อำเภอลำลูกกามีอาณาเขตต่อเนื่องกับทุ่งรังสิต สมัยก่อนเป็นที่ราบลุ่มเต็มไปด้วยป่าพงป่าอ้อ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าทั่วไป สภาพของพื้นที่เป็นที่รกร้างกว้างใหญ่ มีชื่อเรียกว่า “ทุ่งหลวง” ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ประมาณปี พ.ศ. 2433 พระองค์ทรงเห็นว่า ทุ่งหลวงกว้างใหญ่ไพศาลมาก ควรให้ประชาชนเข้ามาอยู่เป็นที่พักอาศัยทำมาหากิน ประกอบกับทรงมีพระราชดำริว่าคลองมีความสำคัญสมควรต้องขุดทุกปี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บริษัทขุดคลองแลคูนาสยาม ดำเนินการขุดคลองหกวา เริ่มจากคลองซอยที่ 2 ไปจนถึงอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นระยะทาง 900 เส้นเศษ และขุดคลองซอยที่เป็นระยะห่างกัน 60 เส้น จำนวน 16 คลอง ผลจากการขุดคลองนี้ทำให้ประชาชนที่อยู่ในถิ่นกันดารต่างอพยพหลั่งไหลเข้ามาอาศัยอยู่และทำการเพาะปลูกมากยิ่งขึ้น
สำหรับชื่ออำเภอลำลูกกานี้ตามประวัติบอกว่า แต่เดิมนั้นในท้องที่อำเภอนี้มีลำธารไหลผ่านมาบรรจบเป็นรูปตีนกา และปรากฏมีนกมาอาศัยทำรังอยู่เป็นจำนวนมาก ยังมีเก้ง กวาง สมัน เนื้อทราย ป้วนเปี้ยนทำมาหากิน เพราะที่รวมของลำธารนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้ง ปลา อาหารของสัตว์นานาชนิด ประชาชนจึงเรียนบึงนี้ว่า “บึงลำลูกกา” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อทางราชการได้ตั้งอำเภอขึ้นใกล้กับบึงนี้เมื่อประมาณ พ.ศ. 2447 จึงขนานนามว่า อำเภอลำลูกกา
ศาลเจ้าเซียนซือกง วัดโบราณอายุกว่า 100 ปีมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้หลายพระองค์เป็นสิริมงคล ศาลเจ้าจีนเซียนซือกงอันเป็นที่นับถือทั้งชาวไทยชาวจีน ต่อมาชุมชนได้ย้ายจากตลาดริมน้ำบ้านเรือนไม้เดิม ข้ามฝั่งสะพานสามมิติสร้างด้วยไม้มงคล 3 อย่าง ศาลหลักเมืองประจำอำเภอลำลูกกา มีหลวงพ่อพระพุทธชยันโต สร้างด้วยไม้ตะเคียนอายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งในละแวกมีวัดถึง 9 วัด แสดงถึงฐานะอันรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของชาวลำลูกกาตั้งแต่โบราณ ผู้ที่มาก่อน 07.00 น. จะมีโอกาสใส่บาตรพระถึง 9 วัด บางวัดพระออกบิณฑบาตทางเรือพายที่ไม่ค่อยได้เห็นในปัจจุบัน
ชุมชนริมน้ำเดิมอยู่ที่ฝั่งตัวอำเภอปัจจุบัน ต่อมาเจ้าของตลาดได้ขายที่ ร้านเรือนในตลาดจึงย้ายกระจัดกระจาย ส่วนมากจะย้ายมาริมน้ำฝั่งหน้าวัดนังคัลจันตรี เทพื้นเป็นลานคอนกรีตเลียบลำน้ำทำเป็นทางเดินมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน เฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะมีของขายหลากหลายแบ่งเป็นโซนๆ ราคายุติธรรมพอหาซื้อของกินของใช้และเป็นของฝากได้ไม่แพงนัก และมีกิจกรรมสันทนาการให้ดูทุกอาทิตย์สร้างความเพลิดเพลินและตื่นเต้นในการมาเที่ยวชมมีเรือให้นั่งดูบรรยากาศวิถีชีวิตริมน้ำแก่ผู้มาท่องเที่ยว (ฟรีไม่เสียสตางค์) มาที่เดียวได้ความเพลิดเพลินที่คุ้มค่าแก่การเดินทางมาตลาดริมน้ำวัดนังคัลจันตรี
ตลาดนัดวันหยุดมีพื้นลาดซีเมนต์เรียบ มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน แผงลอยเรียงรายเป็นระเบียบสะอาดสะอ้าน ของกินที่มาตั้งขายเป็นของที่ทำโดยชาวลำลูกกาตามแบบแผนที่เคยทำกันมานาน
ข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวคัดเม็ดสวย ไม่ขี้เหนียวกะทิ มีสังขยาเนื้อเนียนละเอียด หน้ากุ้ง น้ำกะทิทุเรียน น้ำกะทิถั่วดำที่ใส่ถั่วครึ่งต่อครึ่ง
ยำขนมจีน จะเรียกว่าเป็นอาหารสุขภาพก็พอได้ เส้นขนมจีนกับถั่วฝักยาว หอมแดงซอยใบโหระพา กับปลาทูทอดแกะก้าง ราดด้วยน้ำยำรสจัด อร่อยจนคิดไม่ถึง
ผัดไทยโบราณ อาหารจานเดียวที่ทำขายกันทั่วบ้านทั่วเมือง แตกต่างกันเล็กน้อยจากเครื่องปรุง
ขนมใส่ไส้ แม้จะเป็นขนมพื้นๆ แต่แตกต่างกันที่ไส้กระฉีกและแป้งกะทิห่อด้วยใบตองคาดเตี่ยว เพียงห่อละ 5 บาท
กะหรี่พัฟป้าติ๋ว ตัวกะหรี่พัฟปั้นได้สวยงาม ทอดได้กรอบกำลังดี มีหลายไส้ เช่นไส้ไก่ ไส้เผือก เป็นต้น
โรส ขนมถ้วยใบเตย แม่ค้าหน้าแฉล้ม ขายขนมจัดถ้วยเป็นระเบียบดูสะอาดน่าอุดหนุน
หมูสะเต๊ะน้าต้อย หมูสะเต๊ะปิ้งร้อนๆ กลิ่นหอมกำลังดี ไม่ได้หมักจนฉุน น้ำจิ้มและอาจาดรสกำลังดี
เจ๊อิง บ๊ะจ่าง มัดห่ออย่างพิถีพิถัน ไม่ขี้เหนียวไส้ หอมกลิ่นใบไผ่ ขายควบกับเกี๊ยวลวกและขนมผักกาดใส่ไส้หนาแน่นทั้งถั่ว เห็ดหอม กุ้งแห้ง
ขนมเบื้องญวน ขนมเบื้องสีสวย ละเลงแป้งหนาบางสม่ำเสมอ แซะพับเป็นขนมกรุบกรอบแต่ไส้นุ่ม กินกับอาจาดได้ลงตัว
ทอดมันและห่อหมก ทอดมันชิ้นพอคำกำลังดีราคาเพียงชิ้นละ 1 บาท เนื้อปลาทอดแล้วเหนียวหนึบ ซึ้งข้างๆ เป็นกระทงห่อหมกส่งกลิ่นชวนหิว คุณป้ารูปด้านข้างยังนั่งกวนห่อหมกจนเนียนตามวิธีดั้งเดิม
คางกุ้งทอด ถามคนขายว่า “คางกุ้ง” เป็นส่วนไหนของตัวกุ้ง ได้รับคำตอบว่าคือหัวกุ้งนั่นเอง เมื่อเอามาทอดจนกรอบได้ที่ เคี้ยวกรุบกรอบสนุกปากนัก
ปลาตะเพียนต้มเค็ม ปลาตะเพียนตัวโตต้มเคี่ยวกันข้ามวันข้ามคืนกับเครื่องปรุงนานาชนิด คอยคุมไฟไม่ให้เนื้อปลาเละจนก้างเปื่อยยุ่ย ซื้อกลับบ้านเอามายำ ซอยพริก หอมแดง บีบมะนาว อาหารจากสวรรค์หรือจะปาน
เมี่ยงคำ อาหารว่าง ที่คนภาคกลางนิยมทำกิน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ใบชะพลูผลิดอกออกช่อ ซึ่งจะหาใบชะพลูได้ไม่ยาก เพราะมีขายตามตลาดสดทั่วไป มีคุณค่าทางสมุนไพรสูงเพราะมีคุณสมบัติในการบำรุงรักษาธาตุทั้ง 4 กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้มีการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติประจำปี 2557 เป็นหนึ่งใน 7 สาขา
ข้าวต้มมัดป้าจ้อย เช่นเดียวกับเมี่ยงคำ ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมได้มีการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติประจำปี 2557 ข้าวเหนียวกะทิหุ้มกล้วยชิ้นโต ซึ่งปัจจุบันข้าวต้มมัดทั่วๆ ไปจะมีไส้กล้วยชิ้นเล็กเพราะราคากล้วยแพง มัดประกบคู่ด้วยตอกที่จักได้สวยงาม
ขนมจีนสูตรยายเมี้ยน ขนมจีนน้ำพริกเข้มข้น รสแซมหวาน กินกับผักเหมือด หัวปลีซอย ผักบุ้งลวก ส่วนน้ำยาป่าน้ำยากะทิ มีลูกชิ้นปลาลอยหน้า รสจัดจ้านประสาแม่ค้าที่สืบทอดสูตรจากยายเมี้ยน
แตงทิเบต พอย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วง จะเห็นมีผู้สั่งแตงทิเบต หรือที่เมืองจีนมักเรียกว่า “แตงซินเกียง” ลูกรียาว เชื่อว่าเป็นแตงที่อร่อยที่สุด หอมหวานชื่นใจ เมื่อไม่นานมานี้ผู้ที่รู้จักแตงนี้ถึงกับอุ้มมาเป็นของฝากจากฮ่องกง
ตลาดนัดวันหยุดสุดสัปดาห์แห่งนี้ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากดอนเมืองนัก จอดรถได้ที่บริเวณวัดอันกว้างขวาง ของกินยังรักษาความอร่อยแบบเก่าๆ มีกิจกรรมให้ทำเพื่อรำลึกถึงบ้านเรือนวันวารในอดีต เช่น ใส่บาตรพระ 9 วัด ที่มาบิณฑบาตทางเรือ คลองหกวาเป็นลำน้ำที่คุณภาพน้ำยังใสสะอาด ข้าวของอุปโภคบริโภคที่ยังเป็นราคาแบบชนบททั่วๆ ไป
วัดนังคัลจันตรี
32/1 หมู่ 5 ถนนลำลูกกา
ตำบลบึงคำพร้อย
อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี