วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
กรณีอาม่าอายุประมาณ 75 ปี เจ้าของที่ดินแห่งหนึ่ง ย่านนนทบุรี ถูกยึดที่ดินขายทอดตลาด และถูกโอนขายเปลี่ยนมือไปแล้วหลายทอด โดยอาม่าเจ้าของที่ดินไม่เคยรู้ตัว หรือทราบเรื่องมาก่อน สร้างความตระหนกตกใจไม่เพียงแต่ตัวอาม่าเอง แต่ยังรวมไปถึงประชาชนคนทั่วไปที่มีที่ดิน แต่ไม่ได้อาศัยอยู่บนที่ดินแปลงที่ตนเองเป็นเจ้าของ และอาจไม่ค่อยมีเวลาแวะเวียนไปดูที่ดินของตนเองอีกด้วย
อาม่าเจ้าของที่ดิน ผู้เสียหาย รายนี้ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน 1 แปลง ขนาด 1 ไร่ ตั้งอยู่แถบตำบลบ้านใหม่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งปัจจุบันราคาประเมินขึ้นสูงถึงไร่ละ 3.5 ล้านบาทที่ดินดังกล่าวมีเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน เจ้าตัวชำระภาษีท้องที่เป็นประจำทุกปี จนถึง ปี พ.ศ.2562 ยกเว้นช่วงปี พ.ศ. 2563-2565 (ช่วงระยะเวลาราวประมาณ 3 ปี)ที่ทางการยกเว้นภาษีให้เนื่องจากวิกฤตระบาดของเชื้อโควิด-19
ต่อมาในช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา อาม่าได้ไปติดต่อขอชำระภาษีท้องที่ตามปกติ พบว่าที่ดินของตนถูกบังคับคดีขายถอดตลาดไปแล้ว เมื่อตรวจสอบกับสำนักงานที่ดินพบว่า ที่ดินได้ถูกยึดบังคับคดีประมูลขายทอดตลาด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 (ทั้งที่หลังจากนั้นอาม่ายังเสียภาษีที่ดินในฐานะเจ้าของที่ดิน) เพื่อชำระหนี้ค่าเสียหาย ที่อาม่าถูกฟ้องคดีจนคดีมีคำพิพากษาถึงที่สุด ในกรณีที่อาม่าขับรถชนคนบาดเจ็บ จำนวน 400,000 บาท ทั้งที่เจ้าตัวอาม่ามิได้เป็นผู้กระทำความผิดนั้นเลย ที่ดินอาม่าได้ถูกยึดและขายทอดตลาดในราคา 900,000 บาท เมื่อชดใช้หนี้แล้วจำนวน 400,000 บาทส่วนจำนวนเงินที่เหลือจากการขายทอดตลาดอีก 500,000 บาท มีคนชื่อและนามสกุลเดียวกันกับอาม่าเจ้าของที่ดิน (แต่เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และถิ่นที่อยู่ตามทะเบียนบ้านไม่เหมือนกัน ) ได้รับเงินไปเรียบร้อย และที่สำคัญคนที่ชื่อเดียวกับอาม่าที่รับเงินส่วนที่เหลืออีก 500,000 บาท ได้เสียชีวิตไปแล้วซ้ำร้ายที่ดินแปลงดังกล่าวนี้ ได้ถูกขายต่อเปลี่ยนเจ้าของไปหลายรายจนถึงปัจจุบัน เป็นเหตุให้อาม่าต้องมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมผ่าน เพจสายไหมต้องรอด และเป็นข่าวผ่านสื่อมวลชน
กรณีความผิดพลาดเกิดขึ้น เริ่มจากการที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีชื่อ และนามสกุล เหมือนกันหรือซ้ำกับอาม่า ขับรถโดยประมาทไปชนคนอื่นได้รับความเสียหายและไม่ยอมรับผิดชอบ จนถูกผู้เสียหายฟ้องคดี และไม่ยอมรับผิดชดใช้เงิน เมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดและบังคับคดี ผู้เกี่ยวข้องได้สืบหาทรัพย์ของจำเลย และพบที่ดินของอาม่าที่มีชื่อเป็นเจ้าของชื่อเดียวกันกับจำเลย จึงเข้าใจว่าเป็นของจำเลยผู้หญิงคนนั้น เป็นเหตุให้ที่ดินของอาม่าถูกยึดขายทอดตลาดโดยที่อาม่าไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย เพราะอาม่าไม่ใช่ผู้กระทำความผิด
ในทางกฎหมายหากพบว่า เป็นนิติกรรมที่มีการแสดงเจตนาไม่ถูกต้อง นิติกรรมดังกล่าวย่อมถือเป็นโมฆกรรม (ป.พ.พ. มาตรา 152)มีผลเป็นโมฆะ เสียเปล่าตั้งแต่ต้น ไม่มีผลบังคับหรือผูกพันระหว่างบุคคลตามกฎหมาย เสียเปล่าตั้งแต่ต้น เสมือนหนึ่งมิได้มีการทำนิติกรรมนั้นกันเลย บุคคลผู้ได้ทรัพย์สินใดๆ ไป ต้องคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริง เพราะ ถือเป็นลาภมิควรได้ (ป.พ.พ. มาตรา 406)
กรณีนี้อาม่าผู้เสียหาย มีสิทธิฟ้องร้องเพิกถอนนิติกรรม เรียกที่ดินกลับคืน และเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้
อาม่าในฐานะเจ้าของที่ดินที่แท้จริง ยังมีสิทธิฟ้องเรียกคืนที่ดินได้โดยอาศัยอำนาจกรรมสิทธิ์ตามมาตรา 1336 (เป็นสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินจากผู้ไม่มีสิทธิยึดถือตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336) ซึ่งไม่มีอายุความ
ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ อาม่ามีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากทางราชการได้ แต่หากเจ้าหน้าที่กระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือทุจริต เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นส่วนตัว
ในส่วนผู้ที่ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดและซื้อต่อกันเป็นทอดๆ โดยสุจริต ไม่มีสิทธิในที่ดินของอาม่า ซึ่งเป็นไปตามหลักกฎหมายที่ว่าผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน แต่ผู้ที่ซื้อที่ดินมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่กระทำโดยประมาทเป็นทอดๆกันมา ส่วนจะเรียกร้องได้มากน้อยเพียงใด เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เจ้าของที่ดินแม้จะมีโฉนดอยู่ในมือ ไม่ควรชะล่าใจ ควรหมั่นตรวจสอบ และดูแลที่ดินของตนเองอยู่เสมอ

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี