสดมาใช้ล่วงหน้าได้ 10,000 บาท, เบี้ยยังชีพผู้สูงวัยที่เพิ่มจำนวนเงินมากขึ้น, เงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เพิ่มจำนวนเงินและช่วงระยะเวลาที่ได้รับเงินอุดหนุนมากขึ้น

อสม. อบต. อปพร. จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น ฯลฯ

2. ประเทศชาติไม่ต้องไปเสียเวลา เสียโอกาสกับความขัดแย้งจากคนที่กระทำผิดกฎหมาย

ทักษิณจะกลับมาก็เรียนเชิญ ไม่ต้องไปกังวลว่าจะนิรโทษกรรมคดีโกง ตามที่นายทักษิณประกาศจะกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน (ไม่ใช่ติดคุกตามคำพิพากษาของศาล)

และไม่ต้องไปเสียเวลากับการนิรโทษกรรมคดีการเมืองตามแนวทางที่นายธนาธรประกาศ โดยรวมเอาคดี ม.112 ด้วย อ้างว่าจะให้มีคณะกรรมการขึ้นมา ซึ่งแทบไม่ต่างกับศาลเตี้ย

แน่นอนว่า ทั้งสองประการข้างต้นนี้ ประชาชนคนไทยจำนวนมหาศาลจะต่อต้านถึงที่สุดอย่างแน่นอน เกิดสภาวะขัดแย้ง เสียเวลา เสียโอกาส เสียทรัพยากรบ้านเมือง

ใครทำผิด ก็ต้องดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมปกติ คดี 112 หลายคดีศาลยกฟ้อง บางคดีศาลรอการลงโทษ ตามข้อเท็จจริงและความร้ายแรงแห่งพฤติการณ์ (ถ้าจะนิรโทษกรรม ก็ต้องไม่รวม ม.112 และคดีโกง)

ใครยังบังอาจทำผิดกฎหมาย ก่อความไม่สงบวุ่นวายในบ้านเมือง ก็ดำเนินคดี หลายประเทศดำเนินคดีเด็ดขาดมากกว่าไทย เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ หรือแม้แต่ฮ่องกง ฯลฯ

ประเทศไทยจะได้ไปต่อ ทุ่มเททรัพยากรกับการพัฒนาประเทศชาติ ช่วยเหลือชาวบ้าน มิใช่มามัวช่วยเหลือคนทำผิดกฎหมายจำนวนไม่กี่คน (น้อยนิดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ประชากร)

3. การเกณฑ์ทหาร ใบแดงลดลงอย่างต่อเนื่อง

จำนวนใบแดงที่ต้องจับสลากเกณฑ์ทหารลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ปีนี้จำนวนคนสมัครมากเป็นประวัติการณ์ เป็นผลสำเร็จจากนโยบายสร้างแรงจูงใจให้คนสมัครเป็นทหารเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน กองทัพบกได้ดำเนินการรีดไขมันลดอัตราทหารกองประจำการลง 20% ในปี 2564-2565ที่ผ่านมา

จึงมีโอกาสสูงที่ใบแดงจะเหลือ 0 ใบ ในปี 2571 โดยไม่กระทบปัญหาความมั่นคง

4. โครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพรุดหน้า

ล่าสุด ธนาคารโลก (World Bank) รายงานดัชนีวัดประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ประจำปี 2566 (International Logistics Performance Index: LPI 2023) ปรากฏว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับประเทศที่มีระบบโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับที่ 34
ของโลก จากทั้งหมด 139 ประเทศ

เป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ไทยได้ถึง 3.7 คะแนน

ถ้าหากประเทศไทยเดินหน้าต่อตามแผน โดยโครงการโครงสร้างพื้นฐานมากมายที่กำลังทำอยู่ทยอยแล้วเสร็จ และเปิดให้ดำเนินการ ในอีก 4-5 ปีข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์เวย์ ถนนหนทาง ท่าเรือ สนามบิน ระบบราง เส้นทางรถไฟสายใหม่ ทางคู่เฟส 1-2 รถไฟความเร็วสูง แลนด์บริดจ์ภาคใต้ ฯลฯ แน่นอนว่า คะแนนของไทย ประสิทธิภาพ ความสามารถในการแข่งขัน จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกมากอย่างแน่นอน

5. ระบบประกันสุภาพถ้วนหน้า จะได้ยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง “บัตรทองพรีเมียม”

ปัจจุบัน องค์กรอนามัยโลก (WHO) ให้การชื่นชมยกย่องไทย โดยใช้โมเดลระบบประกันสุขภาพทั่วหน้าของไทยเป็นหนึ่งใน 4 ประเทศตัวอย่างของระบบประกันสุขภาพทั่วโลก ให้บริการฟรี ไม่ต้องเสียเงิน ให้สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์มากมาย เช่น

เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิ์รักษาฟรีทุกที่ 72 ชั่วโมงหรือพ้นภาวะวิกฤต

รักษาโรคมะเร็ง รับบริการที่ไหนก็ได้ ย้ายหน่วยบริการได้ทันที ให้สิทธิ์ฟอกไตฟรี เพิ่มบริการสำหรับแม่และเด็ก มะเร็งปากมดลูก การให้บริการแว่นตาเด็ก แจกผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับการขับถ่ายสำหรับผู้สูงอายุผู้พิการและผู้มีปัญหากลั้นขับถ่าย บริการรากฟันเทียมรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้าน ฯลฯ

6. เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) และศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของญี่ปุ่น (Japan Center for Economic Research : JCER) ร่วมกับหนังสือพิมพ์ Nikkei คาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ธนาคารพัฒนาเอเชีย คาดการณ์ว่า ในปี 2566 เศรษฐกิจไทย จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 และขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.7 ในปี 2567โดยมีปัจจัยสำคัญจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและการบริโภคของภาคเอกชน

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของญี่ปุ่น (Japan Center for Economic Research : JCER) ประเมินว่า ในปี 2566 ประเทศส่วนใหญ่ในทวีปเอเชียจะมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับปี 2565 ยกเว้นไทยและมาเลเซียที่จะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตได้ถึงร้อยละ 3.7 ในปี 2566

สะท้อนถึงความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพของรากฐานเศรษฐกิจไทย ขณะที่หลายภูมิภาคในโลกชะลอตัว

7. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม สูงสุดในรอบ 10 ปี

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคม 2566 จากการสำรวจผู้ประกอบการจำนวน 1,322 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. อยู่ที่ระดับร้อยละ 97.8 (ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับร้อยละ 96.2 ในเดือนกุมภาพันธ์)

เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3

สูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2556

ปัจจัยสนับสนุนจากการขยายของอุปสงค์ในประเทศ และกำลังซื้อในส่วนภูมิภาคจากรายได้ภาคเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการขยายตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศของภาครัฐ ส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีภาคการก่อสร้างที่ขยายตัวส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 106.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 103.2 ในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ ขณะที่การเปิดประเทศของจีนเป็นแรงสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

8. นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมไตรมาสแรกปี 2566 กว่า 6.4 ล้านคน สร้างรายได้รวมกว่า 2.5 แสนล้านบาท ส่งสัญญาณการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ต้นปี 2566

โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย รัสเซีย จีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ตามลำดับ

สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า เทศกาลสงกรานต์ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย พร้อมคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปี 2566 เติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปี

ททท.วางเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2566 รวม 25-30 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 โดยมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน และมีแนวโน้มจะสูงถึง 7-8 ล้านคน ขึ้นอยู่กับปริมาณเที่ยวบินในช่วงตารางบินฤดูหนาว รองลงมาคือ มาเลเซีย 4 ล้านคน อินเดีย 2 ล้านคน ส่วนรัสเซียและเกาหลีใต้คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน

9. เครื่องผลิตเงิน นำรายได้เข้าประเทศอันใหม่ จะเริ่มทำงาน

โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ที่ใหญ่ที่สุด และบูรณาการมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ประเทศไทย จะดึงดูดการลงทุน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อีกไม่นานจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ภาคอุตสาหกรรมเป้าหมาย ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ตอนนี้หลายบริษัทเริ่มลงทุนสร้างโรงงานผลิตในไทยแล้ว

การต่อยอด EEC ระเบียงเศรษฐกิจ 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางประตู่สู่อาเซียนและจีนตอนใต้

วีซ่าระยะยาว 10 ปี ดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพให้มาลงทุนมากินอยู่ การท่องเที่ยวระยะยาวสร้างรายได้ให้ประเทศชาติเพิ่มเติม ตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง ซาอุฯ

โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ที่ได้ช่วยเยียวยาประชาชนผ่านแอปเป๋าตังและคนละครึ่ง เข้าถึงประชากรมากกว่า 45 ล้านคน สามารถต่อยอดทางการค้าการลงทุน ทำให้คนตัวเล็กค้าขายในโลกยุคใหม่ได้

นอกจากนี้ จะมีการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนต่อเนื่อง แช่แข็งหนี้สูงสุด 3 ปี แก้กฎหมายเครดิตบูโรให้ความเป็นธรรมแก่ลูกหนี้ และมีกองทุนฉุกเฉินประชาชน 3 หมื่นล้านบาท ฯลฯ

ทั้งหมดนี้ ขอเพียงประเทศไทยได้ไปต่อ

ไม่ถูกเข้ายึดครองโดยระบอบทักษิณ และพรรคการเมืองที่สนับสนุนม็อบ 3 นิ้ว ที่เอนเอียงเข้าข้างผลประโยชน์ของมหาอำนาจบางชาติ อันสุ่มเสี่ยงจะนำประเทศไทยเข้าไปอยู่ในจุดแตกหักของภูมิรัฐศาสตร์โลก

คนไทยจะหลงกล หลงเล่ห์เหลี่ยมของนักการเมืองขี้โม้ เก่งแต่สร้างภาพ ปั่นกระแส โกหกตอแหลเป็นไฟ หนีคดีเอาตัวรอดไปอยู่ต่างประเทศ มือไม่พายขยันเอาเท้าราน้ำ

หรือจะให้โอกาสประเทศไทยได้เดินไปต่อ สนับสนุนคนทำงานจริง พิสูจน์กันชัดๆ ก็ต้องติดตามดู

สันติสุข มะโรงศรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
06:00 น. สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’
06:00 น. ปล่อยรัว 3 เพลงติด ‘loserpop’ กับเพลงรักคอมโบเซ็ท
06:00 น. ‘ใบเฟิร์น สุทธิยา’ สลัดลุคหวาน สาดความแซ่บ! พร้อมคัมแบ็กสุดปังในเพลงใหม่ ‘นัดฟิน’
06:00 น. ‘เอิร์น’ปล่อยซิงเกิลใหม่ ‘ซัพพอร์ตผู้หญิงคนนี้ได้ไหมคะ’ แนวน่ารัก สดใส เอาใจสาวไร้คู่
06:00 น. ‘จุฬาฯ’ จับมือ ‘ช่อง 7HD’ส่งรายการใหม่ ‘THE CRACK HUNTER หน่วยล่ารอยร้าว’
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
'แก้ว อภิรดี'ควงลูกสาวเปิดสถานะหัวใจ เผยเตรียมสละโสดก่อนอายุ 35
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 10 พฤษภาคม 2568
หุ้นเด่น : 10 พฤษภาคม 2568
จีนแนะอเมริกาแสวงจิตวิญญาณอเมริกันแทนเป็นอันธพาลโลก
เตรียมหาช่องทางธรรมชาติไว้หนีคดี
บุคคลแนวหน้า : 10 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'โฆษก​ มท.'แจงแล้ว! ​ปมเรียก​สรรพนาม'คุณลูกค้า'แทน'คุณลุง​-​คุณป้า'

มิตรภาพแน่นแฟ้น! 'ปูติน-สี จิ้นผิง'ร่วมชมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะ

ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'

อดทนต่อคำปรามาส! 'นิพิฏฐ์'ขอบคุณทุกฝ่าย ยืนหยัดต่อสู้'คดีชั้น 14'

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

สุดกลั้น! 'นุ่น ดารัณ'เปิดบทเรียนเข้มงวดจนลูกหนีออกจากบ้าน

  • Breaking News
  • สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’ สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’
  • ปล่อยรัว 3 เพลงติด ‘loserpop’ กับเพลงรักคอมโบเซ็ท ปล่อยรัว 3 เพลงติด ‘loserpop’ กับเพลงรักคอมโบเซ็ท
  • ‘ใบเฟิร์น สุทธิยา’ สลัดลุคหวาน สาดความแซ่บ!  พร้อมคัมแบ็กสุดปังในเพลงใหม่ ‘นัดฟิน’ ‘ใบเฟิร์น สุทธิยา’ สลัดลุคหวาน สาดความแซ่บ! พร้อมคัมแบ็กสุดปังในเพลงใหม่ ‘นัดฟิน’
  • ‘เอิร์น’ปล่อยซิงเกิลใหม่ ‘ซัพพอร์ตผู้หญิงคนนี้ได้ไหมคะ’ แนวน่ารัก สดใส เอาใจสาวไร้คู่ ‘เอิร์น’ปล่อยซิงเกิลใหม่ ‘ซัพพอร์ตผู้หญิงคนนี้ได้ไหมคะ’ แนวน่ารัก สดใส เอาใจสาวไร้คู่
  • ‘จุฬาฯ’ จับมือ ‘ช่อง 7HD’ส่งรายการใหม่  ‘THE CRACK HUNTER หน่วยล่ารอยร้าว’ ‘จุฬาฯ’ จับมือ ‘ช่อง 7HD’ส่งรายการใหม่ ‘THE CRACK HUNTER หน่วยล่ารอยร้าว’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ฤาสวรรค์ล่มชั้น 14 ?  2 นายกฯ ลุ้นหนัก

ฤาสวรรค์ล่มชั้น 14 ? 2 นายกฯ ลุ้นหนัก

5 พ.ค. 2568

ยึดทรัพย์ก๊วนจำนำข้าว

ยึดทรัพย์ก๊วนจำนำข้าว

28 เม.ย. 2568

อย่าตัดตอนโยนขี้บริษัทจีน

อย่าตัดตอนโยนขี้บริษัทจีน

21 เม.ย. 2568

ดินพอกหาง กทม.  ต้นทุนของความล่าช้า ราคาของการละเว้น

ดินพอกหาง กทม. ต้นทุนของความล่าช้า ราคาของการละเว้น

14 เม.ย. 2568

เปิดฉากภาค 2  แชร์ลูกโซ่ ดิไอคอนกรุ๊ป

เปิดฉากภาค 2 แชร์ลูกโซ่ ดิไอคอนกรุ๊ป

7 เม.ย. 2568

ตึกถล่ม เพราะแผ่นดินไหว  หรือแทรกซ้อนปัญหาทุจริตโกงกิน?

ตึกถล่ม เพราะแผ่นดินไหว หรือแทรกซ้อนปัญหาทุจริตโกงกิน?

31 มี.ค. 2568

อภิปรายไม่ไว้วางใจ  นายกฯตระกูลชิน

อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯตระกูลชิน

24 มี.ค. 2568

ฆ่าประชานิยม  อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

ฆ่าประชานิยม อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

17 มี.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved