วันนี้ (พุธที่ 29 พ.ค. 2567) อัยการสูงสุด นัดฟังคำสั่งคดี 112 กรณีทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประเทศเกาหลีใต้ ในช่วงหนีคดีอยู่ต่างประเทศ
อดีตอัยการสูงสุด คือ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร มีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้ว
แต่เมื่อทักษิณเดินทางกลับมาไทย เข้าสู่ขั้นตอนการสู้คดี ได้ยื่นหนังสือร้องความเป็นธรรม ขอให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม
นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุดคนปัจจุบัน มีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมและนัดฟังคำสั่งคดีในวันนี้ (ก่อนหน้านี้ ได้เลื่อนมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 10 เม.ย.2567)
1. ถ้าทักษิณรอด สถาบันอัยการก็น่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง
เพราะคดีนี้ อดีตอัยการสูงสุดเคยสั่งฟ้องไปแล้ว
แต่พอมาถึงยุครัฐบาลเพื่อไทย อัยการสูงสุดกลับคำสั่งเดิม เป็นคุณกับทักษิณ ที่ถูกมองว่าเป็นนักโทษเทวดา เป็นผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล
ถูกมองว่าซ้ำรอยคดีบอส ซึ่งคดีดังกล่าวถึงขนาดถูกตรวจสอบขนานใหญ่ จนผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงรองอัยการสูงสุดผู้สั่งคดี ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญาแล้วด้วย
2. ถ้าทักษิณไม่รอด ต้องตกเป็นจำเลยในคดี 112 ต่อศาลอาญาฯ ทักษิณก็มีสิทธิต่อสู้คดีต่อไปอีก 3 ศาล
มีสิทธิประกันตัว เป็นกรณีตัวอย่าง ซึ่งน่าจะได้รับการประกันตัว เหมือนที่จำเลยคดี 112 ส่วนใหญ่ได้ประกัน ก็จะเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า มีสิทธิตามกฎหมายในการต่อสู้คดี
สู้คดีแบบเท่ๆ พลิกสถานการณ์ได้เลย
อดีตนายกฯ ทักษิณ อายุ 75 ปี ต้องสู้คดีถึง 3 ศาล กว่าจะจบก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 5 ปี รูปคดีถ้าทำตัวดี ให้การเป็นประโยชน์ อาจรอด หรือถ้าผิด โทษจำคุกก็อาจจะรอลงอาญา
3. ในทางการเมือง หากทักษิณตกเป็นจำเลย พรรคเพื่อไทยยิ่งไม่สามารถจะไปแทงกั๊ก หรือหนุนการนิรโทษกรรมคดี 112 ได้อีก
เพราะจะถูกตราหน้าได้ทันทีว่า “ทำเพื่อนายใหญ่”
หากพลิกกลับมาหนุนการนิรโทษกรรมคดี 112 ก็เท่ากับ ขุดหลุมฝังตัวเองเบ็ดเสร็จ
แต่ถ้าใช้โอกาสนี้ เดินหน้าผลักดันนิรโทษกรรมคดีอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการศึกษาดำเนินการอยู่นั้น คนส่วนใหญ่ ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ ทุกกลุ่ม ที่ไม่ได้ไปมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็จะไม่ต้องถูกจับเป็นตัวประกัน
ไม่มีความจำเป็นต้องกระโดดลงไปในกระทะน้ำเดือดร่วมกับพรรคก้าวไกลที่จะถูกยุบ-มิยุบแหล่ แต่อย่างใด
4. วันก่อน นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด (อสส.)
ขอให้ยืนยันคำสั่งฟ้องของ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด กรณีนายทักษิณ ชินวัตร มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ในหนังสือร้องเรียนดังกล่าว ระบุว่า ได้ติดตามคดีที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
มาตั้งแต่ต้น และต่อมา นายทักษิณขอความเป็นธรรมและอ้างพยานหลักฐานเพิ่มเติม ได้แก่ นายทหารระดับยศพลเอกและนักการเมืองหนุ่มนักเรียนนอก เลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งล้วนเป็นพยานจัดตั้งและมีผลประโยชน์ทางการเมืองทับซ้อนในปัจจุบัน
อสส.จึงต้องยืนหลักการเดิมของ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อสส.ในขณะนั้นที่มีคำสั่งฟ้องดำเนินคดีนายทักษิณ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพื่อดำรงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐและนิติธรรม
ดังนั้น ขอให้อสส.พิจารณาพยานจัดตั้งของนายทักษิณ ทุกปากและชั่งน้ำหนักพยานอย่างมีดุลยธรรม ก่อนจะสั่งคดี เพื่อความยุติธรรมต่อไป และอย่าใช้กระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐาน
ก่อนหน้านี้ อสส.ได้สั่งไม่ฟ้องคนในตระกูลนี้ ซึ่งหลายคดีเป็นที่ครหาของสังคมในการใช้ดุลพินิจของ อสส.เรื่อยมาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือมีใบสั่งทางการเมืองหรือไม่ อาทิ
“1.อัยการสั่งไม่ฟ้องนายทักษิณและพวกซุกหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท
2.อัยการไม่ยื่นฎีกาคดีที่คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ หลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้น บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
3.นายพานทองแท้ ชินวัตร รอดพ้นจากการที่อัยการไม่ยื่นอุทธรณ์คดีฟอกเงินกรุงไทย
4.อัยการสั่งไม่ฟ้องนางกาญจนาภา หงษ์เหิน อดีตเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน และนายวันชัยหงษ์เหิน สามีของนางกาญจนาภาคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
...ประชาชนสงสัยในการสั่งคดีเป็นอย่างยิ่งและอดีตอัยการสูงสุดคนหนึ่ง คือ นายชัยเกษม นิติสิริ ไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประชาชนก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก
ดังนั้น คดีนี้จึงต้องรอบคอบถ่องแท้ ขออย่าเลื่อนการสั่งคดีออกไปอีก
และให้โลกร่ำลือในวีรกรรมการสั่งคดีเพื่อประเทศชาติในครั้งนี้
อนึ่ง นายทักษิณ ชินวัตร ปัจจุบันเป็นนักโทษหมายเลข 66501002668 คดีทุจริตถูกจำคุก 1 ปี อยู่ในระหว่างการพักโทษให้ไปถูกคุมขังที่บ้านจันทร์ส่องหล้า กำหนด
พ้นโทษวันที่ 31 สิงหาคม 2567
สถานะในปัจจุบัน จึงยังเป็นนักโทษตามกฎหมายกรมราชทัณฑ์
จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และกฎหมาย...” – นายวัชระระบุในหนังสือร้องเรียน
5. ก่อนหน้านี้ นายถาวร เสนเนียม อดีตรมช.มหาดไทย และอดีตอัยการ ให้ความเห็นว่า คนที่ตกเป็นผู้ต้องหา ไม่อยากเป็นจำเลยให้ถูกสั่งฟ้อง นั่นคือทักษิณ
“...ผมขอส่งสัญญาณไปยังคณะทำงานของอัยการชุดนี้ รวมถึงอัยการสูงสุดด้วย
อย่าเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า
เพราะอดีตอัยการสูงสุดคนเก่า เป็นผู้เขียนด้วยมือ ว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอในการสั่งฟ้อง
ซึ่งถ้าจะสั่งไม่ฟ้อง ต้องมีเอกสารหลักฐาน มาแถลงข่าวซึ่งเป็นที่น่าเชื่อถือได้ว่าทักษิณไม่ได้ทำผิด ต้องมีจริงๆ
แต่ถ้าอ้อมๆ แอ้มๆ หรือเลื่อนการสั่งคดีไปเรื่อย คนก็ยิ่งสงสัยหนักขึ้น
แต่ผมเชื่ออัยการสูงสุดคนเก่าที่สั่งฟ้องคนระดับอดีตนายกฯ เพราะถ้าแกล้งฟ้องเขาทักษิณอำนาจล้นฟ้า คุณถูกฟ้องกลับตาย ผมก็ว่าไม่น่าเป็นไปได้
เขาก็ต้องฟ้องไปตามข้อกฎหมายและพยานหลักฐาน..”
นักข่าวถามว่า หากมีการเลื่อนการสั่งคดีออกไปอีก สันนิษฐานว่าอย่างไร?
นายถาวร อดีตอัยการ ตอบว่า ก็คงมีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมซึ่งมีอยู่บ่อย
6. ในทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
คดีนี้ นายทักษิณให้การปฏิเสธ พร้อมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด
พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม
การเลื่อนการสั่งคดีก่อนหน้านี้ (พุธ 10 เม.ย.) ทางสนง.อัยการชี้แจงว่า เป็นเพราะการสอบสวนยังไม่ครบถ้วน จึงได้เลื่อนอ่านคำสั่งมาพิจารณาในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้
โดยหลักการฟ้องคดีของอัยการสูงสุด ตามประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญา เชื่อว่าจะออกมาได้สามแนวทาง คือ
1.หากสอบสวนยังไม่ครบถ้วน ทำให้ยังลงความเห็นและคำสั่งไม่ได้ ก็จะมีการเลื่อนการฟังคำสั่งคดีออกไปอีก เช่น อาจจะ 30 วัน เป็นต้น
2.หากครบถ้วนสิ้นกระแสความ อัยการสูงสุดจะวินิจฉัยและมีคำสั่ง
3.หากไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ให้สั่งฟ้องไปตามคำสั่งเดิม แต่หากพยานหลักฐานดูแล้วการกระทำไม่เป็นความผิด จะลงความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
โดยคำสั่งของอัยการสูงสุดถือเป็นที่สุด
ถ้าอัยการสูงสุดเห็นควรสั่งฟ้องคดี หลังจากนั้น ขั้นตอนต่อไป คือ
- อัยการส่งตัวจำเลยไปศาล
-ศาลส่งสำเนาฟ้องให้จำเลย
-อ่านอธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง
-ถามจำเลยว่าได้กระทำผิดจริงหรือไม่ จะให้การต่อสู้อย่างไรบ้าง
-คำให้การของจำเลยให้จดไว้
-ถ้าจำเลยไม่ยอมให้การก็ให้ศาลจด รายงานไว้ และดำเนินการต่อไป
ในทางปฏิบัติ ศาลไม่เคยไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญาที่พนักงานเป็นโจทก์ เพราะถือว่าได้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว จึงเป็นที่เชื่อได้ว่าคดีมีมูลเพียงพอที่จะพิจารณาคดีได้
ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดี ต้องให้จำเลยมาหรือคุมตัวไปศาลด้วย เพราะการไต่สวนต้องทำต่อหน้าจำเลย
ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ ศาลต้องอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลย แม้ศาลยังไม่ได้ประทับฟ้องไว้พิจารณา จำเลยก็ตกอยู่ในฐานะจำเลยแล้ว
ติดตามว่า คดี 112 ของนายทักษิณ จะออกมาในรูปใด?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี