วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ทัพเรือไทย ร่วมปกป้องรักษาแผ่นดิน

ดูทั้งหมด

  •  

กองทัพพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่นานหลายเดือน และเริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากรุงศรีอยุธยาจะต้องถูกตีแตกในอีกไม่นานน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งขณะนั้นเป็นพระยาวชิรปราการ ได้ตัดสินใจนำทหารผู้ร่วมรบทั้งไทยและจีนประมาณ ๕๐๐ นายหนีออกจากค่ายวัดพิชัย เมื่อวันที่ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๓๑๐ ตีฝ่าวงล้อมพม่า มุ่งหน้าสู่หัวเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออก

กองกำลังของพระองค์ยกผ่านบ้านหันตรามาถึงบ้านข้าวเม่า ต้องต่อสู้กับกองกำลังพม่าที่ติดตามมา แต่ก็เอาชนะได้จึงเดินทางเข้าสู่บ้านซำบัณฑิตในตอนเที่ยงคืน ทำให้ทอดพระเนตร
เห็นแสงเพลิงที่กำลังลุกไหม้บางส่วนของกรุงศรีอยุธยา และเชื่อว่าเป็นจุดสำคัญที่ทำให้พระองค์ตั้งเจตนารมณ์ว่าจะต้องกลับมาแก้คืน เอากรุงศรีอยุธยากลับมาให้ได้


ในวันต่อมาพระองค์ยกกองกำลังมาถึงบ้านพรานนก และที่จุดนี้เองที่ต้องเข้าปะทะกับกองกำลังของพม่ามากกว่า ๒,๐๐๐ นาย พระองค์ทรงสู้รบบนหลังม้าร่วมกับกองกำลังที่ติดตามมา และสามารถเอาชนะทัพพม่าได้เมื่อวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ.๒๓๑๐ ซึ่งต่อมาจึงถือเอาวันนี้ว่าเป็นวันทหารม้า

พระองค์ได้เริ่มรวบรวมไพร่พลจนมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยต้องต่อสู้กับกลุ่มโจรและผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นหลายพื้นที่ ทั้งที่แปดริ้ว ชลบุรี จนมาถึงเมืองระยอง โดยกลุ่มอิทธิพลใหญ่สุดคือกลุ่มของขุนรามหมื่นช่องและนายนกเล็ก โดยขุนรามหมื่นช่องได้หนีไปอยู่กับพระยาจันทบุรี

ก่อนหน้านั้น พระยาจันทบุรีได้เคยพบกับพระเจ้าตาก และได้ตกลงใจว่าจะช่วยกันกอบกู้กรุงศรีอยุธยา แต่เมื่อได้พบกับขุนรามหมื่นช่อง กลับเปลี่ยนท่าทีแสดงถึงความเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้าตากอย่างชัดเจน ทำให้พระองค์ทรงตัดสินใจที่จะต้องบุกเข้าตีและยึดเมืองจันทบุรีไว้ให้ได้

พระเจ้าตากจึงตัดสินใจยกทัพเข้าประชิดเมืองจันทบุรี ซึ่งพระยาจันทบุรีก็เตรียมป้องกันเมืองอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน พระเจ้าตากเห็นว่าการตั้งทัพล้อมไว้อย่างนี้ไม่น่าจะมีประโยชน์จึงตัดสินใจเข้าตีเมืองจันทบุรี โดยตรัสกับแม่ทัพนายกองและไพร่พล ว่า “เราจะตีเมืองจันทบุรีในค่ำคืนวันนี้ เมื่อกองทัพหุงข้าวเย็นกินเสร็จแล้ว ให้แม่ทัพนายกองและไพร่พลทั้งหลายเทอาหารที่เหลือทิ้ง แล้วต่อยหม้อข้าวหม้อแกงที่มีอยู่ให้แตกเสียทั้งหมด” โดยหมายว่าจะเข้าไปกินข้าวด้วยกันในเมืองจันทบุรีวันพรุ่งนี้ หากเข้าตีเมืองจันทบุรีไม่สำเร็จก็ขอให้ได้ตายไปพร้อมกัน

ด้วยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของพระเจ้าตาก ซึ่งแม่ทัพนายกองทั้งหลายต่างรู้ดีจึงไม่มีผู้ใดขัดขืน ประกอบกับหลักจิตวิทยาของพระองค์ท่าน ทำให้ทหารทั้งหลายเกิดความฮึกเหิม กล้าหาญ ในการที่จะเข้าร่วมรบกับพระองค์เพื่อเข้าตีเมืองจันทบุรีให้แตกให้จงได้

ตกค่ำวันนั้นพระเจ้าตากก็เกณฑ์ทหารไทยจีนทั้งหมดที่มีอยู่เข้าซุ่มอยู่รอบประตูเมือง พร้อมรับสั่งให้คอยฟังเสียงปืนสัญญาณเพื่อจะเข้าร่วมตีเมืองจันทบุรีพร้อมกัน เมื่อตระเตรียมการพร้อมแล้ว ถึงเวลา ๓ นาฬิกา พระเจ้าตากก็ขึ้นทรงช้างพันคีรีบัญชร โปรดให้หลวงพิชัยอาสาทหารคู่พระทัยนำกองทหารนำหน้าช้าง สั่งให้ยิงปืนพร้อมกันทุกด้าน และพระองค์ทรงไสช้างให้เข้าพังประตูเมืองจันทบุรีทหารในเมืองก็ยิงปืนน้อยใหญ่ออกมาอย่างมาก นายท้ายช้างเกรงว่าพระองค์จะเป็นอันตราย พยายามเกี่ยวช้างให้เบนออก ทำให้พระเจ้าตากขัดใจหันมามอง แล้วยกพระแสงดาบขึ้นหมายฆ่านายท้ายช้าง นายท้ายช้างตกใจร้องขอชีวิตไว้ พระองค์จึงไสช้างเข้าพังประตูเมืองจนทลายลง ทหารทั้งหลายก็ติดตามช้างพระที่นั่งเข้าสู่เมืองจันทบุรีได้สำเร็จ ด้วยความตกใจทหารของเมืองจันทบุรีจึงหนีเอาตัวรอด ส่วนพระเจ้าจันทบุรีก็หนีไปอยู่ที่เมืองบันทายมาศ พระเจ้าตากสินเข้ายึดเมืองจันทบุรีได้สำเร็จ

พระองค์ได้สะสมไพร่พลเพิ่มเติม รวมทั้งเริ่มเสริมกำลังโดยยกทัพไปตีเมืองตราด รวบรวมผู้คนตลอดจนเรือสำเภาจีนที่มาค้าขายได้จำนวนหนึ่ง และยังทรงให้สร้างอู่ต่อเรือขึ้นที่ตำบลหนองเรือ เมืองจันทบุรี ซึ่งมีหลักฐานปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ต่อเรือรบได้จนครบ ๑๐๐ ลำ มีการฝึกไพร่พลให้มีฝีมือและพร้อมต่อการรบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๓๑๐ เมื่อพ้นฤดูมรสุม พระองค์จึงยกทัพเรือมากกว่า ๑๐๐ ลำ และกำลังพลประมาณ ๕,๐๐๐ นาย ซึ่งมีความเข้มแข็งและกล้าหาญผ่านการฝึกมาอย่างพร้อมเพรียงล่องทะเลขึ้นมาจนถึงปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยา และเมื่อถึงกรุงธนบุรี ก็ได้เข้าตีกรุงธนบุรีที่มีนายทองลันเป็นผู้รักษาเมืองที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ ได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็ว แล้วจึงยกกองทัพเรือขึ้นไปยังกรุงศรีอยุธยา

เมื่อพม่ารู้ว่าพระเจ้าตากกำลังยกทัพเรือมา จึงส่งทัพย่อยมาสกัดทัพเรือของพระเจ้าตากใกล้กับทำเนียบคล้องช้าง แต่ก็พ่ายแพ้ พระเจ้าตากยกทัพเรือไปจนประชิดค่ายโพธิ์สามต้น แยกกำลังทำออกเป็น ๒ ส่วนเพื่อเข้าตีค่ายทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก หลังจากตีค่ายทิศตะวันออกแตกแล้ว ก็เข้าตีค่ายทิศตะวันตกซึ่งมีสุกี้พระนายกองแม่ทัพใหญ่ของพม่ารักษาการอยู่ จนค่ายทิศตะวันตกแตก สุกี้พระนายกองเสียชีวิตในการรบ รวมเวลาที่ใช้ในการเข้าตีเพื่อเอากรุงศรีอยุธยากลับมาเป็นของชาติเราอีกครั้งหนึ่งเพียงแค่ ๒ วัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๓๑๐ และทรงประกาศอิสรภาพในวันนั้น ใช้เวลาเพียง ๗ เดือน ในการกู้ราชอาณาจักรสยามกลับคืนมา

กองทัพเรือไทยจึงถือว่าเป็นกองทัพเรือที่มีความเข้มแข็งมาตั้งแต่อดีตกาล รวมทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เรียกว่าเหตุการณ์ รศ. ๑๑๒ กองทัพเรือไทยก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและห้าวหาญในการสู้รบกับกองเรือของฝรั่งเศส ประเทศนักล่าอาณานิคมให้เห็นเป็นที่ประจักษ์

จนถึงวันนี้สมรภูมิการสู้รบบริเวณชายแดนระหว่างไทยและเขมรที่เป็นผู้รุกรานยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม เป็นต้นมา และมีการหยุดยิงไประยะหนึ่งตามสัญญาการหยุดยิง แต่เขมรซึ่งเป็นชนชาติที่เชื่อถือไม่ได้ โดยเฉพาะอดีตนายกฯผู้นำและนายกฯคนปัจจุบันตระกูลฮุนที่อยู่เบื้องหลังการรบ จนทำให้เกิดการละเมิดสัญญา โดยทหารเขมรได้ยิงเข้ามายังเขตไทยด้วยอาวุธทั้งเบาและหนักอีกครั้งเมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้ไทยต้องดำเนินการตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ

การรบในครั้งนี้มีความรุนแรงและขยายพื้นที่การรบตลอดแนวชายแดนไทยเขมรที่อยู่ประชิดกัน ทำให้กองทัพไทยทั้งกองทัพบกซึ่งถือเป็นกำลังหลัก เสริมด้วยกองทัพอากาศและกองทัพเรือ ต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างเข้มแข็ง กล้าหาญและเสียสละอย่างที่สุด

การสู้รบในครั้งนี้ทหารไทยต้องพลีชีพไปแล้วมากกว่า ๒๐ นาย และบาดเจ็บอีกจำนวนไม่น้อย ตลอดจนประชาชนชาวไทยบางส่วนก็เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากการที่เขมรใช้อาวุธจรวดและปืนใหญ่ยิงเข้ามาในเขตที่พักอาศัยของประชาชน เป็นการรบที่ไม่ได้คำนึงถึงมนุษยธรรมตามหลักสากลที่ปฏิบัติกันอยู่ แต่การพลีชีพเพื่อชาติของทหารกล้าในครั้งนี้ก็ทำให้ไทยสามารถยึดคืนและสถาปนาดินแดนที่เคยเป็นของไทยกลับคืนมาได้เกือบทั้งหมด รวมทั้งพื้นที่เนิน ๓๕๐ ซึ่งมีการต่อสู้กันอย่างหนัก ขณะนี้ทหารไทยก็สามารถเข้าควบคุมพื้นที่ไว้ได้แล้ว

ในส่วนของกองทัพเรือไทยนั้น ก็ได้ร่วมรบในครั้งนี้และได้แสดงให้เห็นถึงแสนยานุภาพ สมรรถนะและความกล้าหาญในการรบไม่น้อยไปกว่าทัพบกและทัพอากาศ โดยกองทัพเรือรับผิดชอบพื้นที่ทางบกบริเวณบ้านชำราก รวมทั้งพื้นที่ในบริเวณชายแดนเขตจังหวัดตราด พื้นที่ทางทะเล และชายฝั่งทั้งหมด ซึ่งรวมทั้งบริเวณเกาะกูดเชื่อมไปถึงเกาะกง ภายใต้การดูแลของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินซึ่งเป็นหน่วยรบที่มีความเข้มแข็งเป็นพิเศษอยู่แล้ว โดยร่วมกับหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี ตราด อย่างต่อเนื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้เข้ายึดพื้นที่บ้านสามหลังในจังหวัดตราดกลับมาเป็นของไทย ทำการสถาปนาพื้นที่และปักธงราชนาวีไทย ซึ่งก็คือธงชาติที่บริเวณกลางผืนธงจะมีช้างเผือกยืนอยู่ในวงกลมสีแดงหันหน้าไปทางก้านธงอย่างเรียบร้อยแล้ว

คงเห็นแล้วว่า ความร่วมมือของ ๓ เหล่าทัพทั้งบก เรือและอากาศ ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล เพื่อรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนไทยและอธิปไตยของชาตินั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง และทั้ง ๓ เหล่าทัพก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ในที่สุด กองทัพไทยจะสามารถสู้รบและเอาชนะเขมรได้อย่างแน่นอน

ถึงเวลาแล้วที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านสีส้ม ที่ประกาศว่าทหารมีไว้ทำไม เพราะหากมีสงครามก็รบพ่ายแพ้แน่นอน ส่วนทหารเรือนั้นก็ไม่จำเป็นต้องจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ อาทิ เรือดำน้ำซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกำลังสำคัญในการสู้รบและดูแลพื้นที่ใต้ทะเล โดยบอกว่าให้เอาเรือประมงออกรบก็ได้ อันเป็นคำพูดที่ดูถูกดูแคลนกองทัพ เป็นคำพูดของผู้ที่ขาดสติ ขาดปัญญาคือคิดไม่ออก และไม่ได้แสดงถึงความเป็นคนไทยที่รักชาติ และต้องร่วมรักษาอธิปไตยของชาติอันเป็นแผ่นดินเกิดอย่างเข้มแข็ง รวมทั้งอาจจะต้องยอมพลีแม้แต่เลือดเนื้อและชีวิตเช่นเดียวกับทหารกล้าทั้งจากทัพบก ทัพอากาศ และทัพเรือทั้งหลาย

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:32 น. เอาแล้ว!‘ไชยชนก’เผย DSI สอบพบ‘MOUดีอี-บ.สิงคโปร์’โยง 2 นักการเมือง
09:18 น. มีอะไรในกอไผ่! จับตาประชุมอาเซียนนัดพิเศษ เวทีสุดท้ายบนเก้าอี้ประธานของ‘อันวาร์’
09:07 น. 'บิ๊กเล็ก'เผยถก'สมช.'ปมพบโดรนใกล้สุวรรณภูมิ
09:06 น. สุรินทร์เฝ้าระวังชายแดน พบทหารเขมรเคลื่อนไหว ใกล้ปราสาทตาเมือนธม-ช่องกร่าง
09:03 น. สีหศักดิ์ ถึงมาเลเซียแล้ว พร้อมย้ำเงื่อนไขหยุดยิง 3 ข้อ
ดูทั้งหมด
เปิดใจมรสุมชีวิต! อาจารย์อดัม เล่าทุกอย่างหลังชีวิตพลิกผันครั้งใหญ่
ทรัมป์ สั่งแบนเพิ่ม ห้ามพลเมือง 5 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ มีผล 1 ม.ค.ปีหน้า
เอาคะแนนผมไปเลย! 'น็อต วรฤทธิ์'โพสต์ตัดสินใจแล้ว จนคนแห่คอมเมนต์สนั่น
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 20-26 ธ.ค.68
ขอกำลังใจด้วยนะคะ ธิษะณา โพสต์พร้อมสมัครงานใหม่ หลังพรรคไม่ส่งสมัครสส.กทม.
ดูทั้งหมด
เวลากับชีวิตมนุษย์ เราควรจักใช้เวลาทำอะไร ให้มีคุณค่าความหมาย 1
ยึดเนิน 350?
ทหารไทยชนะศึก พิชิตใจคนไทยทั้งแผ่นดิน
บุคคลแนวหน้า : 22 ธันวาคม 2568
ดิ้นเฮือกสุดท้าย ‘สินบนบ้านเอื้ออาทร’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'บิ๊กเล็ก'เผยถก'สมช.'ปมพบโดรนใกล้สุวรรณภูมิ

สุรินทร์เฝ้าระวังชายแดน พบทหารเขมรเคลื่อนไหว ใกล้ปราสาทตาเมือนธม-ช่องกร่าง

สีหศักดิ์ ถึงมาเลเซียแล้ว พร้อมย้ำเงื่อนไขหยุดยิง 3 ข้อ

จัดทหารยามเกียรติยศ เฝ้าศพวีรบุรุษทหารกล้า24ชม. 'พลทหารวสันต์ ขานหัวโทน'

สุดสลด! รถไฟอินเดียวิ่งชนโขลงช้างป่าดับ 7 ตัว

​ณเดชน์-แม่แก้ว น้อมกราบพระบรมศพพระพันปีหลวง

  • Breaking News
  • เอาแล้ว!‘ไชยชนก’เผย DSI สอบพบ‘MOUดีอี-บ.สิงคโปร์’โยง 2 นักการเมือง เอาแล้ว!‘ไชยชนก’เผย DSI สอบพบ‘MOUดีอี-บ.สิงคโปร์’โยง 2 นักการเมือง
  • มีอะไรในกอไผ่! จับตาประชุมอาเซียนนัดพิเศษ เวทีสุดท้ายบนเก้าอี้ประธานของ‘อันวาร์’ มีอะไรในกอไผ่! จับตาประชุมอาเซียนนัดพิเศษ เวทีสุดท้ายบนเก้าอี้ประธานของ‘อันวาร์’
  • \'บิ๊กเล็ก\'เผยถก\'สมช.\'ปมพบโดรนใกล้สุวรรณภูมิ 'บิ๊กเล็ก'เผยถก'สมช.'ปมพบโดรนใกล้สุวรรณภูมิ
  • สุรินทร์เฝ้าระวังชายแดน พบทหารเขมรเคลื่อนไหว ใกล้ปราสาทตาเมือนธม-ช่องกร่าง สุรินทร์เฝ้าระวังชายแดน พบทหารเขมรเคลื่อนไหว ใกล้ปราสาทตาเมือนธม-ช่องกร่าง
  • สีหศักดิ์ ถึงมาเลเซียแล้ว พร้อมย้ำเงื่อนไขหยุดยิง 3 ข้อ สีหศักดิ์ ถึงมาเลเซียแล้ว พร้อมย้ำเงื่อนไขหยุดยิง 3 ข้อ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทัพเรือไทย ร่วมปกป้องรักษาแผ่นดิน

ทัพเรือไทย ร่วมปกป้องรักษาแผ่นดิน

22 ธ.ค. 2568

ขณะที่มีศึกนอก อย่าให้ศึกในทำร้ายประเทศ

ขณะที่มีศึกนอก อย่าให้ศึกในทำร้ายประเทศ

15 ธ.ค. 2568

เงินดิจิทัล หายนะทางสังคม

เงินดิจิทัล หายนะทางสังคม

8 ธ.ค. 2568

คุณและโทษของน้ำ มนุษย์จะจัดการอย่างไร

คุณและโทษของน้ำ มนุษย์จะจัดการอย่างไร

1 ธ.ค. 2568

ความสัมพันธ์ไทย-จีน‘เราเป็นครอบครัวเดียวกัน’

ความสัมพันธ์ไทย-จีน‘เราเป็นครอบครัวเดียวกัน’

24 พ.ย. 2568

เขมร ยังจะต้องไว้ใจกันอีกหรือ

เขมร ยังจะต้องไว้ใจกันอีกหรือ

17 พ.ย. 2568

จากอั้งยี่ มาสู่แก๊งสแกมเมอร์

จากอั้งยี่ มาสู่แก๊งสแกมเมอร์

10 พ.ย. 2568

พระองค์ผู้ทรงเป็นวีรสตรี มหาราชินี

พระองค์ผู้ทรงเป็นวีรสตรี มหาราชินี

3 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved