“พรรคประชาชน” นี่ มันเป็นพรรคแปลกๆ นะ พูดจาอะไร มักวกกลับเข้าตัว ตีฝีปากเก่ง ประดิดประดอยถ้อยคำกันราวกับเป็น “โรงงานอุตสาหกรรมวาทกรรม”
ยกตัวอย่างเช่น...
เมื่อได้อ่าน “คำหล่อๆ” ของ ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ ที่แถลงภายหลังทราบผลการเลือกตั้งซ่อม จ.พิษณุโลก (๑๕ ก.ย.๒๕๖๗) ข้าพเจ้าได้แต่อมยิ้มนึกในใจว่า คนพรรคนี้ ล้วนต้องรับบท “หลวงประดิษฐ์วาทกรรม” หรือเป็น “เจ้าคุณวิเศษสำนวน” กันไปหมดทุกคนเลยเชียวหรือ?
๑) ไอติมกล่าวว่า “ผมเข้าใจความรู้สึกของหลายๆ คน ที่เสียดายว่าเราอาจจะไม่มีผู้แทนราษฎร ที่เป็นคนคุณภาพอย่างคุณโฟล์ค เข้าไปผลักดันการเปลี่ยนแปลงในสภาได้”
“แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาต้องมาท้อ คุณโฟล์ค ก็จะทำหน้าที่ต่อ อย่างที่เคยทำมาตลอดในการประสานในฐานะตัวแทนพรรคประชาชนในพื้นที่พิษณุโลกต่อไป”
๒) คำถามแรกก็คือ นี่คือการเลือกตั้งซ่อมสส. ๑ คน แทนเก้าอี้ที่ว่างลง เพราะ “พี่อ๋อง ป๋องเบียร์” นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หลุดจากการเป็น สส. เท่านั้น หากโฟล์คชนะการเลือกตั้ง พรรคประชาชนก็ได้ สส. ไปแทนที่อ๋องตามเดิม อีกเพียง ๑ คน แล้วจะเข้าไป “ผลักดันการเปลี่ยนแปลง” อะไรในสภาเหรอ?
๓) แล้ว สส. ร้อยกว่าคนที่มีอยู่แล้วในสภานั่น ผลักดันการเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลยเหรอครับ ต้องรอโฟล์คเข้าไปอีกคนเท่านั้นเหรอครับ ถึงกับต้องประดิษฐ์ “คำโต” ขึ้นกล่าวว่า “เสียดายว่าเราอาจจะไม่มีผู้แทนราษฎรที่เป็นคนคุณภาพอย่างคุณโฟล์คเข้าไปผลักดันการเปลี่ยนแปลงในสภาได้”
๔) คุณภาพขนาดนี้ ทำไมไม่ให้โฟล์คเป็น “หัวหน้าพรรค” เสียเลยล่ะครับ หรือเป็น “โฆษกพรรค” ก็ได้ จะได้ทำหน้าที่ “ผลักดันการเปลี่ยนแปลง” ในพรรคประชาชนก่อน
๕) คำกล่าวของไอติมยังมี “ความหมายเงา” ที่ทาบทับอยู่ในคำหล่อๆ นี้ว่า “บู้ จเด็ศ” ที่คนพิษณุโลกเลือก ไม่ใช่ “คนคุณภาพ” หรือขั้นต่ำคือ “ไม่มีคุณภาพเท่ากับโฟล์ค” อย่างนั้นหรือครับ? หรืออีกมุมหนึ่ง คือการบอกว่าประชาชนคนพิษณุโลก เลือก “คนไม่มีคุณภาพ” เท่าโฟล์คไปเป็นผู้แทนของตน อย่างนั้นหรือเปล่า?
ถ้าโฟล์คมีคุณภาพดีขนาดนั้น แล้วทำไมให้โฟล์คเป็นแค่ “ผู้ประสานงาน” เองล่ะครับ พรรคยังเลือกให้โฟล์คเป็นแค่นั้นเลย แล้วคาดหวังจะให้ประชาชนคนพิษณุโลกเลือกโฟล์คเป็นแค่ไหนกันล่ะครับ
๖) อีกอย่างที่คาใจมานานก็คือ ตอนที่พรรคก้าวไกลขับ “อ๋อง ป๋องเบียร์” ออกจากพรรคนั่น อ๋องทำความผิดอะไรเหรอครับ ผิดระเบียบหรือข้อบังคับพรรคใด จนต้องลงโทษหนัก ด้วยมาตรการรุนแรง ถึงขั้น #ขับออกจากพรรค กันเลยทีเดียว หรือเป็นแค่เล่ห์กล เพื่อรักษาเก้าอี้รองประธานสภาไว้ให้อ๋อง พร้อมๆ กับรักษาเก้าอี้ “ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร” ไว้ให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น “เกมรักษาเก้าอี้” แบบนี้นักประชาธิปไตยจากสหราชอาณาจักร อย่าง ไอติม รับได้ใช่ไหมครับ เป็นประชาธิปไตยใสสะอาด เป็นการเมืองคุณภาพ เป็น #ความเปลี่ยนแปลง และยกระดับการเมืองไทยแล้ว? เป็นมาตรฐานของพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาผลักดันความเปลี่ยนแปลงแล้ว? เป็น #อนาคตใหม่ ของประเทศไทยแล้ว?
๗) อ๋องถูกขับออกจากพรรคไปแล้ว เป็นสมาชิกพรรคของพรรคอื่นไปแล้ว แต่วันยุบพรรคก้าวไกล พรรคก็เปิดโอกาสให้คนที่ #ถูกขับออกจากพรรค มาขึ้นปราศรัยบนเวทีของพรรคได้ด้วย ให้เป็นแม่ทัพส่งคนเลือกตั้งซ่อม เดินหาเสียงคู่กันกับผู้สมัครของพรรคได้ด้วย นี่มันอะไรกันครับ
ระวังนะครับ
เกิดมีนักร้องไปยื่นคำร้องว่า ให้คนนอกพรรคเข้ามาก้าวก่ายบงการได้ เดี๋ยวพรรคประชาชนจะถูกยุบอีกพรรคหนึ่งเอานา...
๘) ก็เช่นเดียวกับหัวหน้าเท้ง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ที่กล่าวระหว่างปราศรัยหาเสียง เลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี เมื่อ ๒๕ ส.ค.๒๕๖๗ ที่ผ่านมา จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า
“เราลงพื้นที่ ไม่ได้เอาของไปแจก ไม่ได้สร้างระบบบุญคุณ อุปถัมภ์ เราลงไปพบประชาชนเพื่อร่วมทุกข์ร่วมสุขเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการลงไปรับฟังเสียงสะท้อน มองเข้าไปในดวงตาของพี่น้อง ที่อยู่ภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบ”
๙) วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า
สร้างวาทะตอแหลแถไปได้เรื่อย!
เมิงร่วมทุกข์ร่วมสุขตรงไหน?
ยกพรรคไปกินไปนอนช่วยเหลือชาวบ้านที่โดนน้ำท่วมหรือยัง?
เมิงไม่ไปเพราะกลัวลำบาก กลัวเหนื่อย เพราะเป็นคุณหนูกันทั้งนั้น
เป็นพวกหน้าหนาตีนบาง
มีแต่กระบือเท่านั้นที่ให้พวกเมิงสนตะพาย
๑๐) ครับ ประชาชนเดือดร้อน ขาดแคลนอาหาร น้ำข้าวของบ้านช่องถูกทำลาย ทรัพย์สินเสียหาย สัตว์เลี้ยงล้มตาย คุณเท้งแกบอกว่าพรรคแกไม่แจกอะไรนะ ไม่สร้างระบบบุญคุณ อุปถัมภ์ แต่อีตอนพวกแกถูกยุบพรรคก้าวไกล เปลี่ยนมาเป็นพรรคประชาชน เปิดบัญชีรับบริจาคจากประชาชนกันสนั่นโซเชียล แถมอัปเดตยอดเงินตลอดเวลาเลยนะ เออโว้ย เวลากอบโกยจากประชาชน ทำได้ เวลาจะ “ให้” ประชาชนบ้าง บอกจะไม่สร้างระบบบุญคุณเสียอย่างนั้น
๑๑) ครั้นน้ำลดแล้ว พี่เท้งแกก็สวมกางเกงขาสั้นสีครีมกับเสื้อยืดสีขาว ลงพื้นที่ ไปทำท่าโกยโคลน ที่โลกออนไลน์ก็ดูท่าทางจับพลั่วของแกแล้ว ลำบากใจที่จะมอบรางวัลเลยครับ ว่าระหว่าง “คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์” จับตะหลิวผัดข้าว (ทิพย์) กับคุณชายเท้งจับพลั่ว โกยโคลน ใครจะดู “ปลอม” กว่ากัน
๑๒) อีกกรณีหนึ่ง ที่กระทบต่อความนิยมของพรรคประชาชนอย่างรุนแรง โดยเพจ The Truth รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่ผ่านมาที่รัฐสภาฯมีการแถลงนโยบายรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ สว. และสส.แต่ละพรรค ได้ขึ้นอภิปราย แต่พบว่า เกิดเป็นประเด็นขึ้นเมื่อ สส.พรรคประชาชน หรือพรรคก้าวไกลเดิม กลับทำตัวเป็น สส.ตัวแทนคนพม่า ใช้สิทธิ์ในสภา อภิปรายถามหาแต่เรื่องผลประโยชน์ของคนพม่าที่หนีสงคราม และสนับสนุนการให้การศึกษา โอบอุ้มลูกหลานพม่า อย่างหน้าเฉย นั่น ก็คือ สส.ธิษะณา ชุณหะวัณ พรรคประชาชน จนชาวเนตถล่มถามท่านเป็น สส.พม่าในสภาไทยใช่ไหมกลางไลฟ์สด ทีวีรัฐสภาฯ
บางช่วงบอกว่า การสู้รบในพม่าทวีความรุนแรงแต่ในคำแถลงนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี ไม่มีเขียนถึงรัฐบาลเมียนมาเลยแม้แต่คำเดียว ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในประเด็นด้านการต่างประเทศ ธิษะณาบอกว่า การแก้ไขปัญหาพม่า เราจำเป็นจะต้องลดการมองเรื่องมุมมองความมั่นคงทางการทหาร และจำเป็นต้องมองด้วยทัศนคติของสิทธิมนุษยชน และความเป็นประชาธิปไตย เราต้องมองพี่น้องชาวเมียนมา ที่เดือดร้อนจากภัยสู้รบ ว่าเขามีความจำเป็นที่จะต้องหนีร้อนมาพึ่งเย็นในประเทศเรา มากกว่าจะเป็นภัยความมั่นคง ที่จะมายึดประเทศไทย เขาไม่มีเจตนาที่จะทำอย่างนั้น เขาอยากอยู่บ้าน เขาไม่อยากมาที่นี่หรอก ถ้าเขาไม่มีความจำเป็น
ไม่พอ ยังโยงบิดเบือนเรื่องศูนย์เรียนรู้เถื่อนที่ถูกปิด ว่า มีการไล่ปิดศูนย์การเรียนรู้ ของชาวพม่าผลัดถิ่น ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพียงเพราะมีคลิปไวรัล ที่เด็กๆ
ในศูนย์ ร้องเพลงพม่า ชัดกว่าเพลงชาติไทย และย้ำว่า เพียงเท่านั้น และกล่าวหารัฐบาลว่า ลักลั่น ย้อนแย้งจากการถอนอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ข้อ ๒๒ เกี่ยวกับเด็กลี้ภัย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ศูนย์การเรียนรู้ที่ถูกปิดนั้น เป็นศูนย์การเรียนเถื่อน ที่เปิดอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดย สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำป้ายประกาศไปติดที่หน้าศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี บนป้ายเป็นเอกสารระบุว่า
“ศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ จัดตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการ ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 จึงให้ยุติกิจการดังกล่าวทันที และปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย”
ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า สรุปแล้ว สส.ธิษะณา ชุณหะวัณ พรรคส้ม เป็นตัวแทนประชาชนคนไทย หรือเป็น ตัวแทนประชาชนพม่ากันแน่ โดยในไลฟ์สด ทีวีรัฐสภาในช่วงดังกล่าว มีคอมเมนต์จำนวนมากเข้าไปต่อว่าจำนวนมาก เช่น ลูกๆ ในบ้านอยู่ดีกินดีกันแล้วหรือ ถึงไปห่วงลูกๆของข้างบ้าน, สรุป สส.ท่านนี้จะเอาคนพม่ามาเเทนคนไทยซิมิ คนประเทศเรายังดูแลไม่ทั่วถึงเลย, หล่อนเป็นคนไทย หรือเปล่า, ตรวจสอบ สส. ก่อนเลย มันไม่ใช่คนไทยแน่ๆ อะไรก็พม่า พม่า, นี่สส.พม่ารึเปล่า มาผิดที่อีกแระ, พรรคประชาชนพม่า, คนไทยเดือดร้อนไม่พูดไปห่วงพม่า, สส. ใจ พม่า เป็นต้น
๑๓) ยังไม่รวมการปราศรัยด้อยค่าโรงเรียน และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ระหว่างการกาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ. ที่ราชบุรี และอีกหลายกรณีที่ย้อนกลับมาเล่นงานพรรคประชาชน
ดั่งภาษิตไทยที่กล่าวเตือนไว้ว่า “ปลาหมอตายเพราะปาก”
เหมือนคนพรรคนี้ ที่ปากเก่ง และย้อนกลับมาทำลายตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี