วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ปรีชา'ทัศน์
ปรีชา'ทัศน์

ปรีชา'ทัศน์

วันศุกร์ ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
กฎหมายในฐานะเครื่องมือจริยธรรม

ดูทั้งหมด

  •  

ในสังคมที่มีความซับซ้อนทั้งด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การเมืองและเทคโนโลยี

คำว่า “ความผิด” ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในระบบยุติธรรม แต่แทรกซึมอยู่ในทุกมิติของชีวิตมนุษย์ โดยเฉพาะในสองเสาหลักที่ควบคุมพฤติกรรมของผู้คนในแต่ละสังคม คือ “กฎหมาย” และ “จริยธรรม”


ความผิดทางจริยธรรม (ethic wrong) คือการกระทำที่ขัดต่อหลักความดี ความถูกต้อง หรือบรรทัดฐานทางศีลธรรมของสังคม ไม่ว่าการกระทำนั้นจะถูกลงโทษโดยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม เช่น การนอกใจคู่สมรส การโกหก การไม่ช่วยเหลือผู้ที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก แม้การกระทำเหล่านี้จะไม่ถือเป็นอาชญากรรมตามกฎหมายในหลายประเทศ แต่สังคมมักมองว่าเป็น พฤติกรรมที่ไม่ชอบธรรม ไม่ควรยอมรับ และอาจส่งผลต่อชื่อเสียงหรือความสัมพันธ์ส่วนตัว แนวคิดเรื่องความผิดทางจริยธรรมมักยึดหลักจากศาสนา ปรัชญา หรือบรรทัดฐานทางวัฒนธรรม เช่น ศีลห้าในพุทธศาสนา คำสอนของขงจื๊อ หรือปรัชญาของอริสโตเติลเรื่องความดีงามของปัจเจก

ความผิดทางกฎหมาย (legal wrong) คือการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมายที่รัฐบัญญัติไว้ เช่น การลักทรัพย์ ฆาตกรรม ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่เสียภาษีโดยผู้กระทำจะถูกลงโทษตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ เช่น จำคุก ปรับ หรือบริการสังคม ตามที่กฎหมายแต่ละประเทศกำหนดไว้ เช่น ประมวลกฎหมายอาญา กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายพิเศษต่างๆ

กฎหมายมีลักษณะเป็นระบบ มีโครงสร้างชัดเจน ใช้บังคับกับประชาชนทุกคน และมีอำนาจรัฐหนุนหลัง ซึ่งต่างจากจริยธรรมที่พึ่งพาสามัญสำนึก ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป หรือแรงกดดันทางสังคม

ผิดทางจริยธรรม คือการละเมิดมาตรฐานด้านศีลธรรมคุณธรรม

ผิดทางกฎหมาย คือการฝ่าฝืนองค์ประกอบทางกฎหมายที่ชัดเจน

ในระบอบประชาธิปไตย การมีนักการเมืองที่ยึดมั่นในจริยธรรมถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการธำรงความเชื่อมั่นของประชาชนและสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพราะจริยธรรมทางการเมือง (Political Ethics) คือหลักความประพฤติที่เหมาะสมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์สาธารณะมากกว่าประโยชน์ส่วนตน จริยธรรมดังกล่าวครอบคลุมเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ความรับผิดชอบ ความโปร่งใส การไม่ใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของชาติ เพราะถ้ารักษาจริยธรรมไม่ได้ ความเชื่อถือและการนำของคนเป็นผู้นำก็จะถูกลดคุณค่าในความรู้สึกของประชาชน

สังคมประชาธิปไตยต้องอาศัยนักการเมืองที่มีจริยธรรม เนื่องจากนักการเมืองเป็นผู้ใช้อำนาจทางนโยบาย ซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง หากปราศจากจริยธรรมแล้ว จะนำไปสู่ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน การลำเอียง การใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้อง และการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนในระบบการเมือง

อย่างไรก็ดี การรักษาจริยธรรมของนักการเมืองไม่อาจพึ่งพาเพียงความคาดหวังจากสังคมได้เพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมี “กฎหมาย” เป็นเครื่องมือควบคุม ตรวจสอบ และจัดการกับพฤติกรรมที่อาจขัดต่อหลักนิติธรรมและจริยธรรมทางการเมือง เพราะกฎหมายทำหน้าที่กำหนดกรอบพฤติกรรมที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพึงปฏิบัติ กำหนดคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม และกลไกการตรวจสอบ เช่น การยื่นบัญชีทรัพย์สิน การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน หรือการกำหนดบทลงโทษในกรณีที่มีการละเมิดหลักจริยธรรม

ในประเทศไทย กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมนักการเมืองมีหลายฉบับ ได้แก่:

l รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐

l พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ.๒๕๖๒

l พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑

l ประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.๒๕๖๔

กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง

องค์กรอิสระ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. และ กกต. ต่างมีบทบาทในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอยู่ภายใต้กรอบจริยธรรมที่ถูกต้อง

เช่น กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก ๕ ต่อ ๔ วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง (๔) เนื่องจากไม่มีความชื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๐ (๔) และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๐ (๕) มีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

กรณีล่าสุดของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบัน ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวด้วยมติ ๗ ต่อ ๒ จากเรื่องคลิปเสียงบทสนทนากับนายฮุนเซน โดยถูกร้องเรียนว่าอาจมีลักษณะพฤติกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับนายเศรษฐา ทวีสิน โดยก่อนหน้านั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยอีกคน ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินด้วยมติ ๙ ต่อ ๐ ให้พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี กรณีใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้เครือญาติ 

ในระบบการเมืองไทย ศาลรัฐธรรมนูญมีบทบาทเป็น “ผู้พิทักษ์กติกาสูงสุดของประเทศ” ซึ่งมีหน้าที่ตีความ ตรวจสอบ และชี้ขาดการกระทำของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และบุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๐ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมนักการเมือง ดังที่กล่าวมาข้างต้น

การที่ศาลมีคำสั่งให้ “นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว” ไม่ได้ถือเป็นการตัดสินว่าผิดหรือถูก หากแต่เป็นมาตรการป้องกัน เพื่อไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหายังคงใช้อำนาจในขณะที่กระบวนการวินิจฉัยยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งเป็นการคุ้มครองทั้งตัวบุคคลและผลประโยชน์ของสาธารณะ สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ “กฎหมาย” ในการเข้ามาทำหน้าที่เป็น “ดุลยภาพ” ทางการเมือง เพื่อรักษาความถูกต้องและชอบธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในสายตาประชาชน

แม้กฎหมายจะมีลักษณะแข็งตัวและเน้นความเป็นรูปธรรม แต่ในหลายกรณีก็สะท้อน “หลักจริยธรรม” ในเชิงระบบ เช่น การกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การบัญญัติเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน การห้ามแทรกแซงข้าราชการ หรือการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน สิ่งเหล่านี้เป็นเสมือน “ขอบเขตของพฤติกรรมที่ชอบธรรม”

กรณีของนายกรัฐมนตรีทั้งสามคนที่มาจากพรรคเพื่อไทยจึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า แม้นักการเมืองจะได้รับฉันทามติจากประชาชนผ่านการเลือกตั้งก็ยังต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบตามกฎหมาย เพื่อยืนยันว่าการดำรงตำแหน่งนั้นเป็นไปโดยสุจริต โปร่งใส และไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ดังนั้น การสร้าง “ความสมดุล” ระหว่างเจตจำนงของประชาชนกับหลักนิติธรรม จึงเป็นความท้าทายของสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี การใช้กฎหมายโดยเฉพาะจากองค์กรอิสระหรือศาลรัฐธรรมนูญในการ “หยุดยั้ง” หรือ “จำกัด” อำนาจของนักการเมืองซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ย่อมต้องกระทำอย่างรอบคอบ โปร่งใส และเป็นธรรมที่สุด เพราะหากการใช้กฎหมายกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือเลือกปฏิบัติ ก็จะบั่นทอนความชอบธรรมของทั้งระบบกฎหมาย กระบวนการประชาธิปไตย และความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญเอง เพราะความไว้วางใจต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้นขึ้นอยู่กับความโปร่งใสและเหตุผลของคำวินิจฉัย หากประชาชนเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญใช้ดุลพินิจอย่างเป็นกลางมีมาตรฐาน ก็จะยิ่งช่วยเสริมความศรัทธาต่อกฎหมายในฐานะเครื่องมือจริยธรรมทางการเมือง

กรณีของนายกฯ แพทองธาร ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนชัดถึงบทบาทของกฎหมายในฐานะเครื่องมือจัดการจริยธรรมนักการเมือง อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมายจะมีพลังในการตรวจสอบและควบคุม แต่การใช้กฎหมายต้องตั้งอยู่บนหลักนิติธรรมไม่เลือกปฏิบัติ และมุ่งหวังผลประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม และส่งเสริมวัฒนธรรมทางการเมืองที่มีจริยธรรม

ดร.ธิติ สุวรรณทัต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:56 น. 'บิ๊กเล็ก' ตั้ง 12 กุนซือกลาโหม 'บิ๊กเดฟ'อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมทีม-'ศักดา'นั่งหัวหน้าสำนักงาน
18:31 น. 'นัสเมียโชค'ทัวร์ลงหนัก ปมแซะ'นิ้ง โสภิดา' สุดท้ายต้องรัวคำขอโทษ!
18:31 น. 'ดร.ดิเรกฤทธิ์'คาดหวัง'ศาลฎีกา-ศาล รธน.' ชี้ชะตาประเทศ 'สันติสุขหรือลุกเป็นไฟ'
18:22 น. แฟนหนังดังเดือด! ทัวร์ลงสนั่นไอจี'เอม สรรเพชญ์' ลุกลามหนักด่าถึง'คุณพ่อดู๋ สัญญา'
17:58 น. วิจารณ์ยับ! 'วิรังรอง'ฟันธง 'พ่อออกโรง'ช่วยลูกตกกระป๋อง โผล่บ้านพิษณุโลกแค่ปั่นกระแส
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'นัสเมียโชค'ทัวร์ลงหนัก ปมแซะ'นิ้ง โสภิดา' สุดท้ายต้องรัวคำขอโทษ!

'อ.ยิ่งศักดิ์'ฟาดยับ 'รัฐบาล'ทำอะไรกัน? 'ลำไย' อ.จอมทอง ดิ่งกิโลละ 1 บาท (ชมคลิป)

แฟนหนังดังเดือด! ทัวร์ลงสนั่นไอจี'เอม สรรเพชญ์' ลุกลามหนักด่าถึง'คุณพ่อดู๋ สัญญา'

'ผู้นำเผด็จการเมียนมา'ตอบกลับจดหมาย'ทรัมป์' ดีใจสหรัฐฯยอมรับ-ขอบคุณสำหรับภาษีนำเข้า40%

'บิ๊กเต่า'เข้าพบสมเด็จพระราชาคณะ เสนอออกหนังสือเรียกพระในสังกัด เอี่ยว'สีกากอล์ฟ'

'พี่คนดี'ร่ายกลอนเจ็บจี๊ด! ขาประจำ จี้ใจดำคนทำเฮีย 'ตนนั่นแหละ ที่ไทยโกรธ อย่าโทษเตี่ย'

  • Breaking News
  • \'บิ๊กเล็ก\' ตั้ง 12 กุนซือกลาโหม \'บิ๊กเดฟ\'อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมทีม-\'ศักดา\'นั่งหัวหน้าสำนักงาน 'บิ๊กเล็ก' ตั้ง 12 กุนซือกลาโหม 'บิ๊กเดฟ'อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมทีม-'ศักดา'นั่งหัวหน้าสำนักงาน
  • \'นัสเมียโชค\'ทัวร์ลงหนัก ปมแซะ\'นิ้ง โสภิดา\' สุดท้ายต้องรัวคำขอโทษ! 'นัสเมียโชค'ทัวร์ลงหนัก ปมแซะ'นิ้ง โสภิดา' สุดท้ายต้องรัวคำขอโทษ!
  • \'ดร.ดิเรกฤทธิ์\'คาดหวัง\'ศาลฎีกา-ศาล รธน.\' ชี้ชะตาประเทศ \'สันติสุขหรือลุกเป็นไฟ\' 'ดร.ดิเรกฤทธิ์'คาดหวัง'ศาลฎีกา-ศาล รธน.' ชี้ชะตาประเทศ 'สันติสุขหรือลุกเป็นไฟ'
  • แฟนหนังดังเดือด! ทัวร์ลงสนั่นไอจี\'เอม สรรเพชญ์\' ลุกลามหนักด่าถึง\'คุณพ่อดู๋ สัญญา\' แฟนหนังดังเดือด! ทัวร์ลงสนั่นไอจี'เอม สรรเพชญ์' ลุกลามหนักด่าถึง'คุณพ่อดู๋ สัญญา'
  • วิจารณ์ยับ! \'วิรังรอง\'ฟันธง \'พ่อออกโรง\'ช่วยลูกตกกระป๋อง โผล่บ้านพิษณุโลกแค่ปั่นกระแส วิจารณ์ยับ! 'วิรังรอง'ฟันธง 'พ่อออกโรง'ช่วยลูกตกกระป๋อง โผล่บ้านพิษณุโลกแค่ปั่นกระแส
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

กฎหมายในฐานะเครื่องมือจริยธรรม

กฎหมายในฐานะเครื่องมือจริยธรรม

11 ก.ค. 2568

วันชาติอเมริกาในบางแง่มุม

วันชาติอเมริกาในบางแง่มุม

4 ก.ค. 2568

กฎหมายงบประมาณรายจ่ายอาจตกเป็นโมฆะ  กรณีศึกษาการแปรญัตติงบประมาณปี ๒๕๖๕

กฎหมายงบประมาณรายจ่ายอาจตกเป็นโมฆะ กรณีศึกษาการแปรญัตติงบประมาณปี ๒๕๖๕

27 มิ.ย. 2568

ความไม่ชัดเจนในมาตรา ๑๔๔ ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐  และกรณีศึกษาการกระทำฝ่าฝืนในมาตรานี้

ความไม่ชัดเจนในมาตรา ๑๔๔ ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ และกรณีศึกษาการกระทำฝ่าฝืนในมาตรานี้

20 มิ.ย. 2568

รัฐบาลกลางกับการอุดมศึกษาสหรัฐ

รัฐบาลกลางกับการอุดมศึกษาสหรัฐ

13 มิ.ย. 2568

สแตนลีย์ ฟิชเชอร์ กับเมืองไทย

สแตนลีย์ ฟิชเชอร์ กับเมืองไทย

6 มิ.ย. 2568

นักกฎหมายไม่มีคุณธรรม...เลวยิ่งกว่ามหาโจร

นักกฎหมายไม่มีคุณธรรม...เลวยิ่งกว่ามหาโจร

30 พ.ค. 2568

การยกเลิกเหตุปัจจัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๓  ที่ให้พระภิกษุมีทรัพย์สินได้เพื่อให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยที่ได้สวดปาติโมกข์

การยกเลิกเหตุปัจจัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๓ ที่ให้พระภิกษุมีทรัพย์สินได้เพื่อให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยที่ได้สวดปาติโมกข์

23 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved