วันพุธ ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ปรีชา'ทัศน์
ปรีชา'ทัศน์

ปรีชา'ทัศน์

วันศุกร์ ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
รัฐบาลกับการกู้เงิน : จากอดีตสู่ปัจจุบัน (1)

ดูทั้งหมด

  •  

ประเทศไทยก็เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่มีการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้เงินทั้งภายในและต่างประเทศเพื่อนำมาใช้จ่ายในการลงทุน การพัฒนาเศรษฐกิจ ตลอดจนเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ อันเนื่องจากการเร่งรัดพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ หรือในกรณีจำเป็นเร่งด่วนอื่นๆ ซึ่งจำเป็นต้องมีการใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก เพราะเฉพาะแต่เพียงเงินที่ได้จากการจัดเก็บภาษีอากรซึ่งเป็นรายได้หลักเพียงอย่างเดียวนั้น ย่อมไม่อาจสนองตอบความต้องการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลได้

ดังเช่น กรณีรัฐบาลชุดปัจจุบันมีแผนที่จะออกกฎหมายกู้เงินให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อรับมือผลกระทบจากสงครามการค้า ในวงเงิน ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฝ่าวิกฤตมาตรการภาษีตอบโต้ของทรัมป์ โดยหากรัฐบาลเลือกที่จะกู้เงิน ๕ แสนล้านบาท ก็จะทำให้หนี้สาธารณะของไทยเพิ่มขึ้นอีกประมาณ ๓% กลายเป็น ๖๗.๒๑ ของจีดีพี แต่ก็ยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ต้องไม่เกิน ๗๐% ของจีดีพี


ปัจจุบัน หนี้สาธารณะของไทยอยู่ที่ประมาณ ๑๒ ล้านล้านบาท หรือ ๖๔.๒๑ ของจีดีพี

การกู้เงินเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาประเทศ หรือในกรณีเพื่อใช้จ่ายตามความจำเป็นเร่งด่วน ได้เริ่มมีขึ้นตั้งแต่สมัยการปกครองในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันเป็นยุคแห่งการปฏิรูปการคลังเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งอาจจำแนกเป็น ๒ ยุคสมัย คือ

1.การก่อหนี้สาธารณะในสมัยระบอบการปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชย์จนกระทั่งการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ (ดู ธิติ สุวรรณทัต “การก่อหนี้สาธารณะครั้งแรกของไทย”
แนวหน้า ฉบับวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2567)

2.การก่อหนี้สาธารณะภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งจำแนกได้เป็นสองช่วง คือ ช่วงแรกเป็นการก่อหนี้สาธารณะช่วงก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๔๐ และช่วงที่สองเป็นการก่อหนี้สาธารณะช่วงภายหลังวิกฤตเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๔๐

ช่วงแรก ความจำเป็นในการก่อหนี้สาธารณะในช่วงก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ ปี ๒๕๔๐ แบ่งเป็น

(๑) การก่อหนี้ภายในประเทศ

๑.๑ เพื่อใช้จ่ายและแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินในสภาวะที่ประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ

การกู้เงินภายในประเทศไทยครั้งแรก เป็นการกู้เงินในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ โดยรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดา ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติเงินกู้ในประเทศ พ.ศ. ๒๔๗๖ สาเหตุที่รัฐบาลกู้เงิน เนื่องจากในขณะนั้นเศรษฐกิจตกต่ำ การจัดเก็บภาษีกระทำได้ยากลำบาก และถ้าหากจะเพิ่มภาษีก็จะเป็นภาระแก่ประชาชนจึงมีความจำเป็นต้องกู้เงิน รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาเรื่องการจัดการกู้เงินภายในประเทศ โดยออกเป็นพันธบัตรรัฐบาลจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไปวงเงินกู้จำนวน ๑๐ ล้านบาท
อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๔.๕๐ ต่อปี กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนพันธบัตร ๑๐ ปี กำหนดชำระดอกเบี้ยโดยแบ่งจ่ายปีละ ๒ ครั้งคือ ทุกวันที่ ๑๕ กันยายน และ๑๕ มีนาคม ของทุกปี การกู้เงินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้จ่ายในกิจการลงทุนอันมีลักษณะเพิ่มพูนโภคทรัพย์ของประเทศ

พันธบัตรชุดนี้จัดจำหน่ายให้แก่ผู้ถือโดยมีราคาตั้งแต่ ๑๐๐, ๑,๐๐๐, ๕,๐๐๐ และ ๑๐,๐๐๐ บาท โดยเริ่มเปิดจอง เมื่อวันที่ ๑๕-๓๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๖ ปรากฏว่ามีผู้ยื่นจองครบจำนวนภายในกำหนดเวลา

การกู้เงินดังกล่าวจึงเป็นการกู้เงินในประเทศครั้งแรกของประเทศไทย นอกจากนี้ ตามมาตรา ๖ ของพระราชบัญญัติเงินกู้ในประเทศ พ.ศ.๒๔๗๖ กำหนดให้มีการตั้งงบประมาณชดใช้เป็นรายปี รัฐบาลจึงได้ตั้งงบประมาณไว้ในปี พ.ศ.๒๔๗๘ และในปีต่อไปก็ได้ตั้งเงินงบประมาณเพื่อชำระคืนเป็นประจำทุกๆ ปี สมทบกองทุนชำระหนี้ (Sinking Fund) และได้ชำระเสร็จสิ้น เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๖

ภายหลังจากการกู้เงินครั้งแรก รัฐบาลก็ไม่ได้มีการกู้เงินอีก จนกระทั่งปี ๒๔๘๓ รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้มีการตรากฎหมายเกี่ยวกับการกู้เงิน จำนวน ๔ ฉบับ ได้แก่

- พระราชบัญญัติเงินกู้สหกรณ์ พ.ศ. ๒๔๘๓ วงเงินที่รัฐบาลกู้เป็นจำนวน ๒๐ ล้านบาท เพื่อนำไปเป็นทุนให้สหกรณ์ต่างๆ นำไปให้เกษตรกรกู้ เพื่อปลดหนี้สินและเพื่อการลงทุน

- พระราชบัญญัติเงินกู้เทศบาล พ.ศ. ๒๔๘๓ วงเงินที่รัฐบาลกู้เป็นจำนวน ๒๐ ล้านบาท เพื่อให้เทศบาลต่างๆ กู้ต่อเพื่อไปใช้จ่ายในการจัดการสาธารณูปโภค

- พระราชบัญญัติเงินกู้เพื่ออุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๔๘๓ วงเงินที่รัฐบาลกู้เป็นจำนวน ๒๐ ล้านบาทเพื่อให้องค์กรการสาธารณะหรือผู้ประกอบอุตสาหกรรมกู้ต่อ

- พระราชบัญญัติเงินกู้ช่วยชาติ พ.ศ. ๒๔๘๓ วงเงินที่รัฐบาลกู้จำนวน ๑๐ ล้านบาท เพื่อเป็นการชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายพิเศษ อันเป็นผลจากสงครามอินโดจีน

ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลได้มีการกู้เงินอีก ๒ ครั้ง ในปี ๒๔๘๕ โดยตราเป็นพระราชบัญญัติเงินกู้เพื่ออุตสาหกรรม (ครั้งที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๕ และ พระราชบัญญัติกู้เงินในประเทศ พ.ศ. ๒๔๘๕ หรือที่เรียกกันว่า “กู้เงินทองคำ” ทั้งนี้ เพราะตามกฎหมายได้กำหนดให้ผู้ถือพันธบัตรเลือกรับชำระการไถ่ถอนต้นเงินกู้เป็นทองคำแทนเงินตราตามราคาที่กำหนดไว้ โดยกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติกู้เงินดังกล่าว กำหนดให้เรียกพันธบัตรที่กู้เงินในครั้งนี้ว่า “พันธบัตรทองคำ”

โดยในตอนนั้น หรือแปดสิบสามปีที่แล้ว อัตราทองคำบริสุทธิ์น้ำหนัก ๑ บาท ราคา ๘๖ บาท (ปัจจุบันราคาทองคำ ๑ บาทวิ่งอยู่ที่ระหว่างราคา ๕๒,๐๐๐ ถึง ๕๔,๐๐๐ บาท)

ภายหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลประสบปัญหาเงินเฟ้ออย่างหนัก เพราะการออกธนบัตรด้วยพันธบัตรคลังเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงได้มีการตรา พระราชกำหนดพันธบัตรออมทรัพย์ในภาวะคับขัน พ.ศ. ๒๔๘๘ ซึ่งเป็นการบังคับกู้แก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อ โดยการบังคับประชาชนผู้ถือพันธบัตรราคา ๑,๐๐๐ บาท ให้นำมาแลกคืน โดยมีดอกเบี้ยร้อยละ ๑ ซึ่งรัฐบาลสามารถกู้ได้เป็นจำนวน ๒๔๙,๔๕๕,๐๐๐ บาท

ต่อมา..การกู้เงินภายในประเทศของรัฐบาลมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยรัฐบาลได้ออกตราสารหนี้ระยะสั้นในการระดมทุนที่เรียกว่า “ตั๋วเงินคลัง” (Treasury Bills) มีธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงิน โดยอาศัยอำนาจตามความใน พระราชบัญญัติตั๋วเงินคลัง พ.ศ. ๒๔๘๗ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการประมูลตั๋วเงินคลังครั้งแรกด้วยวงเงินกู้ ๕๐ ล้านบาท กำหนดอายุ ๔ เดือน ซึ่งต่อมารัฐบาลได้กู้เงินโดยใช้วิธีการออกตั๋วเงินคลังตลอด จนปริมาณเงินกู้เริ่มเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของตั๋วเงินคลังจะต่ำกว่าพันธบัตรอันเป็นการประหยัดภาระการชำระดอกเบี้ยของรัฐบาล โดยในระยะแรกๆ มีธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ และคลังออมสิน (ในขณะนั้นยังไม่เป็นธนาคาร) เป็นผู้ประมูล และธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้ถือตั๋วเงินคลังส่วนใหญ่

ดร.ธิติ สุวรรณทัต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:08 น. ปลุกขวัญเทนนิสไทย! 'บิ๊กสุชัย'อัดฉีดตั้งเป้าคว้าชัยเดวิสคัพ
14:05 น. นครพนมวิกฤต! ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินน้ำท่วม 6 อำเภอ พื้นที่เกษตรเสียหาย 1.5 หมื่นไร่
13:56 น. 'กัวเตมาลา'ระทึก! เกิดแผ่นดินไหวขนาด5.7 บ้านเรือนปชช.พังถล่ม-ดับแล้ว2ศพ
13:56 น. ‘มติสภาฯ’ 253 เสียงโหวตถอนร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
13:48 น. 'ทักษิณ'ยิ้มแย้ม! ปรากฏตัวเตรียมโชว์วิสัยทัศน์ ในงาน SPLASH-soft power forum 2025
ดูทั้งหมด
หมอดังเผยเคยไม่เข้าใจ 'เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์' ทรงงานแม้พระอาการประชวร ก่อนป่วยมะเร็งเองจึงซึ้งพระทัย
บิ๊กเนม'ปชป.'ร่วมวงเพียบ!! 'คุณหญิงกัลยา'ตั้ง'พรรคไทยก้าวใหม่' พร้อมตั้ง'สุชัชวีร์'นั่งหัวหน้าฯ
'ปราชญ์ สามสี'ผ่าเกมตระกูล'ชินวัตร-ฮุน' ทำไมคนหนึ่งเงียบ อีกคนดิ้น ที่แท้!!
‘สม รังสี’เปิดไทม์ไลน์แฉ‘แรงจูงใจ’เบื้องหลัง‘ฮุน เซน’เล่นเกมกฎหมายถอดสัญชาติกัมพูชา
'อ.พนัส'ข้องใจ'อิ๊งค์'ผิดจริยธรรมข้อไหน บอกทหารไทยอยู่ตรงข้ามฝ่ายปชต.อยู่แล้ว
ดูทั้งหมด
เราสูญเสียโอกาสทางการศึกษามาแค่ไหน? เมื่อระบบถูกกัดกินด้วยก้อนเนื้อร้ายที่ชื่อว่าคอร์รัปชัน
นารีพิฆาตพระ
ความจริงกรณีบังคับโทษจำคุกนักโทษชั้น 14
บุคคลแนวหน้า : 9 กรกฎาคม 2568
ความไม่รู้สี่รู้แปดของ‘แพทองธาร’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นครพนมวิกฤต! ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินน้ำท่วม 6 อำเภอ พื้นที่เกษตรเสียหาย 1.5 หมื่นไร่

'กัวเตมาลา'ระทึก! เกิดแผ่นดินไหวขนาด5.7 บ้านเรือนปชช.พังถล่ม-ดับแล้ว2ศพ

'ทักษิณ'ยิ้มแย้ม! ปรากฏตัวเตรียมโชว์วิสัยทัศน์ ในงาน SPLASH-soft power forum 2025

ประกาศขับรถผ่านแอปฯ ต้องจดทะเบียนรถ-มีใบขับขี่สาธารณะ บังคับใช้อีก 90 วัน

'ทรัมป์'เชิด! ไม่ขยายเส้นตายดีลภาษีทุกชาติ รมว.คลังโวสิ้นปีเก็บภาษีนำเข้าได้3แสนล้านดอลล์

บุกค้น 6 ร้านยามหาภัย รวบ 6 เภสัชเก๊ เครือข่ายกระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นสาย 4x100

  • Breaking News
  • ปลุกขวัญเทนนิสไทย! \'บิ๊กสุชัย\'อัดฉีดตั้งเป้าคว้าชัยเดวิสคัพ ปลุกขวัญเทนนิสไทย! 'บิ๊กสุชัย'อัดฉีดตั้งเป้าคว้าชัยเดวิสคัพ
  • นครพนมวิกฤต! ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินน้ำท่วม 6 อำเภอ พื้นที่เกษตรเสียหาย 1.5 หมื่นไร่ นครพนมวิกฤต! ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินน้ำท่วม 6 อำเภอ พื้นที่เกษตรเสียหาย 1.5 หมื่นไร่
  • \'กัวเตมาลา\'ระทึก! เกิดแผ่นดินไหวขนาด5.7 บ้านเรือนปชช.พังถล่ม-ดับแล้ว2ศพ 'กัวเตมาลา'ระทึก! เกิดแผ่นดินไหวขนาด5.7 บ้านเรือนปชช.พังถล่ม-ดับแล้ว2ศพ
  • ‘มติสภาฯ’ 253 เสียงโหวตถอนร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ‘มติสภาฯ’ 253 เสียงโหวตถอนร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
  • \'ทักษิณ\'ยิ้มแย้ม! ปรากฏตัวเตรียมโชว์วิสัยทัศน์ ในงาน SPLASH-soft power forum 2025 'ทักษิณ'ยิ้มแย้ม! ปรากฏตัวเตรียมโชว์วิสัยทัศน์ ในงาน SPLASH-soft power forum 2025
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

วันชาติอเมริกาในบางแง่มุม

วันชาติอเมริกาในบางแง่มุม

4 ก.ค. 2568

กฎหมายงบประมาณรายจ่ายอาจตกเป็นโมฆะ  กรณีศึกษาการแปรญัตติงบประมาณปี ๒๕๖๕

กฎหมายงบประมาณรายจ่ายอาจตกเป็นโมฆะ กรณีศึกษาการแปรญัตติงบประมาณปี ๒๕๖๕

27 มิ.ย. 2568

ความไม่ชัดเจนในมาตรา ๑๔๔ ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐  และกรณีศึกษาการกระทำฝ่าฝืนในมาตรานี้

ความไม่ชัดเจนในมาตรา ๑๔๔ ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ และกรณีศึกษาการกระทำฝ่าฝืนในมาตรานี้

20 มิ.ย. 2568

รัฐบาลกลางกับการอุดมศึกษาสหรัฐ

รัฐบาลกลางกับการอุดมศึกษาสหรัฐ

13 มิ.ย. 2568

สแตนลีย์ ฟิชเชอร์ กับเมืองไทย

สแตนลีย์ ฟิชเชอร์ กับเมืองไทย

6 มิ.ย. 2568

นักกฎหมายไม่มีคุณธรรม...เลวยิ่งกว่ามหาโจร

นักกฎหมายไม่มีคุณธรรม...เลวยิ่งกว่ามหาโจร

30 พ.ค. 2568

การยกเลิกเหตุปัจจัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๓  ที่ให้พระภิกษุมีทรัพย์สินได้เพื่อให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยที่ได้สวดปาติโมกข์

การยกเลิกเหตุปัจจัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๓ ที่ให้พระภิกษุมีทรัพย์สินได้เพื่อให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยที่ได้สวดปาติโมกข์

23 พ.ค. 2568

รัฐบาลกับการกู้เงิน : จากอดีตสู่ปัจจุบัน (จบ)

รัฐบาลกับการกู้เงิน : จากอดีตสู่ปัจจุบัน (จบ)

16 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved