ประเทศไทยเคยได้รับการยกย่องว่ามีความสามารถทางการทูตมายาวนาน และสามารถใช้ช่องทางการทูตรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ได้ด้วยดีเสมอมา แม้บางครั้งอาจถูกกระแหนะกระแหนในบางช่วงบางเวลาว่าเป็นการทูตแบบหลิวลู่ลม แต่จะอย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าไทยสามารถรักษาผลประโยชน์ของประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และจำเป็นที่จะต้องรักษาไว้ให้ได้
แต่ในระยะหลังๆ การทูตของไทยถูกวิพากษ์ โดยนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่า อ่อนด้อยกว่าการทูตในระยะ 50-60 ปีก่อน และยังถูกวิพากษ์ด้วยว่าชื่อเสียงของประเทศไทยก็ตกต่ำลงด้วย ดังนั้นภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติจึงไม่โดดเด่นเหมือนที่ผ่านมา เพราะมีเหตุปัจจัยหลายอย่าง อาทิ การทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหาการเมืองภายใน ปัญหาการรัฐประหาร และปัญหาการไร้พัฒนาการทางการเมือง เป็นตัวฉุดรั้งให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยไม่เป็นที่ยอมรับมากนักในสังคมนานาชาติ
ประเทศไทยในวันนี้ มีรัฐบาลที่ชอบประกาศตัวเองว่ามาจากการเลือกตั้ง มีความเป็นประชาธิปไตยสูงแต่ขณะเดียวกันก็จะพบว่านายกรัฐมนตรีไทยมีความย้อนแย้งในตัวเองหลายประการ เช่น ย้อนแย้งเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ เพราะวันหนึ่งนายกรัฐมนตรีประกาศว่าเศรษฐกิจไทยใกล้จะพังพินาศ แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีไปพบกับนักธุรกิจต่างประเทศ กลับชวนเขาเหล่านั้นมาลงทุนในไทย โดยอ้างว่าไทยพร้อมสารพัดจะพร้อม
ถามว่า จะมีนักธุรกิจระดับโลกรายไหนต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศที่นายกรัฐมนตรีประกาศทุกวันว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังจะดิ่งเหว แล้วถามต่อไปว่านักธุรกิจต่างประเทศจะสับสนมากแค่ไหน ที่วันหนึ่งได้ยินนายกรัฐมนตรีไทยบอกว่าเศรษฐกิจไทยใกล้วิกฤต แต่เมื่อไปพบกับนักธุรกิจต่างประเทศที่ทำธุรกิจระดับโลก กลับชักชวนเข้ามาลงทุน แล้วบอกว่าไทยพร้อมรองรับการลงทุนจากต่างชาติ เรื่องแบบนี้ นายกรัฐมนตรีไทยอาจไม่คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่สำหรับนักลงทุนระดับโลกแล้ว เขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ไม่มีนักลงทุนระดับโลกรายใดเข้าไปลงทุนมูลค่าหลายล้านล้านบาทในประเทศที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังจะล่มสลาย หรือใกล้วิกฤตเป็นอันขาด
ส่วนประเด็นการสร้างกระแสลบให้กับภาพลักษณ์ ทางการทูตของไทยโดยผ่านวาจาของนายกรัฐมนตรีไทยก็มีเป็นระยะๆ ดังที่ปรากฏมาแล้วในเรื่องการพยายามจะบอกกับลาวว่าจะขายพลังงานไฟฟ้าสะอาดให้คนอื่นไม่ได้ ต้องขายให้ไทยก่อนเท่านั้น ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะออกมาจากปากของนายกรัฐมนตรีไทย เพราะนายกรัฐมนตรีไทยต้องสำเหนียกไว้ด้วยว่า ลาวเขามีเอกราช เขาจะขายของของเขาให้ใคร เป็นเรื่องที่เขาสามารถตัดสินใจเลือกได้ด้วยตัวเขาเอง แต่การที่ไทยไปบอกลาวว่าต้องขายให้ไทยเท่านั้น ถามว่าไทยมีอำนาจอะไรไปบังคับลาว
ประเด็นที่เพิ่งเกิดขึ้นคือเรื่องสิงคโปร์จ้างนักร้องระดับโลก เทย์เลอร์ สวิฟต์ ให้เปิดการแสดงคอนเสิร์ตเฉพาะในประเทศสิงคโปร์เพียงประเทศเดียวเท่านั้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนทำให้มีรายได้จำนวนมหาศาลไหลเข้าสิงคโปร์ ประเด็นนี้ ทำให้นายกรัฐมนตรีไทยไม่พอใจมาก จนถึงกับกล่าวหาว่าสิงคโปร์ดำเนินนโยบายที่ไม่เป็นมิตรกับประเทศสมาชิกอาเซียน ในเรื่องนี้ก็ต้องถามกลับไปยังนายกรัฐมนตรีไทยว่ามีปัญญาสร้างนโยบายต่างประเทศเรื่องนี้แข่งขันกับรัฐบาลสิงคโปร์ได้หรือไม่ หากได้ก็ทำไปเลย ไม่จำเป็นต้องไปกล่าวหาว่าสิงคโปร์ใช้นโยบายที่ไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้านสมาชิกอาเซียน
ลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ตอบคำถามเรื่องที่ไทยกล่าวหาว่าสิงคโปร์ใช้นโยบายไม่เป็นมิตรกับเพื่อนอาเซียนว่า สิ่งที่ทำนั้นไม่เห็นจะมีตรงไหนที่ไม่เป็นมิตรกับเพื่อนๆ ในอาเซียน เพราะหน่วยงานของสิงคโปร์เจรจากับเทย์เลอร์ สวิฟต์ ให้ไปเปิดการแสดงในสิงคโปร์เพียงประเทศเดียวในอาเซียน ซึ่งก็เป็นข้อตกลงที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่พบว่าไม่เป็นมิตรกับอาเซียนในเรื่องใด
ทั้งนี้ สวิฟต์เปิดการแสดงคอนเสิร์ตในสิงคโปร์ รวบหกรอบ เริ่มจาก 2 มีนาคม 2567 แล้วสิ้นสุดการแสดงรอบสุดท้ายวันที่ 9 มีนาคม 2567 โดยรัฐบาลสิงคโปร์ยอมรับว่าให้ทุนเปิดการแสดงคอนเสิร์ตกับสวิฟต์ แต่ไม่เปิดเผยวงเงินว่าจำนวนเท่าไร คาดการณ์ว่า การแสดงคอนเสิร์ตของสวิฟต์จะทำให้สิงคโปร์ผู้คนต่างชาติเข้าไปชมคอนเสิร์ตประมาณกว่า 2 แสนคน จากจำนวนบัตรการแสดงทั้งหมด 3 แสนใบ และคาดว่าจะทำให้มีเงินสะพัดในการแสดงคอนเสิร์ตนี้อย่างน้อยประมาณ 13,000 ล้านบาท
งานนี้คือการทูตแบบมีปัญญา เทียบกับการทูตแบบไร้ปัญญาของผู้นำประเทศบางประเทศ ปัญญานำมาซึ่งความเจริญและความมั่นคง ส่วนผู้ไร้ปัญญาก็เป็นแค่เพียงหุ่นเชิดของคนบางคนเท่านั้น เรื่องแบบนี้มันเทียบกันไม่ได้ มันไม่ได้อยู่ที่ประเทศเล็กหรือใหญ่ แต่อยู่ที่คุณภาพของมันสมองของผู้นำเป็นสำคัญ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี