วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
รัฐบาลที่รุกรบไม่เป็น ก็ยอมแพ้เถอะ

ดูทั้งหมด

  •  

ภายหลังจากสงครามยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระมหาอุปราชมังกะยอชวาแห่งอาณาจักรหงสาวดีในปีพุทธศักราช ๒๑๓๕ ซึ่งสมเด็จพระนเรศวรที่ทรงช้างศึกนามเจ้าพระยาไชยานุภาพ ซึ่งต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าพระยาปราบหงสาวดี ทรงสามารถใช้พระแสงของ้าวฟันพระมหาอุปราชที่ทรงช้างพลายพัทธกอ บริเวณพระอังสะข้างขวาลงไปจนเกือบจะขาดสะพายแล่ง สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง และทำให้ทัพของพม่าที่มีจำนวนมหาศาล ต้องยกทัพกลับ จากการที่จะยกทัพเข้ามายึดกรุงศรีอยุธยา ซึ่งถือว่าเป็นการพ่ายแพ้ของพม่า

สงครามยุทธหัตถีดังกล่าวเกิดขึ้นที่ตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีระยะทางห่างจากกรุงศรีอยุธยาพอสมควร จะเห็นได้ว่าเมื่อทางกรุงศรีอยุธยาได้ทราบข่าวว่าพม่าจะยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาโดยมีกำลังพลมหาศาลนั้น สมเด็จพระนเรศวรทรงตัดสินพระทัยที่จะยกทัพออกไปสู้รบกับทัพของพม่า นอกกรุงศรีอยุธยา เพราะทรงเห็นว่าหากจะตั้งรับอยู่นั้นจะเป็นการเสียเปรียบกองทัพพม่าอย่างแน่นอน ซึ่งการตัดสินพระทัยของพระองค์นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง


หลังจากการศึกครั้งนั้นแล้ว สงครามระหว่างไทยกับพม่าที่เกิดจากพม่ายกทัพมารุกรานกรุงศรีอยุธยาอีกก็ไม่เกิดขึ้นเลยเป็นระยะเวลาประมาณ ๒๐๐ ปี จนกระทั่งถึงสมัยของพระเจ้าอลองพญา กษัตริย์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์คองบอง ที่ได้ยกทัพมารุกรานกรุงศรีอยุธยา ในปี พ.ศ. ๒๓๐๒ อันเนื่องมาจากความขัดแย้ง ระหว่างพม่าและกรุงศรีอยุธยา ด้วยเข้าใจว่ากรุงศรีอยุธยาให้ความสนับสนุนแก่พวกมอญที่เมืองมะริด ตะนาวศรีประกอบกับพระองค์ยึดถือคติของพระจักรพรรดิ ต้องการจะแผ่ขยายศักดานุภาพให้ทั่วทั้งชมพูทวีป

พระองค์ได้ยกทัพจำนวน ๔๐,๐๐๐ คนจากเมืองย่างกุ้ง โดยมีเจ้าชายมังระ ราชบุตร และมังฆ้องนรธา เป็นแม่ทัพหน้ายกเข้าโจมตีเอาชนะเมืองมฤตตะนาวศรี จากนั้น จึงร่วมกับกองทัพหลวงของพระเจ้าอลองพญา ยกทัพเข้าสู่แดนสยามทางด้านด่านสิงขร

สมเด็จพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ หรือที่รู้จักกันดีว่าพระเจ้าเอกทัศน์ พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๓๓ ของอาณาจักรอยุธยา ได้ส่งกองทัพออกไปสู้รบกับทัพของพม่า แต่เนื่องจากฝ่ายไทยขาดประสบการณ์ในการรบมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร ทหารทั้งหลายจึงไม่มีฝีมือพอเพียงที่จะสู้รบกับทัพพม่าทำให้ต้องพ่ายแพ้กลับมา

ทัพพม่าได้เข้าโจมตีหัวเมืองรายทาง ตีได้เมืองปราณบุรี เพชรบุรี ราชบุรี จนถึงสุพรรณบุรี ส่วนกรุงศรีอยุธยาใช้ยุทธศาสตร์ในการตั้งรับภายในพระนคร โดยมีความเชื่อว่ากำแพงของกรุงศรีอยุธยา ซึ่งวิศวกรชาวฝรั่งเศสมาช่วยสร้างในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั้นมีความแข็งแรงเพียงพอ ตลอดจนต้องการรอให้ถึงฤดูฝนเนื่องจากเชื่อว่า น้ำเหนือที่หลากมาจะท่วมในบริเวณรอบกรุงศรีอยุธยา ทำให้พม่าต้องถอยทัพกลับไป

ทัพของพระเจ้าอลองพญายกมาถึงชานกรุงศรีอยุธยาในปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๓๐๓ ได้ใช้ปืนใหญ่ยิงเข้าใส่พระนคร ทำให้ชาวกรุงถูกสังหารจำนวนมาก แม้แต่ยอดประสาทของพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ก็หักพังลงด้วย

ต้องถือว่าเป็นโชคของชาติไทยในเวลานั้น เนื่องจากพระเจ้าอลองพญามีอาการประชวรในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๓๐๓ ซึ่งพงศาวดารไทยบางฉบับเชื่อว่าพระองค์ต้องสะเก็ดปืนใหญ่ที่ระเบิดใส่จนบาดเจ็บ จนถึงกับทำให้ต้องถอยทัพออกจากกรุงศรีอยุธยา โดยเสด็จกลับทางด่านแม่ละเมาเมืองตาก โดยพระองค์สิ้นพระชนม์ในระหว่างการเสด็จกลับพม่าในเดือนพฤษภาคของปีนั้น

การพ่ายแพ้ของพระเจ้าอลองพญา กลับกลายเป็นบทเรียนสำคัญในการที่ทำให้ฝ่ายพม่าโดยเฉพาะเจ้าชายมังระราชบุตรได้เรียนรู้ยุทธศาสตร์และของกรุงศรีอยุธยา ตลอดจนนำข้อผิดพลาดทางด้านยุทธศาสตร์ของฝ่ายพม่าเองมาปรับปรุง จึงนำมาสู่ความพร้อมในการยกทัพมาโจมตีกรุงศรีอยุธยาในครั้งต่อมา หลังจากที่พระองค์ได้ขึ้นครองราชสมบัติในปีพ.ศ. ๒๓๐๖

การรุกรานอยุธยาครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๓๐๘ พระเจ้ามังระได้ให้เนเมียวสีหบดีเป็นแม่ทัพยกทัพมาจากทางทิศเหนือด้วยกำลังพลประมาณ ๒๐,๐๐๐ นาย ได้รบเอาชนะหัวเมืองทางเหนือ ได้แก่สุโขทัย สวรรคโลก นครสวรรค์ และอ่างทอง และร่วมกับกองกำลังของทางล้านนาอีกส่วนหนึ่ง ส่วนทางทิศใต้ได้ให้มังมหานรธานำทัพ ๒๐,๐๐๐ นาย ยกทัพผ่านานทวายเข้ามาทางด้านตะวันตกของไทย มายังเพชรบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี

ทัพทั้งสองได้เข้ามาถึงชานกรุงศรีอยุธยาพร้อมกันในต้นปีพ.ศ. ๒๓๐๙ และเข้าล้อมกรุงศรีอยุธยาเกือบจะทุกด้าน โดยล้อมอยู่เป็นเวลาถึง ๑๔ เดือน นับตั้งแต่กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๐๙ จนถึงเมษายน พ.ศ ๒๓๑๐

การรบครั้งนี้พม่าเตรียมแผนมาเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการจัดเตรียมเสบียงอาหารสะสมไว้ตลอดทาง รวมทั้งช่วงระยะเวลาที่ล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่ และเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ก็จะมีการเคลื่อนย้ายกองทหารและสรรพาวุธต่างๆ ขึ้นไว้บริเวณที่ดอนทั้งหมด ตลอดจนการจัดสร้างแพขนาดใหญ่เพื่อให้เป็นที่พักของทหารทั้งหลายด้วย

การล้อมอยู่นานนั้น ก็ทำให้กรุงศรีอยุธยาขาดเสบียงอาหาร เกิดความอดอยากทั้งทหารและราษฎร และถึงแม้กำแพงของกรุงศรีอยุธยาจะสูงและมีความแข็งแรง แต่พม่าก็ใช้วิธีการขุดอุโมงค์ลอดกำแพงกรุงศรีอยุธยา โดยเริ่มต้นที่ตำบลหัวรอ เมื่อขุดจนถึงรากฐานของกำแพง ก็ก่อไฟเผาจนกระทั่งกำแพงเมืองพังทลายลง เป็นโอกาสให้ทัพพม่าสามารถเข้ายึดกรุงศรีอยุธยาได้ในที่สุดในวันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๕ซึ่งตรงกับวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๓๑๐

ทัพของพม่าได้สังหารราษฎรไทยไปไม่น้อยกว่า ๒๐๐,๐๐๐ คน รวมทั้งได้เผาทำลายปราสาทราชวัง วัดวาอาราม บ้านเรือนราษฎร และปล้นทรัพย์สินกลับไปเป็นจำนวนมาก ส่วนพระเจ้าเอกทัศน์ได้หนีออกจากกรุงศรีอยุธยาเพื่อซ่อนตัว แต่ในที่สุดก็สวรรคตโดยเชื่อว่าเกิดจากการอดพระกระยาหารเป็นระยะเวลานาน โดยพระศพของพระองค์นั้น พม่าได้นำไปฝังไว้ที่โคกพระเมรุ หน้าวิหารวัดมงคลบพิตร

จึงเห็นได้ว่าในการศึกสงคราม ผู้ที่รุกรบอย่างมีชั้นเชิงและมียุทธวิธีที่ดี จะเป็นผู้ชนะเสมอ ดังเช่นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือพระเจ้ามังระ ส่วนการตั้งรับนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะจะเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำตลอดเวลาจนพ่ายแพ้

หันมาดูเรื่องการเมืองของประเทศ ณ ขณะนี้ ภายใต้การบริหารของนายกฯหญิง จากพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาล เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ตั้งแต่เข้ามาบริหารบ้านเมือง รัฐบาลชุดนี้รวมทั้งชุดก่อนหน้านี้ ไม่สามารถบริหารบ้านเมือง ให้เกิดความเจริญก้าวหน้า มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ ประชาชนมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขได้เลยแม้แต่น้อย

นโยบายประชานิยม ทำให้ประชาชนบางส่วนกลายเป็นผู้ที่งอมืองอเท้า ถึงแม้จะได้รับปัจจัยมาช่วยให้ชีวิตดีขึ้นชั่วคราว แต่ชาติต้องสูญเสียเงินงบประมาณซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเงินกู้จำนวนมหาศาล โดยไม่ได้ทำให้เกิดพายุหนุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่โอ้อวดไว้เลย

การพยายามแบ่งปันผลประโยชน์ชาติให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งดูเหมือนไม่เคยเป็นมิตรอย่างจริงใจกับชาติของเราเลย โดยยกเอาข้อตกลงที่เรียกว่า MOU ๔๔ ในการจัดการพื้นที่ทางทะเลบริเวณเกาะกูด ทั้งที่เป็นพื้นที่ของไทย ให้เขามาได้ประโยชน์ด้วย จึงเป็นการกระทำที่น่าจะขาดสติและสิ้นคิด ก็หวังว่าเรื่องนี้จะถูกระงับไป

การที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่อาจจะมีประโยชน์ในการสร้างความสามัคคีของประชาชนที่มีความคิดต่างทางการเมือง แต่กลับมีการสอดแทรกที่จะทำให้มีการแก้หรือปรับปรุงกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ซึ่งเป็นกฎหมาย ที่จะคุ้มครองพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ซึ่งเป็นประมุขของประเทศตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ อันเป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้ และหากกฎหมายนี้ ผ่านออกไปได้ ย่อมเกิดผลกระทบอย่างรุนแรงแน่นอน

ความมุ่งมั่นในการออกกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ก็ถือเป็นเรื่องเลวร้าย อีกเรื่องหนึ่ง ที่จะทำให้สังคมไทยเสื่อมโทรมและเสื่อมทรามลงไปเรื่อยๆ ผลที่ได้จากการจัดเก็บภาษี ที่รัฐบาลโฆษณาไว้ว่าจะนำเงินที่ได้นั้น มาใช้บริหารประเทศได้อย่างมากมาย ก็เป็นเรื่องที่ไม่เป็นจริงแน่นอน เพราะไม่มีชาติใดเคยเปิดบ่อนกาสิโน แล้วได้เงินบาปนั้นมาบริหารประเทศให้เจริญได้

ศึกใหญ่อีกเรื่องหนึ่งคือสงครามภาษีที่สหรัฐอเมริกากำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างแน่นอน มีผู้คิดคำนวณว่าอาจจะทำให้ GDP ของประเทศ ลดลงเหลือน้อยกว่า ๒% ก็เป็นได้ แม้แต่การจะเดินทางไปเจรจาก็ยังไม่สามารถจะเกิดขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาไม่ได้ให้ความสำคัญกับชาติของเรา หรืออาจจะเป็นกลยุทธ์ในการต่อรอง ที่จะรุกเราจนตั้งตัวไม่ติดก็ได้

นี่ยังไม่นับเรื่องของการทุจริตในวงราชการ ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังและก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ที่มีตัวอย่างเห็นได้ชัดจากอาคาร สตง. ที่กำลังก่อสร้าง มูลค่ามากกว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาทต้องถล่มลงจากแผ่นดินไหว ในขณะที่อาคารสูงอื่นๆ ทั่วประเทศ ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงแต่อย่างใด

หากรัฐบาลนี้ยังบริหารบ้านเมืองแบบนี้และไม่มีเรื่องใดที่จะนำไปสู่การปรับโครงสร้างให้เกิดความเจริญทางเศรษฐกิจได้เลย ก็จะเป็นเรื่องที่ทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย ประเทศชาติจะยากจน ประชาชนจะหมดความสุข เป็นการบริหารที่เปรียบเสมือนการศึกที่ไม่สามารถจะทำการรบแบบรุกอย่างมียุทธวิธีได้แม้แต่น้อย ซึ่งก็มีแต่จะแพ้ ก็น่าจะถึงเวลาที่รัฐบาลนี้ต้องพิจารณาตัวเองแล้วว่า จะเป็นผู้บริหารประเทศนี้ต่อไปหรือไม่

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:42 น. ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
13:22 น. ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
13:14 น. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
13:08 น. 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
12:24 น. ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

‘ทนายวันชัย’มองเรื่อง‘สีกากอล์ฟ’ เปรียบฆาตกามต่อเนื่อง กระชากหน้ากาก‘คนห่มเหลือง’

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว

‘นักเขียนซีไรต์’ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด มุ่งแก้ ม.112 นิรโทษกรรมตัวเอง

  • Breaking News
  • ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
  • ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้ ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
  • รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
  • \'ตะไลชนโคม\' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน\'งานบุญวันเข้าพรรษา\' 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
  • ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

7 ก.ค. 2568

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

30 มิ.ย. 2568

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

23 มิ.ย. 2568

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

16 มิ.ย. 2568

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

9 มิ.ย. 2568

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved