วันอาทิตย์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เมื่อใดที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารพรรคการเมืองต่างๆ เวทีการเมืองของไทยเราก็มักจะมีความคึกคัก มีชีวิตชีวาขึ้นมา พร้อมกับการคาดหวังว่าจะมีเรื่องอะไรดีๆ เช่น วิสัยทัศน์ และนโยบายมาตรการออกมาเสนอต่อสาธารณชน โดยถือเป็นจังหวะการเสนอความเป็นตัวตนและเป็นการวางตัวเพื่อการแข่งขันในสนามเลือกตั้งต่อไป
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เราได้เห็นการกลับมาของนักการเมืองที่คร่ำหวอดอย่าง คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมาพร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญชำนาญการทั้งในเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง และในเรื่องการดูแลพื้นที่ซึ่งถ้าจะใช้คำภาษาอังกฤษก็จะใช้คำว่าฝ่าย Functions กับฝ่าย geography
ส่วนพรรคเพื่อไทยก็เพิ่งจะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ที่จัดเจนในเรื่องการเมืองในระบอบรัฐสภามีฐานการเมืองอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และมีฐานะดี มีบิดาชื่อ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคภายใต้การนำพาของคุณจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ก็เต็มไปด้วยนักการเมืองมือเก่ากันทั้งนั้น จัดได้ว่าเป็นทีมที่เข้มข้นทางการเมือง
สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็มีรองหัวหน้าพรรคคนใหม่นามว่า คุณสามารถมะลูลีม ซึ่งมากด้วยประสบการณ์ ผ่านสนามการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและในระดับชาติ เคยเป็นทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาแบบเลือกตั้ง คุณสามารถนั้นนับถือศาสนาอิสลาม และยังเป็นผู้ที่กว้างขวางมากด้วยเพื่อนฝูง ก็คงจะมีเครือข่ายผู้ร่วมคิดร่วมทำอยู่ไม่น้อย
เมื่อ 3 พรรคดังกล่าวกำลัง “ปรับปรุงรูปโฉม” ใหม่ ก็เลยทำให้มีคำถามว่า แล้วพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน จะว่าอย่างไร?
เพราะกลุ่มผู้นำของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติที่เปลี่ยนตัวเข้ามาก็ดูจะมีความทะมัดทะแมงกว่ากลุ่มผู้นำของพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน อีกทั้ง 3 พรรคก็จะมีวิสัยทัศน์ และนโยบายใหม่ๆ มานำเสนอต่อประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วแบบนี้ ทั้งพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน จะมีอะไรใหม่มาเสนอต่อสาธารณชนเล่า?
ประเทศไทย ณ วันนี้ ไม่ได้อยู่ในจอ “เรดาร์” หรือไม่ได้อยู่ในสายตาของประชาคมโลก โดยเฉพาะประเทศสำคัญต่างๆ ล้วนหันไปให้ความสนอกสนใจไปยังเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย มากกว่าประเทศไทย ซึ่งณ วันนี้สาธารณชนชาวไทยทั้งปวง ก็ยังไม่รู้เลยว่าบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองและคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองต่างๆ จะมีความตระหนัก หรือวิตกกังวลมากน้อยเพียงใดต่อความถดถอยของประเทศไทยในเวทีโลก และหากตระหนักแล้ว พวกเขาจะมีข้อเสนอเพื่อนำพาประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างามอย่างใด?
ความคิดอ่านแค่ให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ แล้วตักตวงผลประโยชน์เข้าตัว หรือเพื่อต่ออำนาจต่อๆ ไป เป็นการหลอกลวงตัวเองและประชาชน ซึ่งนักการเมืองในยุคนี้ควรต้องละทิ้งความคิด พฤติกรรมที่เลวร้ายและบ่อนทำลายประเทศชาติไปให้หมดสิ้นแล้วทำตัวเป็นผู้อาสาเข้ามารับใช้ชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริงได้แล้วเสียที
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

สกู๊ปพิเศษ : ปลูกเมล็ดพันธุ์ใหม่ ‘ครูดีไม่มีอบายมุข’
‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ชี้แนวรบชายแดนยังไม่จบ แนะกองทัพทำลายศัตรูให้สิ้นซาก อย่าให้ก่อกวนอีก
ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ระหว่างวันที่ 21-27 ธันวาคม 2568
อาลัยทั้งอำเภอ หลั่งไหลสวดอภิธรรม'พลทหารเอสโซ่' ทหารกล้าแห่งเขาซำแต
เช็กเรตติ้งการเมือง! นิด้าเปิดผลโพล‘คนกรุง’เชียร์‘พรรค’ไหน หนุนใครนั่ง‘นายกฯ’

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี