บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม หรือ Industrial Estate Sector ภาพมหภาคอยู่ในเชิงบวก ซึ่งจะทำให้อุปสงค์การลงทุนตามนโยบาย EEC เร่งตัวขึ้นเราเชื่อว่าประเทศไทยยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจเนื่องจากทำเลที่ตั้งที่อยู่ในกลางภูมิภาค และ GDP ที่เร่งตัวขึ้นเป็น 4.7% ใน 1H61 ซึ่งเราคาดว่าจะดึงดูด FDI เพิ่มขึ้นอีกหลังจากที่โตถึง 87% YoY ใน 1H61 เป็น 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ยอดขอสิทธิประโยชน์ BOI ใน 1H61 ก็คิดเป็น 37.9% ของเป้าทั้งปีที่ 7.20 แสนล้านบาท (จาก 6.42 แสนล้านบาทในปี 2560) และโครงการส่วนใหญ่ก็เกี่ยวข้องกับนโยบาย EEC ในเชิงทำเลที่ตั้งและประเภทอุตสาหกรรม
แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในเชิงจุลภาคที่ไม่ได้สดใสเหมือนมหภาค ดังจะเห็นได้จากยอดขายที่ดินที่ใน 1H61 (ของ AMATA อยู่ที่ 159 ไร่ จากสมมุติฐานยอดขายปีนี้ของเราที่ 950 ไร่ และของ WHA อยู่ที่ 175 ไร่จากสมมุติฐานยอดขายปีนี้ของเราที่ 1,500 ไร่) ถึงแม้เราจะเห็นแรงส่งด้านบวกอยู่บ้าง QTD แต่ก็ยังเป็นเรื่องท้าทายที่จะทำยอดขายให้ได้ตามสมมุติฐานปีนี้ทั้งปีของเรา และเรามองว่ายังมีความเสี่ยงทางด้าน downside อยู่ โดยเรามองว่าปัญหาคอขวด และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐอาจจะเป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการขายที่ดินทั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Thailand Investment หรือ BOI) เป็นช่องทางหลักในการยื่นขอสิทธิประโยชน์ทางภาษี ในขณะที่นโยบาย EEC เป็นโครงการริเริ่มของประเทศไทย
ความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับ EEC เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง และกรอบเวลาการเลือกตั้งที่มีความชัดเจนจะเป็นปัจจัยกระตุ้นตัวถัดไปที่จะหนุนราคาหุ้นกลุ่มนิคม โดยเราคาดว่าราคาหุ้นน่าจะวิ่งได้ตามกระแสข่าวอย่างน้อยก็ใน 4Q61 ซึ่งเรามองว่ากระแสข่าวยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันราคาหุ้นเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน 2560 (Figure 10) เมื่อสนช. ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. EEC
เราให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้ที่ Overweight โดยเลือก AMATA เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม เราชอบ AMATA เนื่องจาก i) คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้น HoH ii) คาดว่ายอดขายที่ดินจะเร่งตัวขึ้นตามปกติในช่วงท้ายปี iii) ยอดขายที่ดิน QTD อยู่ที่ประมาณ 300 ไร่ ซึ่งคิดเป็นยอดขายที่ดินประมาณ 500 ไร่ YTD จากสมมุติฐานยอดขายทั้งปีของเราที่ 950 ไร่ และ iv) เป็นหุ้นที่ทำธุรกิจนิคมแท้ๆ ซึ่งจะได้อานิสงส์โดยตรงจากภาวะการลงทุนที่เร่งตัวขึ้นในประเทศไทย
ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (geopolitical risks), เศรษฐกิจชะลอตัว, ภัยธรรมชาติ, การซื้อที่ดิน, การกระจุกตัวของกลุ่มอุตสาหกรรม, ความไม่เพียงพอของเงินทุน
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี