วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนเพื่อคิด
เขียนเพื่อคิด

เขียนเพื่อคิด

กษิต ภิรมย์
วันพุธ ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 02.00 น.
โครงการ Landbridge เชื่อม 2 ฝั่งทะเลที่ภาคใต้ของไทย

ดูทั้งหมด

  •  

การที่ผู้นำประเทศจะมีวิสัยทัศน์ หรือความฝันอันสูงส่งในโครงการพัฒนาชาติใดๆ มิใช่เรื่องแปลกหรือผิดปกติแต่อย่างใด หากแต่มันจะผิดปกติ เมื่อเป็นเพียงแค่การใช้วาทะเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ และการเพ้อเจ้อ

ซึ่ง ณ ที่นี้หมายถึง กรณีอภิมหาโครงการเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันทางด้านมหาสมุทรอินเดีย กับฝั่งทะเลอ่าวไทยทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิก ด้วยการจัดทำเส้นทางเสมือนสะพานบนบก (Landbridge) แทนที่จะขุดคลองเชื่อมโยงสองฝั่งดังเช่น คลองสุเอซที่ตะวันออกกลาง คลองปานามาที่อเมริกาเหนือ-ใต้ และคลองคีลที่ยุโรปตอนเหนือ


เมื่อครั้งที่โครงการนี้ถูกประกาศออกมา ก็ได้สร้างความฮือฮาในแวดวงต่างๆ ของไทยเรา อีกทั้งเรื่องราวได้ขจรขจายไปทั่วโลกผ่านการป่าวประกาศของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย บนเวทีโลกหลายเวทีเพื่อชักชวน เชิญชวน ให้ฝ่ายต่างประเทศ โดยเฉพาะภาคเอกชน ทั้งนักลงทุน นักอุตสาหกรรม รวมทั้งอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ให้มาร่วมลงทุนหรือรับสัมปทาน

นายกฯ เศรษฐา ได้แถลงว่า โครงการนี้จะช่วยย่นระยะเวลา และค่าใช้จ่ายการขนส่งทางเรือผ่านช่องแคบมะละกา หรือผ่านช่องแคบซุนดราและล็อมบ๊อกที่อินโดนีเซียอย่างมาก แถมยังอวดคุยอีกด้วยว่าจะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของไทย โดยเพิ่มความเป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านคมนาคมและอุตสาหกรรมต่างๆ ในระดับโลก ซึ่งมีนัยว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างใหญ่หลวง

จากที่ฟังๆ ดูแล้ว ปวงชนชาวไทยก็คงจะเคลิบเคลิ้มไปด้วยกับคำพูดโตๆ ของนายกรัฐมนตรีของไทย อีกทั้งนักวิ่งเต้นทั้งหลายก็กำลังบวกลูกคิดอย่างเมามันว่าจะตักตวงหากำไรจากการกว้านซื้อที่ดิน จากการจะรับงานประมูลแบบไม่โปร่งใสกันได้มากน้อยเพียงใด และแถมจะมีเงินเข้ากระเป๋าเป็นเงินทุนให้กับราชวงศ์การเมือง (Political dynasty) ได้กันอีกกี่ราชวงศ์

แต่ทว่าในแวดวงต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแวดวงสื่อแวดวงการเงิน แวดวงอุตสาหกรรม และแวดวงกิจการเดินเรือ ก็ดูแต่จะเอาแต่นั่งรับฟังแล้วนิ่งเฉย บ้างก็อาจจะเพียงพยักหน้าคล้อยตามไปตามมารยาทเท่านั้น ดูได้จากการที่ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดออกมาพูดเห็นดีเห็นงามกับอภิมหาโครงการอันนี้ของนายกรัฐมนตรีของไทยเลยหลังจากการรับฟังข้อมูล ซึ่งก็น่าจะสะท้อนว่า เขาต่างก็คงจะคิดตรงกันว่า การใช้เส้นทางเดินเรือเดิมผ่านช่องแคบมะละกา หรือจะเลยออกไปอีกหน่อยไปผ่านน่านทะเลของอินโดนีเซียนั้น ยังไงๆ ก็ยังคุ้มค่ากว่า เพราะการจะย่นระยะเวลาเดินเรือออกไปก็คงทำได้เพียง 10-20 ชั่วโมง ไม่ใช่ 1-3 วันดังที่กล่าวอ้าง ด้วยการที่จะส่งตู้คอนเทนเนอร์ผ่าน Landbridge นั้น เรือจะต้องเสียเวลากับการขนถ่ายสินค้าลงที่ท่าเรือด้านทะเลอันดามัน เพื่อรอส่งขึ้นรถไฟ หรือรถบรรทุก หรือแม้กระทั่งทางเลื่อนไฟฟ้า ซึ่งจะใช้เวลามากน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเร็ว และเมื่อไปถึงปลายทางที่อ่าวไทย ก็ยังต้องเสียเวลาขนสินค้าขึ้นเรือบรรทุกอีกทอดหนึ่ง ทั้งนี้ไม่รวมระยะเวลาที่จะต้องเข้าคิวจอดเรือรอทั้ง 2 ด้านของสะพานบนบกนี้

นอกจากนั้น เมื่อคิดถึงค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ก็ต้องกลับไปดูที่ต้นทุน โดยเรื่องใหญ่สุดก็คือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเวนคืนที่ดิน ซึ่งนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ก็ยังมิได้มีตัวเลขจริงๆ ว่าพื้นที่จะต้องกว้างใหญ่ไพศาลถึงกี่พันกี่หมื่นไร่ และยังไม่มีแผนที่จะอพยพทั้งคน สัตว์ป่าสัตว์เลี้ยง ไปอยู่ที่ใด จึงไม่ทราบว่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นจำนวนเท่าใด (อีกทั้งต้นไม้ที่ตัดแล้วและก้อนหิน ก้อนดินที่ถูกเกลี่ยออกไป จะเอาไปกองไว้ที่ไหนอย่างไร) นอกจากนั้น ก็ยังประเมินไม่ได้ว่าค่าก่อสร้างทั้งหมดจะใช้เงินเท่าใด? อีกทั้งค่าสร้างท่าเรือและเขตอุตสาหกรรม รวมทั้งที่อยู่อาศัยทั้ง 2 ฝั่งของสะพานบนบกนี้ ก็ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน ส่วนการบริหารจัดการนั้น ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด หากภาครัฐจะทำเอง หรือจะร่วมทำกับภาคเอกชน หรือจะมอบสัมปทานให้กับภาคเอกชน? แล้วใครฝ่ายใดจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากพื้นที่ทั้ง 2 ฟากของสะพานบกนี้?

เมื่อมองกว้างออกไปยังประเด็นเรื่องผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางทะเล ทั้งปะการัง วัชพืช สัตว์มีชีวิต และความสมดุลของระบบนิเวศ ก็ยังไม่มีใครตอบได้ว่าจะจัดการแบบไหน นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแต่อย่างใด และที่สำคัญเรือขนส่งสินค้าที่มาใช้ประโยชน์นั้นจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของเรือทั้งหมดจากที่เคยล่องผ่านช่องแคบมะละกา และน่านทะเลของอินโดนีเซีย และจะต้องมีเรือใช้บริการเป็นจำนวนเท่าใด นานแค่ไหน ที่การลงทุนจะคุ้มทุน และจะเริ่มได้กำไรกันเมื่อใด

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาโดยสังเขปนี้ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสินนี้ รวมทั้งลูกคู่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีคมนาคม ก็ยังไม่ได้มีการแถลงสถิติ และตัวเลขใดๆ ต่อสาธารณชนทั้งไทย และเทศเลย

เมื่อเป็นเช่นนี้ สถานะโครงการนี้ ณ ปัจจุบันนี้ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ จึงเป็นเพียงแค่เรื่องเพ้อเจ้อหรือเป็นเรื่องการพูดจาที่เลอะเทอะ ไร้ความรับผิดชอบ และสร้างความสูญเสียให้แก่ศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของประเทศไทยเรา ซึ่งสมควรจะได้ฝากกระซิบบอกให้ทางรัฐบาล และฝ่ายข้าราชการได้ทำการบ้าน หาข้อมูล รวมถึงสร้างแผนแม่บทเบื้องต้นอย่างเป็นกิจจะลักษณะเสียก่อน ก่อนที่จะปล่อยให้นายกฯ เดินสายไปขายฝัน โครงการ Landbridge กับชาวโลกโดยไม่มีข้อมูลที่เป็นชิ้นเป็นอัน

อีกทั้งโครงการในระดับนี้ควรจะได้รับความเห็นชอบในหลักการจากประชาชนพลเมืองเสียก่อน โดยการจัดทำการลงประชามติ 2 ระดับ หรือ 2 ครั้งด้วยกัน คือระดับแรก โดยประชาชนพลเมืองจากจังหวัดระนองและชุมพร และระดับที่ 2 จากประชาชนพลเมืองทั้งประเทศเพราะเป็นผู้เสียภาษีและเจ้าของงบประมาณ

สำหรับผู้เขียนเองก็ไม่ตื่นเต้นกับโครงการนี้ เพราะดูไม่คุ้มทุน เพราะจะมีผลเสียมากกว่าผลได้ และโดยเฉพาะในเรื่องสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และยังมองไม่ออกว่าจะมีอุตสาหกรรมใดที่จะมาตั้งอยู่ในบริเวณโครงการ ในเมื่อโลกกำลังมุ่งไปสู่ทิศทางของอุตสาหกรรมทางเทคโนโลยีสูงมากกว่าอุตสาหกรรมการผลิตที่ต้องใช้พื้นที่และแรงงานมากมาย

 

กษิต ภิรมย์

kasitfb@gmail.com

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:53 น. กทม.เสนอร่างข้อบัญญัติฯ คุมแสงจ้าป้ายโฆษณา LED ลดความเดือดร้อนประชาชน
12:49 น. ทอ.เด้งรับสมรสเท่าเทียม! เปลี่ยนชื่อ 'สมาคมแม่บ้าน ทอ.' เป็น 'สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ'
12:47 น. เตรียมวอร์มนิ้วให้พร้อม! เสาร์ที่ 5 ก.ค. นี้ 10 โมงตรง! กดบัตร'สุรุ่ยสุร่าย'
12:36 น. ‘ปชน.’ยืนกระต่ายขาเดียว!จี้รักษาการนายกฯตัดสินใจ‘ยุบสภา’คืนอำนาจปชช.บี้ถอนร่างกาสิโนก่อนโดนคว่ำร่างฯ
12:30 น. ทัพคาเรนนียึดค่ายทหารพม่า'ผาซอง'เบ็ดเสร็จได้อีก 1 แห่ง! เจ็บกว่า 90 รายทยอยเข้าไทย
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
แกว่งเท้าหาเสี้ยน! ปรากฏการณ์แฉโพย‘สายส้ม’เข้มข้น-ล่อนจ้อน
'ออสเตรเลีย'ออกคำเตือนพลเมืองมา'ไทย'หลังพบวัตถุต้องสงสัยหลายเมืองท่องเที่ยวภาคใต้
ดูทั้งหมด
ต้นสนยักษ์ร่วมสมัยกับฟาโรห์
‘คลิปเขมร’เหตุอัปยศ‘แพทองธาร’
รู้ทันคอร์รัปชันด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ศีลธรรม
วาทกรรมเจ็บจี๊ด
อุ๊งอิ๊งค์ 2 ปรับ ครม. ฟอร์มาลีน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทอ.เด้งรับสมรสเท่าเทียม! เปลี่ยนชื่อ 'สมาคมแม่บ้าน ทอ.' เป็น 'สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ'

ไม่ช่วยใครง่ายๆอีก! ‘สหรัฐฯ’ปิดฉาก‘USAID’เลิกหน่วยงานเพื่อมนุษยธรรมอย่างเป็นทางการ

ไม่ใช่แค่ม็อบคนแก่! ม็อบ 28 มิถุนาฯ คือฐานเสียง'พรรค ปชน.' ชี้ฝ่ายค้านเอาแต่แก้ รธน. เมินปากท้องคนไทย

ยันเป็นเขตแดนไทย! ทบ.แจง Google Map ไม่มีผลด้านกฎหมาย หลังหมุดปราสาทโผล่เขมร

ชาวบ้านผวา! ชายคลุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายผู้หญิงบาดเจ็บ

'ภูมิธรรม'นั่งมท.1 ปัดหวังล้างแค้น'ภท.'คดีเขากระโดง ลั่นหากไม่ผิด ก็ไม่มีใครทำอะไรได้

  • Breaking News
  • กทม.เสนอร่างข้อบัญญัติฯ คุมแสงจ้าป้ายโฆษณา LED ลดความเดือดร้อนประชาชน กทม.เสนอร่างข้อบัญญัติฯ คุมแสงจ้าป้ายโฆษณา LED ลดความเดือดร้อนประชาชน
  • ทอ.เด้งรับสมรสเท่าเทียม! เปลี่ยนชื่อ \'สมาคมแม่บ้าน ทอ.\' เป็น \'สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ\' ทอ.เด้งรับสมรสเท่าเทียม! เปลี่ยนชื่อ 'สมาคมแม่บ้าน ทอ.' เป็น 'สมาคมคู่สมรสทหารอากาศ'
  • เตรียมวอร์มนิ้วให้พร้อม! เสาร์ที่ 5 ก.ค. นี้ 10 โมงตรง! กดบัตร\'สุรุ่ยสุร่าย\' เตรียมวอร์มนิ้วให้พร้อม! เสาร์ที่ 5 ก.ค. นี้ 10 โมงตรง! กดบัตร'สุรุ่ยสุร่าย'
  • ‘ปชน.’ยืนกระต่ายขาเดียว!จี้รักษาการนายกฯตัดสินใจ‘ยุบสภา’คืนอำนาจปชช.บี้ถอนร่างกาสิโนก่อนโดนคว่ำร่างฯ ‘ปชน.’ยืนกระต่ายขาเดียว!จี้รักษาการนายกฯตัดสินใจ‘ยุบสภา’คืนอำนาจปชช.บี้ถอนร่างกาสิโนก่อนโดนคว่ำร่างฯ
  • ทัพคาเรนนียึดค่ายทหารพม่า\'ผาซอง\'เบ็ดเสร็จได้อีก 1 แห่ง! เจ็บกว่า 90 รายทยอยเข้าไทย ทัพคาเรนนียึดค่ายทหารพม่า'ผาซอง'เบ็ดเสร็จได้อีก 1 แห่ง! เจ็บกว่า 90 รายทยอยเข้าไทย
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ประธานาธิบดี ทรัมป์  ไม่โปรดพวกตีกินและเกาะกิน

ประธานาธิบดี ทรัมป์ ไม่โปรดพวกตีกินและเกาะกิน

2 ก.ค. 2568

เผด็จการไม่ยั่งยืนและประชาธิปไตย  แก้ไขปรับปรุงตัวเองไปได้ตลอด

เผด็จการไม่ยั่งยืนและประชาธิปไตย แก้ไขปรับปรุงตัวเองไปได้ตลอด

25 มิ.ย. 2568

Mood ในยุโรป

Mood ในยุโรป

18 มิ.ย. 2568

การเคารพ ปกป้องคุ้มครอง  องค์ประมุข และประมุขประเทศ

การเคารพ ปกป้องคุ้มครอง องค์ประมุข และประมุขประเทศ

11 มิ.ย. 2568

บทบาทของประเทศพลังอำนาจขนาดกลาง

บทบาทของประเทศพลังอำนาจขนาดกลาง

4 มิ.ย. 2568

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์  เริ่มผลักดันสันติภาพโลก ด้วยการเจรจาทางการทูต

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มผลักดันสันติภาพโลก ด้วยการเจรจาทางการทูต

28 พ.ค. 2568

น้อมรำลึกถึงเจ้าชายสิทธัตถะ

น้อมรำลึกถึงเจ้าชายสิทธัตถะ

21 พ.ค. 2568

เมื่อตกอยู่ในมุมอับ ต้องถอยออกมาเริ่มต้นใหม่

เมื่อตกอยู่ในมุมอับ ต้องถอยออกมาเริ่มต้นใหม่

14 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved