ผู้เขียนเพิ่งกลับจากเดินสายไปวอชิงตัน ดีซี ไม่ได้เป็นบุคคลสำคัญแต่อย่างใด แต่ที่นี่นอกจากจะเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญอย่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ในเครือสมิธโซเนี่ยน ซึ่งเอาแค่ในเครือก็เดินเที่ยวไม่ทั่วในหนึ่งอาทิตย์แล้ว ที่ดีงามพระรามเก้าคือ ทุกแห่งเข้าฟรี
คนที่อาศัยในอเมริกาจะรู้ว่า ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่นี่แพงเอาเรื่อง การได้เข้าฟรีคือเรื่องดีงามสามโลก นอกจากมิวเซียมในเครือสมิธโซเนี่ยนแล้ว ยังมีมิวเซียมอีกล้านเจ็ด ที่ดำเนินงานโดยเอกชน อย่างสปายมิวเซียม นิวส์เซียม มิวเซียมของนิตยสารเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิค วอชิงตันจึงถือเป็นสวรรค์ของคนรักมิวเซียม
ช่วงอาทิตย์นี้ไม่ค่อยมีข่าวอะไรนัก เพราะทุกคนจดจ่อกับพายุเฮอริเคนโดเรียนที่พัดอู้ๆ ถล่มบาฮาม่าแล้วพุ่งตูมใส่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้อย่างฟลอริด้า สถานีทุกช่องรายงานถี่ยิบ ป่าวประกาศให้ผู้คนที่จะได้รับผลกระทบเตรียมกักตุนอาหารและน้ำ รวมทั้งหาไม้อัดมาตอกปิดหน้าต่างกระจกด้วย
ท่ามกลางพายุกระหน่ำ กลับมีข่าวเกี่ยวกับอเมริกาไปโผล่แถวฮ่องกงแทน อันสืบเนื่องมาจากการประท้วงในฮ่องกงที่ยังลากยาวไม่เลิกราจนวันนี้ ใครที่พอจำได้คงเคยเห็นอาตี๋อาหมวย ยุวชนฮ่องกงโบกธงอเมริกันไสว พลางเรียกร้องให้อเมริกามามอบเสรีภาพให้ฮ่องกง ขณะที่หนึ่งในแกนนำ นาธาน หล่อ ก็หนีไปทำหล่ออยู่ในมหาวิทยาลัยเยลอย่างมีเงื่อนงำว่า เข้าไปเรียนได้อย่างไร
ไม่รู้ไปโดนตัวไหนมา เห็นขนาดนี้แล้ว อาตี๋อาหมวยก็ยังปักหลักชุมนุมประท้วงกันต่อ ล่าสุดโจชัว หว่อง โผล่ไปกระทำการหว่องที่ไต้หวัน พยายามปลุกระดมให้ลุกมาต่อต้านจีนแผ่นดินใหญ่ ถือเป็นการกระทืบตีนพญามังกรอย่างแรง พยายามยั่วยุสุดพลังเพื่อให้อาเฮียสียั๊วะแล้วส่งกองกำลังมาเลี๊ยะพะเหมือนคราวเทียนอันเหมิน แต่พญามังกรก็ยังคงจิบชาจีน พลางผิวปากเพลงเหมยฮัวเบาๆ
แต่จิบชาได้แค่ครึ่งจอก พญามังกรก็ลุกขึ้นคำรามใส่ลุงแซมบอกให้หยุดแส่เสียที กลางอาทิตย์ นางแครี่ ลัม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงยืนยันว่าจะถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเป็นต้นตอของการประท้วงยืดเยื้อ แต่อาตี๋อาหมวยก็ยังไม่พอใจ บอกว่า “สายไปเสียแล้ว” โดยยืนยันจะประท้วงต่อ พญามังกรถึงกับวางจอกน้ำชา แล้วชี้นิ้วไปที่บ้านลุงแซมว่า
“ลื้อนี่เองที่เป็นมือที่มองไม่เห็น อยู่เบื้องหลังสถานการณ์ความไม่สงบ เพาะบ่มยุวชนชังชาติจนเต็มฮ่องกง”
ตาลุงผมเป๋ได้ทีขี่แพะไล่ด้วยการคิดแผนแทรกแซงต่อเนื่อง ในขณะที่นางแนนซี่ เปโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคเดโมแครตก็เสนอหน้าแถลงว่า สมาชิกสภาคองเกรสกำลังร่วมมือกันทั้งสองพรรคในการหาทางเดินหน้าร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง เพื่อเน้นย้ำของพันธสัญญาขอบสหรัฐฯต่อประชาธิปไตย, สิทธิมนุษยชนและหลักนิติรัฐ ยามเผชิญกับการปราบปรามของปักกิ่ง
ดอกนี้เหมือนมีดเสียบฉึกกลางหลังมังกรจนเต้นงิ้ว หากจะให้บรรยายถึงสรุปได้แค่คำเดียวสั้นๆ ว่า “เสือก” นั่นเอง แต่โดยมารยาททางการทูต พญามังกรกลืนเลือด แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเลือดตัวเองหรือเลือดหมูต้มเจรจากับลุงแซมว่า
“อั๊วขอให้สภาคองเกรสของลื้อหยุดผลักดันร่างกฎหมายว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงซะ เพราะว่าเรื่องในฮ่องกงไม่เกี่ยวอะไรกับพวกลื้อเลย”
เกิ้ง ฉ่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า อเมริกาควรหยุดแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง เพราะถือเป็นเรื่องกิจการภายในของจีน กองกำลังต่างชาติหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาแทรกแซง
อเมริกาทำแบบนี้กับประเทศอื่นมานานแล้ว และยังทำต่อไปด้วยการส่งออกผ้าห่อผียี่ห้อประชาธิปไตย หนนี้ก็เหมือนกันที่ใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นข้ออ้างสำหรับแทรกแซงกิจการภายในของจีน แต่จีนต้องไม่หลงกลและอดทนต่อการยั่วยุ เพราะหากไม่มีการปราบปรามแบบเทียนอันเหมิน ลุงแซมก็ไม่สามารถแทกแซงได้เต็มที่นัก
แต่ที่ฮากว่านั้นคือกระทรวงการต่างประเทศมะริกัน ออกประกาศไปถึงอั้งม้อบริษัทอเมริกันในฮ่องกงว่า อย่าไปเชื้อ..อย่าไปเชื่ออาเฮียสีนะ เธอ ที่บอกว่าพวกเราชาวอเมริกันอยู่ข้างหลังม็อบฮ่องกง โถ..น่ารักน่าเอ็นดูจังเลย ชาวโลกรู้กันหมดแล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังม็อบฮ่องกง จะยกเว้นก็แต่อเมริกันนี่แหละที่ไร้เดียงสาที่สุด
พอเห็นพญามังกรพ่นไฟใส่ลุงแซม พวกยุวชนชังชาติก็ขยับทันที ด้วยการตะลุมบอนกับหมาต๋า แล้วเผา
โน่นเผานี่บนถนนยังกะงานกงเต๊กเตี่ย จัดหนักด้วยการทำลายกระจกทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินเสียหาย แถมจุดไฟเผาให้วอดวายอีกต่างหาก สรุปว่าสถานีรถใต้ดินเป็นปรปักษ์กับประชาธิปไตยสินะ ถึงได้โดนเผา ร้อนถึงตำรวจต้องไปปราบจราจล แต่จากคลิปที่เห็นคืออาหมาต๋าโดนปราบเสียเอง เพราะมีแต่สเปรย์ฉีดใส่ แต่อาตี๋อาหมวยช่วยกันระดมฟาดไม่ยั้งด้วยท่อนเหล็กบ้าง ด้ามร่มบ้าง บางคนก็มีปืนพก จนต้องเพิ่มกำลังตำรวจไปควบคุมสถานการณ์
ทำลายจนสาแก่ใจแล้ว บรรดายุวชนชังชาติก็เดินหน้าเริ่ดไปสถานทูตอเมริกา ผู้ประท้วงหลายพันคนโบกธงชาติอเมริกา พร้อมกับร้องเพลง สตาร์-สแปงเกิลด์ แบนเนอร์ (Star-Spangled Banner) ซึ่งเป็นเพลงชาติอเมริกา พร้อมกับร้องขอให้ตาลุงผมเป๋ โดนัลด์ ทรัมป์ ช่วยปลดปล่อยเกาะฮ่องกงให้เป็นอิสระ เดี๋ยวนะ..เป็นอิสระจากอะไรล่ะ อาตี๋ ในเมื่อฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีนมานานนับพันปีแล้ว แค่ให้อังกฤษเช่าแค่ร้อยปี ตี๋ก็ลืมรากเหง้าเสียสิ้นว่าตนเองกินโจ๊ก ไม่ได้กินแฮมเบอร์เกอร์
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มีการทำโพลออกมา โดย University of Hong Kong (HKU) ก่อนการประท้วง ผลคือชาวฮ่องกง 53% ระบุว่าตนเองเป็น "ชาวฮ่องกง" ไม่ใช่ชาวจีน และเมื่อถามว่าภูมิใจในการเป็นพลเมืองจีนหรือไม่ ร้อยละ 71 ตอบว่า ไม่
ระหว่างการชุมนุมโบกธงและร้องเพลงชาติอเมริกา มีการสัมภาษณ์ยุวชนชังชาติรายหนึ่ง ซึ่งตอบอย่างหน้าชื่นตาบานว่า
“เราต้องการให้รัฐบาลสหรัฐฯมอบประชาธิปไตยให้ฮ่องกง"
อ่านข่าวถึงตรงนี้แล้วนึกถึงนักการเมืองไทยรายหนึ่ง ที่ลงทุนเดินทางไปสร้างภาพถึงอเมริกา แถมจ้างนักข่าวอเมริกันบางสำนักให้สัมภาษณ์ปลอมๆ เอาไว้หลอกสาวก ตอนหนึ่งในบทสัมภาษณ์คือร้องขอให้รัฐบาลสหรัฐฯหนุนหลัง เพื่อช่วยสร้างประชาธิปไตยให้ไทย โดยให้สัมภาษณ์ว่า
“ประเทศไทยตอนนี้อยู่ในระบบประชาธิปไตยจอมปลอม และต้องการให้อเมริกาเข้ามาช่วยทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตยอีกครั้ง"
แหม..ฟังดูคุ้นๆ นะกับปรากฎการณ์ยุวชนชังชาติฮ่องกงโบกธงอเมริกันเนี่ย พอมีการจี้ถามว่าเมื่อไหร่คลิปการสัมภาษณ์จะออกอากาศในอเมริกา พ่อส้มหวานก็ไม่ยอมตอบแต่อย่างใด กลับแถไปพูดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญแทน
ลองหลับตานึกภาพอาตี๋อาหมวยคุกเข่า โขกหัวกับพื้น พลางวิงวอน “ท่านพ่อ โปรดยื่นมือช่วยข้าด้วย” แบบหนังจีนแล้วรู้สึกพิกล อ้อนวอนลุงแซมราวกับเป็นพ่อบังเกิดเกล้า ที่จริงๆ แล้วก็ต้องการยั่วยุอาเฮียสีด้วยนั่นแหละ เมื่อไหร่ก็ตามที่อาเฮียสีกระแทกจอกน้ำชาแล้วสั่งเลี๊ยะพะ ส่งกองกำลังไปจัดหนักในฮ่องกง วันนั้นลุงแซมคงถือโอกาสแทรกแซง เพราะแผนที่เสี้ยมยุวชนชังชาติบรรลุผลสำเร็จแล้ว
หากบรรดาอาตี๋อาหมวยผู้ชักศึกเข้าบ้าน หลงผิดคิดว่าลุงแซมเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยล่ะก็ คิดผิดคิดใหม่ได้นะจ๊ะ เพราะลุงแซมไม่เคยหวังดีกับชาติไหนอย่างแท้จริง อีกอย่าง อย่าคิดว่าจะง่ายดายเหมือนกลืนโจ๊กหมู อเมริกาต้องฟังมติสหประชาชาติ ซึ่งจีนยืนขวางลำอยู่ในนั้น และพี่หมีขาวคงอยู่ข้างพญามังกร อย่าหวังว่าพระเอกเคาบอยอเมริกันจะยอมมาสู้เพื่อกอบกู้เชิดชูเสรีภาพให้ ฝันไปเถอะ หนู
ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่ นอกจากหมีแพนด้า ชาติตะวันตกนำโดยลุงแซมหยิบยกเรื่องประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ความเหลื่อมล้ำเป็นแค่ข้ออ้าง ในการยืนแฝงเงาอยู่ข้างหลังการชุมนุมประท้วง พยายามเสี้ยมคนจีนให้ตีกันเอง เพื่อจุดกระแสต่อต้านปักกิ่ง ยั่วยุให้เฮียสีใช้กำลังทหารปราบม็อบฮ่องกง จากนั้นจะได้มีข้ออ้างสารพัดในการรุมกินโต๊ะนั่นเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี