วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนให้คิด
เขียนให้คิด

เขียนให้คิด

เฉลิมชัย ยอดมาลัย
วันอาทิตย์ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ยิ่งลักษณ์จำนำข้าว เศรษฐาแจกเงินดิจิทัล อะไรจะเลวร้ายกว่ากัน

ดูทั้งหมด

  •  

หากคนไทยยังมีสติครบถ้วนสมบูรณ์จะต้องจำได้ดีว่าความเสียหายอันเกิดจากนโยบายลวงโลก จำนำข้าวทุกเมล็ดในสมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อความเสียหายให้ประเทศไทยจำนวนมหาศาล เพราะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างสนั่นเมือง ประเมินว่าก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศมากถึง 1.2 แสนล้านบาท อีกทั้งยังทำให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาดข้าวอย่างแสนสาหัส

โครงการจำนำข้าวทุกเมล็ดในยุคยิ่งลักษณ์เกิดมาจากข้ออ้างว่าต้องการช่วยชาวนา และต้องการทำให้ราคาข้าวของไทยมีราคาสูงขึ้น แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว มิได้เป็นไปตามคำอ้างเลย แต่กลับทำให้ประเทศไทยมีภาระหนี้สินจำนวนมหึมามหาศาล 


หลายคนจำได้ดีว่ารัฐบาลสมัยนั้นเพ้อฝันว่าจะทำให้ชาวนานำข้าวไปแลกเป็นเงินสดได้ ใครจะนำข้าวจำนวนเท่าไรไปจำนำก็ได้ แถมยังตั้งราคาจำนำไว้สูงลิบ คือตันละ 1.5 หมื่นบาท แน่นอนว่านโยบายลวงโลกดังกล่าวก่อให้เกิดความบรรลัยต่อระบบเศรษฐกิจไทยมาจนถึงบัดนี้ แม้จะมีชาวนาบางจำพวกนิยมชมชอบ เพราะคิดว่าตนเองได้ประโยชน์ แต่สุดท้ายก็กลับกลายเป็นว่าชาวนาจำนวนไม่น้อยได้พบกับความย่อยยับ 

โครงการจำนำข้าวทุกเมล็ดทำให้เกิดปัญหาทุจริตสารพัดชนิดตามมา ซึ่งบางคนวิจารณ์ว่าคนกำหนดนโยบายรู้ดีอยู่แล้วว่านี่คือการเปิดช่องให้เกิดการทุจริต จึงได้พยายามดันทุรังทำนโยบายลวงโลกจนได้ แม้จะมีผู้คนที่เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศพยายามคัดค้านแล้ว แต่รัฐบาลก็หาได้ฟังไม่ แล้วสุดท้ายก็บังเกิดความเสียหายแสนสาหัส เพราะเกิดจากการจงใจทุจริตของคนกลุ่มหนึ่ง แล้วสุดท้ายของสุดท้ายยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็หนีคดีอาญาออกไปร่อนเร่เป็นสัมภเวสีจนถึงบัดนี้ 

แน่นอนว่าโครงการจำนำข้าวทุกเมล็ดไม่ได้ก่อผลดีให้กับชาวนาระดับล่าง แต่ก็มีคนได้ประโยชน์จากการทุจริตในโครงการนี้ อ้างจากรายงาน การคอร์รัปชันกรณีการศึกษา : โครงการรับจํานําข้าวทุกเมล็ด เมื่อปี 2557 ระบุว่า ผลประโยชน์จากโครงการนี้โดยส่วนใหญ่ตกอยู่กับชาวนารายกลางและรายใหญ่ ในพื้นที่ชลประทานภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง แต่ได้ทำให้เกิดต้นทุนสวัสดิการ (welfare cost) สูงถึง 1.2 แสนล้านบาท อีกทั้งยังทำลายกลไกการตลาด และส่งผลเสียอย่างมากต่อคุณภาพข้าวของไทย

รายงานที่ว่านั้น ยังได้ระบุมูลค่าความเสียหายอันเกิดจากการทุจริตที่คำนวณจากแบบจำลองตลาดข้าวโดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 84,476 ล้านบาท 

สำหรับกลอุบายการทุจริตคอร์รัปชั่นในโครงการนี้มีหลากแบบคือ ลักลอบนำข้าวไปขายก่อน และขายสิทธิ การซื้อข้าวจากต่างประเทศ การนำข้าวจากนอกโครงการมาจำนำ เป็นต้น

แล้วก็พบว่ารัฐบาลไม่ได้ดำเนินการอย่างสุจริตโปร่งใส อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้พยายามหาทางป้องกันเหตุทุจริต และยังจงใจปกปิดตัวเลขการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือการขายให้พ่อค้าที่เสนอราคาซื้อข้าวของรัฐ

แต่ที่สำคัญคือ นโยบายจำนำข้าวทุกเมล็ดก่อให้เกิดอุปทานเทียม ทำให้เกิดการเร่งลงทุนเพื่อแสวงกำไรพิเศษ (rent seeking activities) อย่างกว้างขวาง โดยมีการใช้ปุ๋ย ยากำจัดศัตรูพืช และใช้น้ำเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

แน่นอนว่านโยบายจำนำข้าวทุกเมล็ดได้ถูกตั้งคำถามตั้งแต่แรกโดยคนที่หวังดีต่อประเทศว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับประเทศไทย และเสี่ยงต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่รัฐบาลหาได้ฟังไม่แต่ยังดึงดันทำโครงการต่อไป จนสุดท้ายความเสียหายมหาศาลตกกับประเทศไทยดังปรากฏชัดแล้ว 

แล้วอีกประการคือ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลคาดการนโยบายดังกล่าวผิดพลาดอย่างมาก เพราะคิดแค่เพียงว่าการรับจำนำข้าวจะทำให้ไทยสามารถขายข้าวในตลาดโลกได้มากมายมหาศาล ซึ่งไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย เพราะไทยไม่ได้เป็นประเทศเดียวในโลกที่ปลูกข้าวได้ เพียงแต่ไทยสามารถส่งข้าวออกขายได้จำนวนมากเท่านั้น เนื่องจากผลิตได้มากกว่าการบริโภคในประเทศ 

และแล้วก็ปรากฏชัดว่ารัฐบาลไม่สามารถระบายข้าวได้จริง ทำให้มีข้าวคงค้างมากถึง 18 ล้านตันในปี 2557 แถมยังเกิดการทุจริตอย่างมโหฬาร แล้วยังทำให้การส่งออกข้าวไทยลดลงอย่างมาก เพราะต้นทุนการดำเนินการสูงกว่าประเทศอื่นที่ผลิตข้าวได้ สรุปชัดๆ คือข้าวไทยแพงกว่าคนอื่น ทั้งๆ ที่คุณภาพโดยรวมไม่ได้ดีกว่าข้าวของประเทศอื่นๆ 

เมื่อตามดูต่อมา พบว่าในปี 2565 ยังมีข้าวจากโครงการจำนำข้าวสมัยยิ่งลักษณ์ตกค้างอีก 2.2 แสนตัน (รายงานขององค์การคลังสินค้า) ซึ่งทำให้องค์การคลังสินค้าส่งเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีอีก 1.143 คดี โดยส่วนมากเป็นคดีเกี่ยวกับผู้ทำกิจการโรงสีเจ้าของโกดังเก็บข้าวที่องค์การคลังสินค้าเช่าฝากเก็บข้าวสาร และปัญหาข้าวสารเน่าเสื่อมสภาพ และข้าวสารหายไปจากโกดัง

ส่วนรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่าเกิดความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวโดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ วงเงิน 9.5 แสนล้านบาท 

ขณะเดียวกันเมื่อติดตามข่าวเรื่องการทุจริตจำนำข้าวทุกเมล็ด ก็จะพบอีกว่ามีการระบุโดยอดีตพนักงานของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า มีความเสียหายอันเกิดจากโครงการจำนำข้าวทุกเมล็ดอย่างน้อย 3.2 หมื่นล้านบาท และทำให้พนักงานของ ธ.ก.ส. บางรายตกเป็นผู้ต้องหาร่วมในคดีดังกล่าว แต่เรื่องนี้ก็ถูกตั้งคำถามว่าเลือกปฏิบัติหรือไม่ เพราะในขณะที่พนักงาน ธ.ก.ส. ถูกดำเนินคดี แต่กลับปรากฏว่าอดีตผู้บริหาร ธ.ก.ส. บางรายได้รับการแต่งตั้งเป็นวุฒิสมาชิกในสมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์

นั่นคือภาพรวมแบบย่อๆ ของคดีทุจริตจำนำข้าวทุกเมล็ดสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งคดีดังกล่าวได้สร้างความเสียหายมหาศาลให้กับประเทศไทยอย่างแสนสาหัส ในขณะที่นายกรัฐมนตรีผู้เป็นตัวการของคดีทุจริตยังคงหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ โดยที่ไม่มีรัฐบาลใดสามารถนำตัวกลับมาดำเนินคดีอาญาได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่ายิ่งลักษณ์อยู่ที่มุมไหนของโลกใบนี้ 

คราวนี้มาถึงเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทให้คนที่อายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน โดยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เรื่องนี้ได้รับการท่วงติงและคัดค้านอย่างหนักจากประชาชนจำนวนไม่น้อย และยังมีนักเศรษฐศาสตร์จำนวนอย่างน้อย 1 ร้อยคนลงชื่อคัดค้านนโยบายนี้ 

แต่แน่นอนว่าก็ยังมีคนจำนวนไม่ใช่น้อยเช่นกันที่ต้องการได้รับเงินนี้ โดยเฉพาะคนที่อ้างว่ายากจน ต้องการได้เงินไปประคับประคองชีวิตให้ดำเนินต่อไปได้ 

ส่วนรัฐบาลเศรษฐาเองก็ยังคงมุ่งมั่นจะแจกเงินดังกล่าวให้จงใจ ทั้งๆ ที่ปัจจุบันยังไม่มีคำตอบชัดๆ ว่าจะหาเงินจากไหนเพื่อนำไปหว่านแจก 

เท่าที่ฟังเสียงจากบรรดานักเศรษฐศาสตร์ตัวจริงที่เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติต่างคัดค้านโครงการหว่านแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทให้กับคนทุกคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป เพราะวิเคราะห์แล้วเห็นว่าโครงการหว่านเงินแบบนี้ไม่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นแต่อย่างใด แต่กลับจะสร้างปัญหาให้เศรษฐกิจไทยมากกว่า โดยเฉพาะการก่อหนี้สาธารณะ แม้รัฐบาลจะอ้างว่าไม่ได้ก่อหนี้สาธารณะ แต่ก็ไม่มีทางเลี่ยงการก่อหนี้ให้กับประเทศได้ แม้รัฐบาลพยายามซิกแซกว่าไม่ได้ก่อหนี้ด้วยตนเอง แต่จะผลักให้หน่วยงานอื่นๆในการดูแลของรัฐบาลเป็นผู้หาเงินมาให้ก็ตาม แต่สุดท้ายรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบหนี้ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีทางปฏิเสธ

นอกจากจะไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในระยะยาวแล้ว ยังเป็นการไม่รักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศอีกด้วย อันจะก่อให้เกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว

ไม่ใช่เรื่องผิดที่รัฐบาลต้องพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจไทย และไม่ผิดที่รัฐบาลต้องช่วยคนยากคนจนให้ดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้ แต่เป็นเรื่องผิดมหันต์ที่รัฐบาลจงใจก่อหนี้ที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจไทยอย่างจริงจัง แถมยังจะทำให้เกิดปัญหาหนี้สาธารณะพอกพูนอย่างมากมายมหาศาล 

การที่รัฐบาลหวังว่าหว่านแจกเงินให้ประชาชนหัวละ 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตแล้วเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น GDP ไทยจะสูงขึ้น คือการคาดการณ์ และมองโลกในแง่ดีมากเกินไป เพราะไม่มีข้อยืนยันใดรับรองได้ว่าการแจกเงินแบบหว่านเช่นนี้แล้วทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม 

ยิ่งเป็นการแจกเงินแบบหว่านไปโดยสะเปะสะปะ คนจนก็ได้ คนรวยก็ได้ การแจกแบบนี้ คือการแจกแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หาประโยชน์ที่แท้จริงต่อระบบเศรษฐกิจไทยมิได้แม้แต่น้อย 

ย้ำว่าไม่มีใครคัดค้านการแจกเงินช่วยเหลือคนจนที่จนจริงๆ แต่ย้ำว่าต้องแจกให้ถึงมือคนจนจริงๆ เท่านั้น ไม่ใช่หว่านแจกไปให้คนที่ไม่จำเป็นต้องได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะคนรวยไม่จำเป็นต้องดำรงชีวิตจากเงิน 1 หมื่นบาทที่รัฐบาลพยายามหาเรื่องแจกให้ 

คนรวยในประเทศนี้ไม่ได้ต้องการเงิน 1 หมื่นบาทจากรัฐบาล แต่ต้องการรัฐบาลที่มีสติปัญญา มีความซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อความเป็นความตายของประเทศนี้

แม้คนจนจะต้องการเงิน 1 หมื่นบาทก็จริง แต่ก็คงไม่มีคนจนคนไหนที่ยังมีสติครบถ้วนสมบูรณ์สนับสนุนให้รัฐบาลก่อหนี้สูงถึง 5.6 แสนล้านบาท แล้วผลักหนี้ให้ประเทศต้องแบกรับภาระต่อไป คนจนจำนวนไม่น้อยอาจจะจนเงินก็จริง แต่เขาไม่ได้จนปัญญา และเขาไม่สนับสนุนให้รัฐบาลก่อหนี้ให้ประเทศ แล้วอาจจะนำไปสู่การทุจริตเชิงนโยบาย เหมือนรัฐบาลบางชุดที่มีความถนัดในการทุจริตเชิงนโยบาย

ทุกวันนี้ คนไทยที่มีปัญญาเห็นชัดแล้วว่าโครงการจำนำข้าวทุกเมล็ดสมัยยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีก่อความบรรลัยให้เศรษฐกิจไทยมากมายเพียงใด แล้วคนไทยที่มีสติปัญญาก็ยังเฝ้าจับตามองว่า โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตโดยรัฐบาลเศรษฐาจะทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น หรือทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงแสนสาหัสต่อระบบเศรษฐกิจไทย แต่เท่าที่ฟังจากนักเศรษฐศาสตร์ทั่วไปที่หวังดีต่อประเทศไทย ต่างคัดค้านนโยบายแจกเงิน 1 หมื่นบาทแบบหว่านแห ยกเว้นเพียงนักเศรษฐศาสตร์ในสังกัดรัฐบาลเท่านั้น ที่เห็นดีเห็นงามกับการก่อหนี้นำเงิน 5.6 แสนล้านบาทไปหว่านแจกผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 

เราไม่จำเป็นต้องบอกว่ารอดูว่าประเทศจะเสียหายมากน้อยเพียงใดจากนโยบายหว่านแจกเงินโดยรัฐบาล เพราะเราไม่ต้องการตกเหว ตกนรก ที่รัฐบาลพยายามจะลากคนไทย และประเทศไทยลงไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:53 น. เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย
22:09 น. ปักหมุด 13 พ.ค.นี้ ‘เพื่อไทย’เปิดตัวโครงการใหม่‘Pheu Thai YPP’
21:53 น. ผบ.ตร.สั่งฟันเด็ดขาด! เหตุทำร้าย'ตำรวจ'ภายในหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา
21:47 น. เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย
21:09 น. 'หมอวรงค์'สอนมวย'นพดล' หยุดถูไถ!ก้มหน้าก้มตาปกป้อง'คนชั้น 14'
ดูทั้งหมด
ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
'สมชาย'เคลียร์ชัดๆ ไขกระจ่าง'วิษณุ'ไปศาลอาญาทำไม?
'ภูมิใจไทย' แตกหัก 'เพื่อไทย' คดีฮั้ว สว.เป็นเหตุ ส่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 - ยุบสภา
(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต
ดูทั้งหมด
สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร
แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร
ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน40) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ
บุคคลแนวหน้า : 11 พฤษภาคม 2568
บ่อนกาสิโน-แพทองธาร ชินวัตร : ภาพลักษณ์ไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย

(คลิป) เจ๊ปอง เผย! 'ตั๋วกาสิโน 10 ใบ' ลอเรนซ์โอ-กอร์ดอน ถัง คนสนิทตระกูลชินวัตร

เปิดปูม‘วิทยา กันส์แทคติกส์’ ปรมาจารย์อาวุธปืน ผู้เซฟชีวิต‘ครู’ชายแดนใต้

‘กมธ.ป.ป.ช.’ ซ้ำดาบฮั้ว สว.! เรียก‘กกต.-ผู้ร้อง’ให้ข้อมูลอุดช่องโหว่-สาวขบวนการ

‘สหรัฐฯ-จีน’ถกคลี่คลายศึกกำแพงภาษี ‘ทรัมป์’เผยเป็นนิมิตหมายอันดี

กระตุ้นคนตายเพิ่ม?! คำถามตัวโตๆถึง‘รัฐบาล’ ขายน้ำเมา 'วันพระใหญ่’

  • Breaking News
  • เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย
  • ปักหมุด 13 พ.ค.นี้ ‘เพื่อไทย’เปิดตัวโครงการใหม่‘Pheu Thai YPP’ ปักหมุด 13 พ.ค.นี้ ‘เพื่อไทย’เปิดตัวโครงการใหม่‘Pheu Thai YPP’
  • ผบ.ตร.สั่งฟันเด็ดขาด! เหตุทำร้าย\'ตำรวจ\'ภายในหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ผบ.ตร.สั่งฟันเด็ดขาด! เหตุทำร้าย'ตำรวจ'ภายในหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา
  • เช็คผลที่นี่!!! \'เลือกตั้งเทศบาล\'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย
  • \'หมอวรงค์\'สอนมวย\'นพดล\' หยุดถูไถ!ก้มหน้าก้มตาปกป้อง\'คนชั้น 14\' 'หมอวรงค์'สอนมวย'นพดล' หยุดถูไถ!ก้มหน้าก้มตาปกป้อง'คนชั้น 14'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

บ่อนกาสิโน-แพทองธาร ชินวัตร : ภาพลักษณ์ไทย

บ่อนกาสิโน-แพทองธาร ชินวัตร : ภาพลักษณ์ไทย

11 พ.ค. 2568

ปากแจ๋ว ปากพล่อย อ้างวิชาการบังหน้า

ปากแจ๋ว ปากพล่อย อ้างวิชาการบังหน้า

4 พ.ค. 2568

ประเทศวิบัติ เพราะนักการเมืองโง่มีอำนาจรัฐ

ประเทศวิบัติ เพราะนักการเมืองโง่มีอำนาจรัฐ

27 เม.ย. 2568

อันวาร์, มิน อ่อง หล่าย, ทักษิณ และแพทองธาร

อันวาร์, มิน อ่อง หล่าย, ทักษิณ และแพทองธาร

20 เม.ย. 2568

แพทองธารไม่เห็นปัญหา reciprocal tariff

แพทองธารไม่เห็นปัญหา reciprocal tariff

13 เม.ย. 2568

แก้ปัญหา US tariff ด้วยสติปัญญาของแพทองธาร!!!

แก้ปัญหา US tariff ด้วยสติปัญญาของแพทองธาร!!!

6 เม.ย. 2568

แผ่นดินไหว ภัยพิบัติที่รัฐบาลไทยไม่เคยเตรียมตัว

แผ่นดินไหว ภัยพิบัติที่รัฐบาลไทยไม่เคยเตรียมตัว

30 มี.ค. 2568

ดูเตอร์เต-ทักษิณ ความเหมือนที่ต่างกันกับสงครามปราบยาเสพติด

ดูเตอร์เต-ทักษิณ ความเหมือนที่ต่างกันกับสงครามปราบยาเสพติด

23 มี.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved