ล่าสุด เว็บไซต์ของสหกรณ์ออมทรัพย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เผยแพร่การได้รับรางวัลการจัดระดับมาตรฐานสหกรณ์ในระดับ “มาตรฐานดีเลิศ” อย่างน่าภาคภูมิใจ และไว้วางใจ
ขณะเดียวกัน ก็ปรากฏข่าวว่าทางการเตรียมยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลสหกรณ์ทั้งระบบ
1. กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ยังมีเรื่องอื้อฉาวคาราคาซังอยู่ไม่น้อย
แถมบางส่วนก็พัวพันกับสหกรณ์คลองจั่น สหกรณ์มงคลเศรษฐี ที่มีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นประธานด้วย โดยเงินกู้และเงินฝากของสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ที่ไปจมอยู่กับสหกรณ์ทั้งสองแห่ง มูลค่าพันกว่าล้านบาท
บางกรณี พัวพันกับสหกรณ์เคหะสถานนพเก้าร่วมใจฯ ที่ถูกนายทะเบียนสหกรณ์สั่งยุติการดำเนินงาน และดำเนินคดีฐานทุจริตไปแล้ว สหกรณ์นพเก้าฯ ก็ยังไม่สามารถคืนเงินฝากให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ มูลค่าเกือบพันล้านบาท
โดยสหกรณ์จุฬาฯ เอาเงินไปฝากสหกรณ์นพเก้าฯ ยอดรวมกว่า 915 ล้านบาท อ้างว่า มีหลักทรัพย์ค้ำประกันมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท แต่เอาเข้าจริงโบ๋เบ๋ และการนำเงินไปฝากนั้นกระทำการไม่ถูกต้อง ล่าสุด นายทะเบียนสหกรณ์จึงได้สั่งให้ผู้บริหารปัจจุบันเร่งดำเนินการติดตามเรียกค่าเสียหายคืน โดยระบุว่าให้เรียกค่าเสียหายบางส่วนจากอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ที่อนุมัติให้เอาเงินไปฝากอย่างไม่ถูกต้องนั้นด้วย
แต่ถึงวันนี้ ยังดำเนินการไม่ถึงไหนเลย!!!
นายทะเบียนสหกรณ์มีคำสั่งไปแล้ว เลยเส้นตายไปกี่เส้นแล้ว
นายจุมพล พูลภัทรชีวิน ประธานสหกรณ์จุฬาฯ คนปัจจุบัน ควรต้องเร่งดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ปล่อยให้อดีตกรรมการชุดที่ร่วมนำเงินออกไปฝากในอดีต (แต่ยังนั่งเป็นกรรมการชุดปัจจุบัน4-5 คน) ยังมีบทบาทในการบริหารงานสหกรณ์อยู่ต่อไปอีก
หากดำเนินการเด็ดขาด ปกป้องผลประโยชน์ของสหกรณ์ ไม่เกรงใจคนทำงานด้วยกัน จึงจะสมกับรางวัลมาตรฐานดีเลิศ
หากปล่อยล่าช้าไปเรื่อยๆ คำสั่งของนายทะเบียนสหกรณ์ก็เถอะ จะไร้ความศักดิ์สิทธิ์ ไร้ผลบังคับ ไร้คนยำเกรง แล้วระบบมาตรฐานการกำกับดูแลที่วาดไว้สวยหรูจะเป็นอย่างไร?
2. ในอดีต สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ก็เคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นสหกรณ์มาตรฐานในระดับดีเลิศ ประจำปี พ.ศ. 2554 แถมนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ผู้บริหารสหกรณ์ฯ ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นนักสหกรณ์แห่งชาติ
แต่สุดท้าย สหกรณ์คลองจั่นก็เละเทะ
แถมศาลปกครองยังเคยพิพากษาด้วยว่า หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลสหกรณ์ ไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการเข้าไปตรวจสอบควบคุมหรือกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ทั้งๆ ที่ มีการรายงานการกระทำที่ไม่ชอบในสหกรณ์คลองจั่นมาเรื่อยๆ แต่ยังให้รางวัลขัดแย้งกับความเป็นจริง ซึ่งทำให้ผู้บริหารอาศัยรางวัลเหล่านั้นไปอ้าง จูงใจประชาชนให้เอาเงินเข้ามาร่วมกับสหกรณ์ต่อไปอีกต่างหาก
3. เรื่องแบบนี้ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์จะต้องแสดงความเอาจริงเอาจัง
หรือจะรอให้มีคลองจั่นภาค 2?
ล่าสุด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ คุณกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประชุมหารือแนวทางการเสนอกฎหมายจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยน ที่มีทุนดำเนินงานเกิน 5,000 ล้านบาท ปรากฏว่ามีคุณพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคุณวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมในการประชุมดังกล่าว
ประกาศเตรียมเปิดประชาพิจารณ์เดือนก.พ.นี้
เตรียมเสนอร่างกฎหมายให้ที่ประชุมครม.พิจารณาภายในเดือนมี.ค.นี้
ร้อยคำพูด ไม่เท่าหนึ่งลงมือทำ
ขอให้รัฐมนตรีกอบศักดิ์ และรัฐบาล คสช. ลงมือจัดการกรณีจริงให้เด็ดขาด เป็นตัวอย่างเสียทีเถิด
ที่รัฐมนตรีว่า “...ปัจจุบัน สหกรณ์ออมทรัพย์มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องหาวิธีการกำกับดูแลที่เหมาะสม ซึ่งจากการหารือกับตัวแทนสหกรณ์ออมทรัพย์ขนาดใหญ่ มีความเห็นตรงกันในเรื่องการจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะขึ้นมากำกับซึ่งจะช่วยผลักดันให้ระบบสหกรณ์เดินหน้าต่อไปได้ และเข้าใจความเป็นสหกรณ์อย่างแท้จริง รวมถึงต้องการให้มีการประกันเงินฝากของสหกรณ์ และต้องการอยู่กับกระทรวงเกษตรฯเหมือนเดิม เพราะเป็นหน่วยงานที่เข้าใจความเป็นสหกรณ์...”
ลองจัดการปัญหาจริง ที่ปรากฏจะจะอยู่ ให้ดูหน่อยเถิด
มิฉะนั้น ก็จะซ้ำรอย “ดีแต่พูด”
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี