นี่คือการเดินหน้าสร้างค่านิยมรักชาติ รักสถาบัน ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างเป็นรูปธรรม
สวนทางกับแนวทางของขบวนการสามนิ้วที่ป่วนบ้านเมือง ด้วยการด้อยค่าประเทศชาติ บ่อนทำลายสถาบันหลักของประเทศ มาตลอดช่วงหลายปีหลังอย่างชัดเจน (ช่วงหลัง ป่วนโรงเรียนเตรียมพัฒน์ และล่าสุด ป่วนแม้กระทั่งการแปรอักษรจตุรมิตร)
ล่าสุด ปลัดกระทรวง 4 กระทรวง (ภายใต้การดูแลของพรรคภูมิใจไทย)ได้ขานรับนโยบายสร้างค่านิยมรักชาติ
1. เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 รัฐมนตรี 4 กระทรวง ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพิพัฒน์รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
รัฐมนตรีทั้ง 4 กระทรวง ได้แถลงการลงนามข้อตกลงร่วมกันใน “การสร้างทรัพยากรมนุษย์ของชาติ เป็นคนที่มีจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และยึดมั่นสถาบันสำคัญของชาติ”
2. กระทรวงศึกษาธิการ
นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาฯจะมีการดำเนินการทั้งสองส่วน
ทั้งการปลูกฝังจิตสำนึกความเป็นไทยให้กับเด็ก และให้กับบุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ
ในด้านของเด็ก จะจัดการเรียนการสอน ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา ปวช. ปวส.จนถึงปริญญาตรี ที่มีการจัดการเรียนการสอน ทุกกลุ่มทุกหลักสูตร จะบูรณาการทุกหลักสูตรและวัดผลเป็นภาคเรียน จะทำทันที เพราะได้เตรียมการไว้แล้ว
ด้านบุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเป็นนโยบายและบุคลากรบอกว่าเป็นเรื่องที่ดี ได้ขานรับนโยบายและตื่นตัว พร้อมดำเนินการต่อ
“โดยขั้นตอนที่จะรับบุคลากรเข้ามาใหม่นั้น หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนหรือเรียกโดยย่อว่า สำนักงาน ก.พ. รับสมัครบุคลากรเข้ามาในระบบราชการ สอบผ่านภาค ก.และภาค ข.
ในส่วนภาค ค. ที่หน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการรับมาดำเนินการสอบสัมภาษณ์ คัดเลือก กำหนดในเรื่องหัวข้อสำนึกความเป็นไทย น้ำหนักการให้คะแนนในส่วนนี้เข้าไปด้วย นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญและทัศนคติในวิชาชีพของงานก็จะให้ความสำคัญกับนโยบายนี้” - ปลัดกระทรวง ศธ.กล่าว
3. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ยืนยันว่า ให้ความสำคัญกับการปลูกจิตสำนึกให้รักชาติ และรักแผ่นดินไทย และดำเนินการเป็นรูปธรรมทันที
โดยในส่วนของข้าราชการใหม่ ได้มีการให้นโยบายว่า การรับข้าราชการใหม่ในการสอบภาค ข. หรือภาค ค. กำหนดให้มีการเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เข้าไปเพื่อที่จะได้ให้ผู้สมัครได้แสดงวิสัยทัศน์
และในขั้นสัมภาษณ์ก็จะมีการถามซ้ำอีกครั้ง เพื่อเป็นการกลั่นกรองบุคลากรเข้ามาสู่ระบบราชการ
แนวทางนี้ก็จะนำไปใช้กับองค์การมหาชน ซึ่งมีอยู่สิบกว่าแห่ง อีกทั้งหน่วยงานในกำกับด้วย
สำหรับมหาวิทยาลัยก็จะเข้าไปเน้นย้ำอีกทีโดยใช้วิธีการที่เหมาะสม
ปลัดกระทรวง อว. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อปี 2564 ทางกระทรวง อว.มีการจัดตั้งวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสาตร์แห่งประเทศไทย หรือ “ธัชชา” ( TASSHA : Thailand Academy of Social Sciences, Humanities and arts) ประกอบด้วย 5 สถาบัน คือ สถาบันสุวรรณภูมิศึกษา, สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง, สถาบันโลกคดีศึกษา, สถาบันพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ และสถาบันช่างศิลป์ท้องถิ่น โดยใช้เทคโนโลยีที่เรามีอยู่เข้าไปพัฒนาประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่อยู่ในประเทศไทย อาทิ วัด ดินแดนสุวรรณภูมิ ฯลฯ นี่คือการสอดรับกับนโยบายของรองนายกฯ อนุทิน เป็นอย่างยิ่ง
4. กระทรวงแรงงาน
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงานกล่าวว่า กระทรวงแรงงาน พร้อมสนับสนุน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกช่วงวัย เข้าใจและภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย มีรากฐานจิตสำนึกรักความเป็นไทย มีคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และหลักคิดที่ถูกต้องต่อชาติบ้านเมือง และสถาบันสำคัญของชาติ เป็นพลเมืองที่ดี
“การกำหนดคุณลักษณะของผู้สมัครเข้ารับราชการ เพื่อให้ได้ข้าราชการที่ดีของแผ่นดิน มีจิตสำนึกรัก และภูมิใจในความเป็นไทย มีจิตอาสา คุณธรรมจริยธรรม และจรรยาข้าราชการ ปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม รวมทั้งส่งเสริมให้ข้าราชการบรรจุใหม่ และข้าราชการ บุคลากร ทุกระดับ ทุกประเภท เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ดีของแผ่นดิน มีจิตสำนึก จิตอาสา คุณธรรม และจริยธรรม ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน และประโยชน์ส่วนรวม ประพฤติตนเป็นข้าราชการที่ดีตามรอยพระยุคลบาท และสามารถนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิต และการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม” - ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว
5. กระทรวงมหาดไทย
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการ ก็ได้เพิ่มความสำคัญเรื่องจิตสำนึกรักชาติ ความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติไทยเข้ามาประกอบด้วยแล้ว
และได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการการศึกษาจังหวัด ต้องให้ความสำคัญกับวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย นอกจากนั้น ยังได้ส่งตำราเรียนฉบับสมบูรณ์ ให้กับท่านผู้ว่าฯ โดยเป็นหลักสูตรที่ทางกระทรวงมหาดไทยมั่นใจ และเชื่อถือ คือ เนื้อหาประวัติศาสตร์ชาติไทยฉบับที่ใช้เรียนใช้สอนในโรงเรียนจิตอาสา 904 ศอญ.
ขณะเดียวกัน จะเร่งสร้างครูต้นแบบที่มีความเข้าใจในประวัติศาสตร์ชาติ และประวัติท้องถิ่น เป็นบุคคลที่มีความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องราวการประวัติศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามเป้าหมายในการสร้างจิตสำนึกรักชาติ ทั้งนี้ เราเดินหน้าตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งวันนี้ เสร็จเมื่อวาน ที่จังหวัดตาก เรามีครูต้นแบบแล้วหลายท่าน
“ผมได้ไปหารือกับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้กระทรวงศึกษาฯ ได้กำหนดหลักสูตร เพื่อให้ผู้เรียน ได้เรียนวิชาประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง และศีลธรรม ในจำนวนเวลาที่เพิ่มขึ้น อาจจะแยกออกมาเป็นเอกเทศทั้ง 3 วิชา แน่นอนว่า กระทรวงมหาดไทย เรารับสนองนโยบายของท่านอนุทิน ชาญวีรกูล อย่างสุดความสามารถ และยืนยันว่าในเรื่องของการปลุกจิตสำนึกการรักชาติ เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่” ปลัดมหาดไทยกล่าว
ล่าสุด หลายจังหวัดเริ่มต้นเห็นการเปลี่ยนแปลง อาทิ
จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา พ่อเมืองนครพนม ขับเคลื่อนนโยบายในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ของชาติ ให้เป็นคนที่มีจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และยึดมั่นในสถาบันสำคัญของชาติ โดยใช้หลัก “ผู้นำต้องทำก่อน” ด้วยการนำประกอบกิจกรรมเคารพธงชาติจังหวัดนครพนม
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ของชาติ ให้เป็นคนที่มีจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และยึดมั่นในสถาบันสำคัญของชาติ และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มีการส่งเสริม สร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน ให้มีความภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทยและยึดมั่นในสถาบันสำคัญของชาติ
“จังหวัดนครพนมจึงได้ดำเนินการขับเคลื่อนการสร้างจิตสำนึกรักชาติ ด้วยการแสดงออกถึงความพร้อมของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ในการดำเนินกิจกรรมเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย ซึ่งจะมีการทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยจังหวัดนครพนมมีกำหนดดำเนินกิจกรรมเคารพธงชาติ พร้อมกันทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน เวลา 08.00 น. ในทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่)” นายวันชัย กล่าว
6. สะท้อนให้เห็นว่า นี่คือการเดินหน้าสร้างค่านิยมรักชาติ รักสถาบัน ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างเป็นรูปธรรม
เสมือนลุกขึ้นต่อสู้กับค่านิยมเอาแต่ใจ ชังชาติ ด้อยค่าสถาบัน ที่ต้องการรื้อถอนสั่นคลอนเสาหลักของชาติไทย
การปลุกสำนึกรักชาติเช่นนี้ ควรทำมาตั้งนานแล้ว และไม่ควรทำแค่บางกระทรวง
ควรทำทุกหน่วยงานรัฐ เพื่อสร้างให้เป็นค่านิยมแกนหลักอย่างมั่นคงของชาติ
ผู้นำรัฐบาลควรเอาจริงเอาจังแบบนี้
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี