วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันอังคาร ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
ก้าวไกล ก้าวผิดซ้ำซาก

ดูทั้งหมด

  •  

วันพรุ่งนี้ ศาลรัฐธรรมนุญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล จากพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง

ยุบพรรค หรือไม่ยุบ ?


คำตอบอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ

คำวินิจฉัยชี้ขาดถือเป็นที่สุด มีผลผูกพันทุกองค์กร

1. พรรคก้าวไกล ได้แถลงข่าวชี้นำ กดดันศาลรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง

ให้ข้อมูลบิดเบือนชี้นำสังคม กล่าวหาการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและ กกต.

มีการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ

และยังอาศัยสถานะของเจ้าหน้าที่ทูตต่างชาติที่เล็งเห็นประโยชน์ทางการเมืองร่วมกับพรรคก้าวไกลและแนวร่วมม็อบสามนิ้ว ในการชี้นำกดดันศาลด้วย

ล่าสุด รัฐสภาอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หรือ APHR ได้ออกแถลงการณ์ อ้างว่ากังวลในประเด็นที่ว่ารัฐบาลจะพยายามปิดปากฝ่ายนิติบัญญัติด้วยการใช้ศาลเป็นอาวุธ

APHR ระบุว่า มีข้อบ่งชี้ว่าคำพิพากษาในวันที่ 7 ส.ค. 2567 อาจจะไม่เป็นคุณต่อพรรคก้าวไกล เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งและศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าการแก้ไข เป็นความพยายามที่จะโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของรัฐ

“ในแง่ของสถานการณ์เหล่านี้ เราขอเรียกร้องให้ตุลาการไทยรักษาความเป็นอิสระและพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลที่ตามมาของอภิสิทธิ์ของสภานิติบัญญัติที่เกินขอบเขตอาจมีต่อเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทย ตลอดจนชื่อเสียงในระดับสากล” นางเมอร์ซีย์ บาร์เรนด์ ประธาน APHR และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียกล่าว

2. อันที่จริง พรรคก้าวไกลถูกยื่นยุบพรรค เพราะก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมติเอกฉันท์ ว่านายพิธาและพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองฯ

พรรคก้าวไกลเคยได้รับโอกาสที่ดีในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มี สส. จากการเลือกตั้งมากถึง 151 เสียง แต่เมื่อไม่เกินกึ่งหนึ่ง ก็ต้องแสวงหาพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งปรากฏว่า ในบรรดาพรรคการเมืองที่มาจับมือสนับสนุนช่วงแรกนั้น ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครเอาด้วยกับแนวทางที่จะไปแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 และในที่สุด นายพิธายืนยันเรื่องท่าทีแนวทางต่อเรื่องมาตรา 112 แถมประกาศจะจัดวางพระราชสถานะและพระราชอำนาจใหม่ ในที่สุด ก็ได้คะแนนจากรัฐสภาไม่ถึงกึ่งหนึ่ง

สุดท้าย พรรคก้าวไกลก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน และอาจจะถูกยุบพรรคเพราะพฤติการณ์เคลื่อนไหวแก้ไขหรือล้มล้างมาตรา 112 ซ่อนเร้นเจตนาที่แท้จริงในการกัดกร่อน บั่นเซาะ บ่อนทำลาย ลดการคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ สนับสนุนกลุ่มล้มล้างมาตรา 112 และผู้กระทำผิดมาตรา 112 เข้าข่ายใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลมีจุดเด่นเรื่องการใช้สื่อโซเชียล ร่วมกับอินฟลูฯในเครือข่าย
ในการปั่นกระแส สร้างภาพลักษณ์ สร้างวาทกรรมที่เป็นบวกแก่ตนเอง และโจมตีฝ่ายตรงข้าม

แต่เวลาผ่านไป ความจริงเริ่มปรากฏ น้ำลดตอเริ่มผุด เลือกตั้งท้องถิ่นก็แพ้ราบ

ภาพลักษณ์ที่สร้างว่าเป็นพรรคคนรุ่นใหม่ การเมืองใหม่ หัวใหม่ เก่งกล้าสามารถ ความจริงก็ค่อยๆ ปรากฏว่าไม่ตรงปก

การพูดเพื่อปั่นกระแส จะพูดสุดโต่งอย่างไร เอาให้สะใจแค่ไหน ใครก็พูดได้ แต่ในโลกความเป็นจริง ทำไม่ได้ หรือถ้าทำจริง ก็จะมีความเสียหายระดับหายนะ

จำได้ไหม.. นายพิธาก็ยอมรับด้วยตนเองแล้ว ว่าไม่สามารถขึ้นค่าแรงขั้นต่ำพรวดเดียวเลยทันทีเมื่อครั้งจะเข้าเป็นนายกฯ

สส. ก้าวไกล เล่นการเมืองไม่ต่างจากนักการเมืองน้ำเน่า เล่นเกมล่มการประชุมสภา มีทั้ง สส. หนีทหาร ก้าวกาม ซิกแซกเงินสนับสนุนจากรัฐ หมกมุ่นกับการโจมตีด้อยค่าสถาบัน ช่วยคนทำผิด 112 และหลายเรื่องที่เคยป่าวประกาศปั่นกระแส
เช่น วัคซีนเทพ ไฮเปอร์ลูป เรือประมงแทนเรือรบ แนวทางปฏิปักษ์กับจีน โปรสหรัฐสุดลิ่ม ฯลฯ

สุดท้าย ล้วนพิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แค่โหนไปตามกระแส

เหมือนวิถีของอินฟลูฯในโลกโซเชียล ซึ่งเหมาะที่จะเล่นสนุกในโซเชียล แต่เป็นเพียงเด็กเล่นขายของในโลกที่ต้องรับผิดชอบประเทศชาติและชีวิตผู้คนจริงๆ

 

สิ่งที่เคยเป็นจุดแข็ง เมื่อผู้ที่เคยสนับสนุนตาสว่าง แรงสนับสนุนก็จะหายไป

เหมือนบางยุคที่คนเห่อของใหม่เป็นพักๆ เพราะเดี๋ยวก็มีของใหม่กว่า

เป็นการสร้างดีมานด์เทียม จากการปั่นกระแส สร้างภาพฟองสบู่คนรุ่นใหม่ แถมเล่นผิดกติกาซ้ำซาก ไร้สาระ ไร้ประโยชน์

แถมพาคนไปติดคุกระนาว

นับถอยหลังสู่จุดจบ

3. ดร.ศุภณัฐ Suphanat Aphinyan ได้ตอบโต้ถ้อยแถลงชี้นำบิดเบือนของพลพรรคก้าวไกล

ว่าด้วยเรื่อง “ชำแหละ 9 ข้อแถโง่ๆ ที่ฟังไม่ขึ้นของพรรคก้าวไกล” ระบุว่า

“ข้อ 1. ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่มีอำนาจในการวินิจฉัยยุบพรรคได้อย่างไรในเมื่อมีการบัญญัติไว้ใน พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ผ่านมาก็มีการยุบพรรคที่ทำผิดให้เห็นๆ กันอยู่ แล้วถ้าพรรคก้าวไกลทำผิด ทำไมจะยุบไม่ได้?

ข้อ 2. ถ้าคิดว่าคำร้องของ กกต. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย พรรคก้าวไกลก็ต้องดำเนินการเอาผิดกับ กกต. ซึ่งเป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าจะสามารถนำมาแถให้พรรค
ก้าวไกลพ้นผิดไปได้

ข้อ 3. คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กรและคำวินิจฉัยที่ 3/2567 ก็มีความต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะสืบเนื่องมาจากการที่พรรคก้าวไกลใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ก็แค่นำมาวินิจฉัยต่อไปว่าสมควรยุบหรือไม่ ไม่ใช่ข้อหาที่แตกต่างกันตามที่พรรคก้าวไกลแถแบบโง่ๆ

ข้อ 4. เมื่อบุคคลทำเกินมติพรรคถ้าพรรคไม่ยอมรับก็ต้องจัดการแต่เนิ่นๆ ในทุกกรณี แต่ทว่าพรรคก้าวไกลกลับไม่เคยจัดการใดๆ การอภิปรายบิดเบือนให้ร้ายในสภาก็เคยเกิดขึ้นหลายครั้ง แม้แต่ถวายพระพรก็ยังไม่มี แถมพรรคก้าวไกลยังออกหน้าประกันตัว สส. ผู้กระทำผิด ม.112 อย่างชัดเจนอีกด้วย

ข้อ 5. พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง ถือหลักป้องปรามในการยุบพรรคพรรคก้าวไกลใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองอย่างชัดเจนก็อาจเข้าข่ายโดนยุบพรรคเหมือนกันไม่จำเป็นต้องรอให้พรรคก้าวไกลยุยงปลุกปั่นมวลชนหรือใช้กำลังในการล้มล้างเสียก่อน

ข้อ 6. ยุบหรือไม่ยุบเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ศาลรัฐธรรมนูญเป็นเพียงแค่ผู้วินิจฉัยเท่านั้น ส่วนจะสมควรแก่เหตุหรือไม่ก็เป็นดุลพินิจของศาล หากมองว่าการที่พรรคก้าวไกลสร้างความแตกแยกทางความคิดชี้นำไปสู่บั้นปลายของการล้มล้างซึ่งเต็มไปด้วยความรุนแรงและการสูญเสีย เพียงแต่ยังไม่ได้ปรากฏขึ้นเป็นรูปธรรมเท่านั้น การยุบพรรคก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินเลยกว่าเหตุ เพื่อยับยั้งความรุนแรงก่อนที่อนาธิปไตยจะเกิดขึ้นมาทำลายประชาธิปไตย

ข้อ 7-9. พรรคก้าวไกลเล่นแง่แถกฎหมายไปเรื่อย เพราะถ้าคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิในการเพิกถอนสิทธิจริงก็ควรจบตั้งแต่ข้อ 7. ไม่ใช่แถไปจนถึงข้อ 9. ในลักษณะต่อรองเป็นขั้นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลไม่รู้กฎหมายจริง หากแต่ตีความกฎหมายเข้าข้างตัวเองสุดๆ ในทุกกรณี

ดังนั้น หากดูเพียงผิวเผินด้วยความไม่รู้กฎหมายก็อาจมองว่าพรรคก้าวไกลเก่งฉกาจที่สามารถยกข้อต่อสู้ทางกฎหมายขึ้นมาได้ถึง 9 ข้อ แต่ทว่าความเป็นจริง พรรคก้าวไกลก็แค่ตีความกฎหมายเข้าข้างตัวเองแบบเด็กเอาแต่ใจ ไร้วุฒิภาวะ ไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักการและความเป็นจริงแต่อย่างใด”

นอกจากนี้ ยังแจกแจงประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องบางส่วน ระบุว่า

“...เงื่อนไขการยุบพรรคการเมืองที่เกี่ยวเนื่องด้วยการล้มล้างการปกครอง มีอยู่ด้วยกัน 2 กรณี

(1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

(2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

...กฎหมายออกแบบมาในลักษณะป้องปราม ไม่จำเป็นต้องรอให้พรรคก้าวไกลยุยงปลุกปั่นมวลชนหรือใช้กำลังในการล้มล้างการปกครองเสียก่อนถึงจะสามารถยุบพรรคได้ แค่กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองก็เข้าข่ายยุบพรรคได้แล้ว

แม้ว่าพรรคก้าวไกลอาจไม่ได้ใช้กำลังล้มล้างการปกครองโดยตรงตาม (1) แต่ทว่ากระทำการเซาะกร่อนบ่อนทำลายเคลื่อนไหวคู่ขนานกับม็อบสามนิ้วมาโดยตลอด อีกทั้งสมาชิกของพรรคจำนวนไม่น้อยยังเคยแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มิหนำซ้ำหัวหน้าพรรคยังออกหน้าช่วยประกันตัว สส. ซึ่งกระทำผิด ม.112 อย่างชัดเจนอีกด้วย

เห็นได้ชัดว่าทั้งเจตนาและพฤติการณ์ของพรรคก้าวไกลส่อไปในทาง (2) ทั้งสิ้น

การกระทำของพรรคก้าวไกลอันใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง จึงเข้าข่ายกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (2) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง

อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยยุบพรรคเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ มิอาจก้าวล่วงได้

แต่ในฐานะประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการที่พรรคก้าวไกลใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงไปสู่อนาธิปไตยล้มล้างประชาธิปไตยเสียเองในที่สุด

จึงขอแสดงจุดยืน 1 สิทธิ์ 1 เสียง สนับสนุนยุบพรรคก้าวไกล” – ดร.ศุภณัฐกล่าว

4. สุดท้าย ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยชี้ขาดให้ยุบพรรคก้าวไกลหรือไม่ ทุกฝ่ายต้องเคารพคำวินิจฉัยศาล และคำวินิจฉัยก็มีผลผูกพันทุกองค์กร

ถ้ายุบ สส.ก้าวไกลที่ไม่ใช่กรรมการบริการพรรคชุดที่กระทำการล้มล้างการปกครอง ก็แค่ไปสังกัดพรรคใหม่

จะไปพรรคไหน ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของตนเอง

ถ้าไม่ยุบ ฝ่ายที่พยายามคุกคามกดดันการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ก็คงจะได้ใจ และเหิมเกริมยิ่งกว่าเดิม

 

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
06:44 น. เช็คที่นี่! ‘กรมอุตุฯ’ประกาศ‘ฉบับ5’ กางลิสต์‘จังหวัด’เตือน 19-24 ก.ค.‘ฝนตกหนักมาก’
06:00 น. ‘พิชัย’โวเจรจาภาษีสหรัฐราบรื่น คาดเก็บไทย20% ลุ้นประกาศก่อนเส้นตาย1ส.ค.นี้
06:00 น. ‘ไมค์ ภิรมย์พร’ รับไม้ต่อเพลงประกอบละคร‘ผาแดง นางไอ่’ เพลงที่ 2 ‘บ่วงฮัก’
06:00 น. ‘มท.1’สั่งอธิบดีปภ. พร้อมรับมือน้ำท่วม ฝนถล่มหนักทั่วไทย ห่วงพายุลูกใหม่‘วิภา’
06:00 น. ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา มอง‘ทักษิณ’คนตกยุคทางการเมือง ‘รวมไทยสร้างชาติ’ไม่ปรับใหญ่อยู่ยาก
ดูทั้งหมด
ชุดทหารพรานก็ไม่รอด!! เขมรแต่งเครื่องแบบคล้ายชุดทหารพรานไทย สวนสนามต้อนรับ'ฮุน มาเนต'
ช็อก! คลินิกความงาม หลอกขายคอร์ส เปิดหรูในห้างดัง พบเงินบัญชีม้าเกือบ 50 ล้าน
(คลิป) 'รัชดา ธนาดิเรก'คายเรื่องลับ ยุคลุงตู่!! เล่าหมดเปลือก ปมดราม่า
‘ไพศาล’ปูดตั้ง‘วิษณุ’หัวหน้าทีมแก้ต่างคดี‘คลิปเสียง’ เปรียบรัฐบาลใช้ช่างทำรองเท้าไปทำฟัน
'ผอ.พศ.'แจงแล้ว! ปม'บิ๊กเต่า'สวดไม่จริงใจแก้ปัญหา ยันทำตามหน้าที่ ไม่ใช้ความรู้สึกตัดสิน
ดูทั้งหมด
นายกฯ ตัวจริง คือนักโทษพักคดี
บุคคลแนวหน้า : 19 กรกฎาคม 2568
ป่าช้าแตก
พม่าจัดเลือกตั้งปลายปีนี้ไทยควรสนับสนุนด้วยความยินดี
โกงไปจนวันสิ้นอำนาจรัฐ หรือหมดลมหายใจ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ตกปลาทั้งคืนไหว! เช้าขับรถกลับบ้านหลับในหวิดตกสะพาน

โจรขโมย'หลวงพ่อพระเบา'พระพุทธรูปคู่อ.หนองหาน ชาวบ้านเชื่อไม่เกิน7วันได้คืน

'รอง ผอ.พศ.'แนะมองลึกกว่าข่าวฉาว แยกแยะ'จีวรจากใจ' ย้ำ'พุทธศาสนาไม่เคยสึกไปพร้อมใคร'

'ลอนดอน'ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป! 'คนไทย'เตือนภัยโจรใช้วัตถุคล้ายระเบิดทุบกระจกรถก่อนฉกทรัพย์

‘เจิมศักดิ์’สวน‘ทักษิณ’ชงถมทะเล ย้อนฟังนักวิชาการเคยเตือนแล้วทำเมื่อไรกระทบสิ่งแวดล้อมแน่

โนหนึ่งโลก! 'จีน'ผงาดค้นพบแร่แรร์เอิร์ธชนิดใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในมองโกเลีย

  • Breaking News
  • เช็คที่นี่! ‘กรมอุตุฯ’ประกาศ‘ฉบับ5’ กางลิสต์‘จังหวัด’เตือน 19-24 ก.ค.‘ฝนตกหนักมาก’ เช็คที่นี่! ‘กรมอุตุฯ’ประกาศ‘ฉบับ5’ กางลิสต์‘จังหวัด’เตือน 19-24 ก.ค.‘ฝนตกหนักมาก’
  • ‘พิชัย’โวเจรจาภาษีสหรัฐราบรื่น คาดเก็บไทย20% ลุ้นประกาศก่อนเส้นตาย1ส.ค.นี้ ‘พิชัย’โวเจรจาภาษีสหรัฐราบรื่น คาดเก็บไทย20% ลุ้นประกาศก่อนเส้นตาย1ส.ค.นี้
  • ‘ไมค์ ภิรมย์พร’ รับไม้ต่อเพลงประกอบละคร‘ผาแดง นางไอ่’ เพลงที่ 2 ‘บ่วงฮัก’ ‘ไมค์ ภิรมย์พร’ รับไม้ต่อเพลงประกอบละคร‘ผาแดง นางไอ่’ เพลงที่ 2 ‘บ่วงฮัก’
  • ‘มท.1’สั่งอธิบดีปภ. พร้อมรับมือน้ำท่วม ฝนถล่มหนักทั่วไทย ห่วงพายุลูกใหม่‘วิภา’ ‘มท.1’สั่งอธิบดีปภ. พร้อมรับมือน้ำท่วม ฝนถล่มหนักทั่วไทย ห่วงพายุลูกใหม่‘วิภา’
  • ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา  มอง‘ทักษิณ’คนตกยุคทางการเมือง  ‘รวมไทยสร้างชาติ’ไม่ปรับใหญ่อยู่ยาก ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา มอง‘ทักษิณ’คนตกยุคทางการเมือง ‘รวมไทยสร้างชาติ’ไม่ปรับใหญ่อยู่ยาก
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ไทยต้องปรับตัว ผู้นำรัฐบาลไร้ฝีมือ รีบออกไป

ไทยต้องปรับตัว ผู้นำรัฐบาลไร้ฝีมือ รีบออกไป

18 ก.ค. 2568

คดีชั้น 14 โค้งสุดท้าย  ใครส่อเค้าอาการวิกฤต

คดีชั้น 14 โค้งสุดท้าย ใครส่อเค้าอาการวิกฤต

17 ก.ค. 2568

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แบบเอาหน้าประชานิยม

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แบบเอาหน้าประชานิยม

16 ก.ค. 2568

ศึกเขากระโดง ใครจะโดน 157 ?  ปรับ ครม. เพื่อชำระแค้นการเมือง

ศึกเขากระโดง ใครจะโดน 157 ? ปรับ ครม. เพื่อชำระแค้นการเมือง

15 ก.ค. 2568

ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ เพื่อใคร?

ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ เพื่อใคร?

14 ก.ค. 2568

กำจัดมารศาสนา ‘สีกาหน้าด้าน กับพระบ้ากาม’

กำจัดมารศาสนา ‘สีกาหน้าด้าน กับพระบ้ากาม’

11 ก.ค. 2568

รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ไร้ฝีมือแท้ทรู  คือ ตัวถ่วงประเทศไทย

รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ไร้ฝีมือแท้ทรู คือ ตัวถ่วงประเทศไทย

10 ก.ค. 2568

ความจริงกรณีบังคับโทษจำคุกนักโทษชั้น 14

ความจริงกรณีบังคับโทษจำคุกนักโทษชั้น 14

9 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved