“จับตาความคืบหน้าเจรจาการค้าโลก “

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)เปิดมุมมองบวกเล็กน้อยกับแนวโน้มดัชนี SET เดือนมิถุนายน ด้วยเหตุผลข้อแรก สื่อหลายสำนักรายงานว่าประธานาธิบดี Trump น่าจะพบกับประธานาธิบดีสีของจีนเร็วๆนี้เราจึงเชื่อว่าน่าจะเห็นความคืบหน้าข้อตกลงทางการค้า ข้อที่สอง ความกังวลเกี่ยวกับอันดับเครดิตของไทยน่าจะลดลง หลังS&P คงอันดับเครดิตไทยไว้ที่ BBB+ และมองแนวโน้ม stable เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน แต่นักลงทุนควรเตรียมรับความผันผวนของตลาดจากปัจจัยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีต่างตอบแทนซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย ขณะที่ประธานาธิบดี Trump ยังเปลี่ยนนโยบายกลับไปกลับมา

หุ้นเด่นเดือนมิถุนายน: PTTGC, TOP, MINT, OSP และ GFPT

PTTGC: เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะฟื้นตัวใน 2Q68F เนื่องจาก i) อีเทนที่ใช้เป็น feedstock เพิ่มเล็กน้อย ii) คาดว่าค่าการกลั่นจะดีขึ้น ตาม spread ของน้ำมันเครื่องบิน และ ของน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้น QTD iii) spread ของ HDPE เพิ่มขึ้น QTD โดยเพิ่มขึ้น 21% QoQ iv) spread ของ PX และ BZ ฟื้นตัวขึ้น  v) ส่วนแบ่งผลขาดทุนจากโครงการ Vencorex ลดลง

TOP: เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2568F เป็น 35.00 บาท จาก 28.50 บาท เพื่อสะท้อนความคืบหน้าโครงการ CFP ที่เกิดขึ้นใหม่   เรายังประมาณการอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 6.2% ในปี 2568F และ 10.5% ในปี 2569F โดยอิงจากราคาหุ้นปัจจุบัน

MINT: กำไรปกติของ MINT ใน 1Q68 อยู่ที่ 50 ล้านบาทดีขึ้นจากที่ขาดทุนปกติ 352 ล้านบาทใน 1Q67 แต่ลดลง 98.2% QoQ ผลประกอบการออกมาดีกว่าประมาณการเราที่ 33 ล้านบาท และดีกว่า  Bloomberg consensus ที่คาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 64 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มใน 2Q68F ผลงานน่าจะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยได้แรงหนุนจากฤดูท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งในยุโรป

OSP: แนวโน้ม 2Q68F ดูดีขึ้นคาดว่าอย่างน้อยกำไรน่าจะทรงตัว QoQ และ เพิ่มขึ้น YoY จากที่ก่อนนี้คาดว่ากำไร1Q68 จะเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบปี  GPM น่าจะยังแข็งแกร่งที่ 38–39% จากการคุมต้นทุน และ โครงสร้างยอดขายดี

GFPT: ถึงแม้ราคาหุ้นปัจจุบันจะเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมาย consensus อีกไม่มากแล้ว แต่เรามองว่ามีปัจจัยบวกในระยะสั้น จากการที่กลุ่มประเทศหลัก เช่น จีน, ญี่ปุ่น และ EU ห้ามนำเข้าไก่จากบราซิลเป็นเวลา 60 วันเพราะโรคไข้หวัดนกระบาด

ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)