น้ำตาไหลรายวันเลยทีเดียว กับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้อเมริกันบางส่วนเลยรักบ้านอยู่ติดบ้านไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะบินไปนั่นนี่หรือขับรถไปเที่ยวไหนต่อไหนก็ต้องเกรงใจกระเป๋าสตางค์บ้าง ราคาน้ำมันอาทิตย์ก่อนว่าหนักแล้วอาทิตย์นี้หนักกว่า เรียกว่าปากอ้าตาค้างทั่วทั้งประเทศ
อาทิตย์ที่แล้วเป็นอาทิตย์ที่อเมริกันฉลองวันหยุดยาวเนื่องเพราะเป็นวันรำลึกทหารในสงคราม (Memorial Day) ซึ่งเป็นช่วงที่อเมริกันเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยว เพราะเริ่มต้นฤดูร้อนแต่ดูราคาน้ำมันหน้าปั๊ม แล้วถอนใจ น้ำมันเบนซินธรรมดา เพิ่มขึ้นเป็น 4.60 ดอลลาร์ต่อแกลลอน นี่คือราคากลาง
อย่างที่เคยเขียนเล่าเสมอว่าราคาค่าครองชีพแต่ละรัฐแตกต่างกัน ในรัฐที่ค่าครองชีพสูงอย่างแคลิฟอร์เนีย ราคาเบนซินแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ เกือบๆ 6.08 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ส่วนฮาวายและวอชิงตัน ก็ทุบสถิติสูงสุดของแต่ละรัฐเช่นกัน เฉลี่ยแล้ว 5.43 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ราคาดีเซลยังแพงนรกแตก ค่าเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 5.53 ดอลลาร์ต่อแกลลอน พอกระทบถึงกระเป๋าสตางค์ทุกสายตาก็เพ่งไปที่ท่านผู้นำ ลุงโจ ไบเดน ลุงแกให้เหตุผลว่า ไอไม่เกี่ยวว้อย ไอ้ที่แพงนี่คือผลจากการรุกรานยูเครนของไอ้หมีขาว ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูง เล่นเอาพลเมืองอเมริกันสรรเสริญไบเดนกันเป็นแถว แม้แต่พวกที่โหวตให้ลุง
จำตัวเลขนี้ไว้ ตอนนั้นคิดว่านี่คือแตะระดับสูงสุดแล้วแต่พอเห็นราคาน้ำมันอาทิตย์นี้ต้องยกมือทาบอก ร้องโอ้มายก็อตหลอดบุดด้า ราคาเบนซินทุบสถติสูงสุดตลอดกาลอีกรอบ แตะระดับ 4.81 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ท่องไว้ว่านี่คือราคากลาง
ราคาแต่ละรัฐอาจแพงกว่านี้ แถวบ้านผู้เขียนแตะที่ 4.89 ดอลลาร์เลยแหละ อยู่อเมริกามานานเพิ่งเคยเจอน้ำมันแพง
เป็นบ้าก็ตอนนี้เอง แคลิฟอร์เนียครองแชมป์ตามเคย ราคาเบนซินแพงสุด ซึ่งเวลานี้จ่าย 6.29 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
จากข้อมูลของสมาคมรถยนต์แห่งอเมริกา (AAA) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ตรวจสอบราคาตามปั๊มน้ำมันมากกว่า 60,000 แห่งทั่วอเมริกา พบว่าราคาเบนซินพุ่งขึ้นมาเท่าตัวนับตั้งแต่ โจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี สิ้นเดือนมกราคม 2021 สัปดาห์แรกในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดน ราคาเบนซินต่อแกลลอนอยู่ที่แค่ 2.39 ดอลลาร์เท่านั้น ตอนนั้นทะยานพรวดแบบอั้นไม่อยู่ แล้วดูทรงแล้วอาจจะแพงกว่านี้ในอนาคต
ทุกสายตาหันไปมองลุงโจอีกหนว่า เอ้า..ลุ๊ง จะเอาไงดีล่ะทีนี้ ลุงโจ ไบเดน ให้คำตอบอย่างน่ารักมากว่า ในระยะสั้นนี้ดูเหมือนรัฐบาลจะไม่สามารถหาทางลดราคาเบนซินในประเทศได้เพียงพอ แม้ได้พยายามต่างๆ แล้วก็ตาม อ้าว..แล้วพลเมืองจะเอาไงดี ดำดินหรือว่ายน้ำไปรึไง
อเมริกาก็ไม่แตกต่างไปจากชาติอื่น ที่พอน้ำมันแพง ข้าวของราคาสินค้าก็ขยับตาม ดัชนีชี้วัดแบบบ้านๆ ที่ไม่ต้องดูอื่นไกลเลยคือ ทุกเมืองจะมีห้างประเภทหนึ่งที่ขายอาหารสดแห่งมีคุณภาพ แต่ไม่ใช่สินค่าแบรนด์นิยมที่โฆษณาทางทีวี ห้างที่ว่านี้ขายของกินต่างๆ ที่เรียกว่า “ออฟแบรนด์” แต่คุณภาพก็ถือว่าโอเค
ร้านพวกนี้มักไม่ค่อยแน่น เพราะอเมริกันแห่ไปซื้อของห้างอื่นๆ การไปช้อปที่นี่แลกกับความไม่สะดวกต่างๆ เช่น
รถเข็นไม่ฟรี ต้องหยอดเหรียญ 25 เซนต์ แต่เราจะได้คืนถ้าเอารถเข็นไปคืนที่จอด และไม่มีถุงพลาสติกให้ ให้เอาถุงไปเองหรือเอาลังเปล่าในห้างนั่นแหละใส่ของกลับไป
อาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้เขียนแวะไปสำรวจห้างที่ว่า ปรากฏว่าพอห้างเปิดเก้าโมงปุ๊บ คนแห่กรูเข้าไปซื้อของแน่นห้าง เพราะอาหารถูกกว่าห้างอื่น ซึ่งเป็นเรื่องประหลาดที่ห้างแน่นในตอนเช้าวันอาทิตย์แบบนี้ ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มานานแล้ว
นอกจากน้ำมันแพงกับสินค้าแพงแล้ว ช่วงนี้จะไปไหนมาไหนยังต้องระวังเนื้อตัว เพราะไม่รู้ว่าจะได้รับกระสุนฟรี
ตอนไหน ช่วงสิ้นเดือนพค.เกิดการกราดยิงทั้งอาทิตย์ เกิดทั้งในห้าง โรงเรียน โบสถ์ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ คือเกิดการ
กราดยิงใน รพ.เหตุระทึกดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเซนต์ฟรานซิส ในรัฐโอกลาโฮม่า ผู้ต้องสงสัยซึ่งใช้ปืนไรเฟิลและปืนพกเป็นอาวุธตายไป 4 ราย คนร้ายน่าจะยิงตัวเองตาย คือตอนนี้ไม่ว่าที่ไหนก็เกิดเรื่องร้ายได้ทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่โรงพยาบาลสรุปแล้วเราสามารถไปไหนได้อย่างปลอดภัยได้บ้าง โรงเรียน โบสถ์ ร้านทำเล็บ ห้าง โรงพยาบาล ดูเหมือนจะเป็นพื้นที่
ไม่ปลอดภัยไปแล้ว
ความลำบากใจของการเขียนคอลัมน์นี้ประการหนึ่งคือ ตอนที่ตาลุงผมเป๋ โดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี ผู้เขียน
แตะความไม่ชอบมาพากลในการบริหารของทรัมป์ บรรดาผู้สนับสนุนทรัมป์ที่เป็นคนไทยแห่มาถล่มพื้นที่ส่วนตัวของ
ผู้เขียน
พอลุงโจ ไบเดนมารับช่วงต่อ แม้จะเป็นประธานาธิบดีที่ผู้เขียนโหวตให้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเห็นดีเห็นงามกับลุงแกทุกเรื่อง เลยโดนบรรดาผู้รักเดโมแครตเข้ามากระแนะกระแหนว่าผู้เขียนคงดูฟอกซ์นิวส์มากเกินไปจนวิพากษ์วิจารณ์โจ ไบเดน อยู่ตลอด พอทีเถอะสำหรับอคติแบบรักใครแล้วแตะไม่ได้นี่
น่าเห็นใจลุงโจที่หลายสิ่งหลายอย่างประดังเข้ามาทำให้คะแนนนิยมร่วงกราว นอกจากเรื่องสงครามยูเครน น้ำมันแพงแล้วยังเจอเรื่องนมผงขาดตลาด ภาพฝันที่ลุงโจเคยสัญญาว่าจะมาเยียวยาประเทศที่บอบช้ำจากทรัมป์เลยหายวับกับตา
เรื่องนมเด็ก แม้ต้นตอปัญหาจะไม่ได้มาจากลุงโจก็ตาม หากเป็นเหตุสุดวิสัย แต่สำหรับอเมริกันแล้ว ครอบครัวและลูกๆ คือเรื่องสำคัญที่สุด พอลุงโจแก้ไขปัญหานี้ได้ไม่ทันใจ แถมน้ำมันแพง อาหารแพง โน่นนี่ การกราดยิงสารพัด ส่งผลให้คะแนนดิ่งเหว คิดว่าสมัยหน้าคงไม่มีแล้วสำหรับลุง เดโมแครตเตรียมหาว่าที่ผู้ชิงตำแหน่งมาแทนลุงเลย เพราะฝ่ายรีพับลิกัน ตาลุงผมเป๋เริ่มเสนอหน้าวับๆ แวมๆ หาเสียงเนียนๆ อีกแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี