nn ผ่านมาแล้วครึ่งทางสำหรับปี 2563 ที่เต็มไปด้วยความยากลำบากสำหรับผู้ประกอบการไทยหลังต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
ที่ฉุดรั้งให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้ม หดตัวสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ แม้ล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยจะสามารถควบคุมได้ดีจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์ในประเทศโดยเฉพาะการบริโภคเริ่มมีสัญญาณกระเตื้องขึ้น แต่สถานการณ์ในหลายประเทศทั่วโลกที่ยังวิกฤติจากจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันที่ทำสถิติสูงสุด ส่งผลให้อุปสงค์จากต่างประเทศที่เคยเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะอ่อนแรงลงต่อเนื่องสะท้อนได้จากมูลค่าส่งออกล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2563ที่หดตัวถึง 22.5% ต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ผลักดันให้การส่งออก 5 เดือนแรก ปี 2563 หดตัว 3.7%
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากมองในแง่ดีอาจกล่าวได้ว่าวิกฤติ COVID-19 ได้เข้ามาเป็นบททดสอบภูมิต้านทานการส่งออกของไทยว่าจะสามารถทนทานกับความไม่แน่นอนหรือวิกฤตอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นใน อนาคตได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ หากพิจารณาจากตัวเลขส่งออกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และ 5 เดือนแรกปี 2563 ที่ COVID-19 ระบาดอย่างหนัก สามารถแบ่งกลุ่มสินค้าส่งออกของไทยได้“5 กลุ่มอาการ” ดังนี้
1.กลุ่มแข็งแรงมีภูมิต้านทานสูง คือกลุ่มสินค้าที่การส่งออกขยายตัวได้ดีต่อเนื่องทั้งในช่วงก่อนและระหว่าง COVID-19 ระบาด พบว่าส่วนใหญ่เป็นสินค้า
เกษตรและอาหารที่ผู้ประกอบการไทยมีความเชี่ยวชาญและเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพ นอกจากนี้ สินค้าอุตสาหกรรมหลายชนิดก็เป็นที่ต้องการมากขึ้นเพื่อ
ตอบสนองกระแส Social Distancing และกระแสใส่ใจสิ่งแวดล้อมปัจจัยดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าประเทศไทยมีภูมิต้านทานและมีศักยภาพในสินค้าเหล่านี้ ประเด็นในเชิงนโยบายจึงอยู่ที่การสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้าง Branding ให้สินค้าไทยกลุ่มนี้กลายเป็นสินค้าในใจของผู้บริโภคทั่วโลกที่เน้นคุณภาพมากกว่าราคา รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและจำหน่ายสินค้าเหล่านี้ โดยเฉพาะเพื่อตอบสนองกระแสความมั่นคงด้านอาหารและสุขภาพที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน สินค้าในกลุ่มนี้ได้แก่ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง อาหารสัตว์เลี้ยงสิ่งปรุงรสอาหาร ผักกระป๋องและแปรรูป เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม อุปกรณ์กึ่งตัวนำ แผงสวิตซ์ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ
2.กลุ่มฟื้นตัวชั่วขณะ คือกลุ่มสินค้าที่การส่งออกเริ่มชะลอตัวในช่วงก่อนหน้าแต่กลับได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นในระยะสั้น แนวทางในการเสริมแกร่งของสินค้ากลุ่มนี้ในระยะถัดไปอาจเป็นการหาตลาดส่งออกใหม่ๆ ที่ยังไม่อิ่มตัวเพื่อกระจายความเสี่ยง รวมถึงการแตกไลน์การผลิตสินค้าให้มีความหลากหลายขึ้น สินค้าในกลุ่มนี้ได้แก่ ข้าวโพด ปลาสดแช่เย็นแช่แข็งผลไม้กระป๋องและแปรูป ทูน่ากระป๋องและแปรรูป ซุปและอาหารปรุงแต่ง
3.กลุ่มติดเชื้อ คือกลุ่มสินค้าที่การส่งออกขยายตัวสูงตลอด 3 ปีที่ผ่านมาแต่มาหดตัวในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 15% ของมูลค่าส่งออกรวมที่ได้รับผลกระทบจากราคาและอุปสงค์ของภาคการผลิตและภาคการขนส่งที่ลดลงจากมาตรการ Lockdown และ Social Distancing อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมข้างต้นส่วนใหญ่ยังเป็นอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพและเป็นฐานการผลิตสำคัญของนักลงทุนต่างชาติแม้ในระยะสั้นอาจเผชิญกับภาวะช็อกจากอุปสงค์ที่ลดลงอย่างรวดเร็วหรือมีการเลื่อนการบริโภคออกไป แต่หากสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น สินค้ากลุ่มดังกล่าวก็มีโอกาสกลับมาฟื้นตัว สินค้าในกลุ่มนี้ได้แก่ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ หม้อแบตเตอรี่และส่วนประกอบ เครื่องสำอาง โทรศัพท์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ยาง แก้วและกระจก นาฬิกาและส่วนประกอบ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ สายไฟฟ้า เส้นใยประดิษฐ์ เครื่องใช้สำหรับการเดินทาง ธัญพืช เครื่องเทศและสมุนไพร กุ้งต้มสุกแช่เย็น น้ำตาลทราย เครื่องดื่ม ไอศกรีม น้ำมันจากพืชและสัตว์ น้ำมับดิบ น้ำมันสำเร็จรูป
4.กลุ่มภาวะแทรกซ้อนคือกลุ่มสินค้าที่มูลค่าส่งออกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาขยายตัวค่อนข้างต่ำจากปัญหาเชิงโครงสร้างและกระแส Disruption ในหลายมิติ
อีกทั้งถูกซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าเกษตรที่ส่วนใหญ่ส่งออกในลักษณะสินค้าขั้นต้นและต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง สินค้ากลุ่มนี้อาจถึงเวลาที่จำเป็นต้องปรับโครงสร้างการผลิตครั้งใหญ่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือบางอุตสาหกรรมก็อาจจำเป็นต้องย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ และเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มสูงกลับมายังประเทศไทย สินค้าในกลุ่มนี้ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องรับวิทยุและโทรทัศน์ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและชิ้นส่วน เครื่องเสียงและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์กระดาษ ผลิตภัณฑ์หนัง ผ้าผืน ของใช้ในบ้าน แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องกีฬา พัดลมผ้าปักและผ้าลูกไม้ ข้าว ยางพารา ปลาหมึกสดแช่เย็นแช่แข็ง ของปรุงแต่งที่ทำจากเนื้อสัตว์
5.กลุ่มอาการวิกฤติ คือกลุ่มสินค้าที่มูลค่าส่งออกหดตัวตลอด 3 ปีที่ผ่านมาและหดตัวต่อเนื่องในช่วง COVID-19 พบว่าสินค้ากลุ่มนี้กระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีปัญหาเชิงโครงสร้างและมูลค่าเพิ่มต่ำ รวมทั้งถูกซ้ำเติมจากกระแส TechnologicalDisruption อุตสาหกรรมเหล่านี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับตัวให้สอดคล้องกับ Megatrends สินค้าในกลุ่มนี้ได้แก่ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ด้ายและด้ายเส้นใยประดิษฐ์ มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สิ่งทอ กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ แม่พิมพ์หุ่นแบบหล่อโลหะ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง
แม้ว่าสินค้าส่งออกของไทยหลายกลุ่มอาการข้างต้นหดตัวลงจากผลกระทบของ COVID-19แต่ในภาพรวมแล้วการส่งออกของไทยยังหดตัวน้อยกว่าคู่แข่งหลายประเทศที่อาจมีความหลากหลายของสินค้าส่งออกน้อยกว่าไทย อย่างไรก็ตาม การส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2563 ที่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนสูง
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี