** ธุรกิจสตาร์ทอัพ...เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญที่รัฐบาลพยายามจะส่งเสริมผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพของไทยให้เติบโตขึ้นทัดเทียมกับอีกหลายประเทศทั่วโลก และอยากจะเห็นสตาร์ทอัพในระดับ “ยูนิคอร์น” สัญชาติไทยเกิดขึ้นได้ในสักวัน อย่างไรก็ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ และได้รับการสนับสนุนมากกว่านี้ ซึ่งหากจะอาศัยแต่กำลังของภาครัฐฝ่ายเดียวคงไม่เพียงพอจึงต้องอาศัยแรงสนับสนุนจากภาคเอกชนขนาดใหญ่ให้เข้ามาสนับสนุนและสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพของไทยด้วยเช่นกัน
ขณะนี้ก็ต้องยอมรับว่าภาคเอกชนของไทยที่มีบทบาทที่ชัดเจนและโดดเด่นที่สุดในความพยายามที่จะพัฒนาและยกระดับธุรกิจสตาร์ทอัพของไทย ก็คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งล่าสุด เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับ Plug and Play บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพระดับโลกจาก Silicon Valley สหรัฐอเมริกา ประกาศความร่วมมือเพื่อเพิ่มศักยภาพและขับเคลื่อนนวัตกรรมที่ยั่งยืนภายใต้โครงการ “สมาร์ทซิตี้”ของประเทศไทย (Thailand Smart Cities)
ทั้งนี้ในกรอบความร่วมมือดังกล่าวครอบคลุมหลากหลายประเด็น อาทิ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การสร้างความยั่งยืน (Sustainability) การบริการทางการแพทย์ด้านดิจิทัล (Digital Health) การเชื่อมโยงและเชื่อมต่อข้อมูลทุกอย่างบนอินเตอร์เนต (Internet of Things - IoT) การสร้างพลังงานสะอาด (Clean Energy) การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง (Real Estate & Construction) โดยคาดหวังว่าความร่วมมือของเครือซีพี และ Plug and Play จะสามารถช่วยพัฒนาและผลักดันให้ธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและในต่างประเทศมาร่วมเป็นพันธมิตรกับภาคเอกชนไทย เพื่อสร้างทีมนวัตกรรมที่มีศักยภาพและความพร้อมที่จะมุ่งมั่นในการนำแนวคิดใหม่ๆ มาสร้างสรรค์และต่อยอดเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย
ดร.จอห์น เจียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญและสอดคล้องกับนโยบายของเครือฯ ที่จะพัฒนางานด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับศักยภาพของเครือซีพีในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตเคียงคู่สังคมในหมุดหมายที่จะเป็น “องค์กรแห่งนวัตกรรม”ให้เติบโตทัดเทียมบนเวทีระดับโลก ซึ่งสอดคล้องกับในวาระครบรอบ 100 ปี ที่เครือซีพีมุ่งมั่นขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความยั่งยืนด้วยนวัตกรรมที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาวะที่ดีให้กับผู้บริโภคและประชาชนในทุกประเทศที่เครือฯเข้าไปดำเนินธุรกิจผ่านประสบการณ์และองค์ความรู้ของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมบริการใหม่ๆ ผ่านโครงการความร่วมมือกับสตาร์ทอัพระดับโลก ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการวางแผนการทำงานของเครือฯที่จะสร้างมูลค่าและโอกาสการเติบโตทางธุรกิจต่อไปในอนาคต โดยที่ผ่านมา Plug and Play เป็นองค์กรแพลทฟอร์มที่มีประสบการณ์ดูแลและสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพที่แข็งแกร่งจำนวนมากในต่างประเทศ และยังมีความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลกจำนวนมากในหลากหลายธุรกิจ
“เรามีความภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ Plug and Play ในการผสานระหว่างความแข็งแกร่งของธุรกิจในเครือซีพี กับกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ จากทั่วโลกที่จะได้มีโอกาสร่วมลงทุนในอนาคต ซึ่งจะช่วยยกระดับและขยายระบบนิเวศทางดิจิทัลของทุกธุรกิจในเครือซีพี เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจ ตลอดจนบริการและโซลูชั่นต่างๆในด้านนวัตกรรมของเครือฯให้เติบโตต่อไป” ดร.จอห์น เจียง กล่าว
ขณะที่นายฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ซึ่งเป็นศูนย์กลางสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการด้านดิจิทัลในประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือกับ Plug and Play จะส่งต่อการมีส่วนร่วมระหว่างกลุ่มธุรกิจในเครือฯซีพี กับบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกเพื่อพัฒนาภารกิจด้านนวัตกรรมของเครือฯและคู่ค้า และอีกสิ่งสำคัญคือทำให้เกิดความร่วมมือในการเพิ่มศักยภาพและบ่มเพาะกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพของไทยให้เติบโตสามารถแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้
ด้าน Mr.Shawn Dehpanah รองกรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียแปฟิก Plug and Play กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับเครือซีพีในการขยายแพลตฟอร์มนวัตกรรมขององค์กร Plug and Play โดยเป้าหมายร่วมกันของทั้งสององค์กรคือความร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับองค์กรชั้นนำ ซึ่งเราพร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนและพัฒนานวัตกรรมให้กับกลุ่มธุรกิจของเครือฯอย่างเต็มกำลัง ทั้งนี้ ปัจจุบัน Plug and Play มีความร่วมมือดำเนินงานร่วมกับ บริษัท 7 แห่งของไทยในโครงการ Thailand Smart Cities ได้แก่ เครือซีพี, บมจ. กลุ่มปตท., ไทยออยล์ กรุงเทพ, ดุสิตเวชการ, K.E. Group, Filinvest DevelopmentCorporation และ บมจ.บางจากฯ
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี