นึกว่าลุงผมเป๋จะเข็ด แต่ดูทรงแล้วยังอยากเป็นประธานาธิบดีอีกคาดว่าติดใจ อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯประกาศตัวลงสู้ศึกชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวในปี 2024 อย่างเป็นทางการทั้งที่ผลการเลือกตั้งกลางเทอมไม่ค่อยดีนักในส่วนพรรครีพับลิกันก็เข้าใจนะ ความอยากไม่เข้าใครออกใคร
งานนี้แค้นฝังหุ่น ตาลุงผมเป๋คนมีเมียสวยประกาศในวัย 76 ปี ว่าจะรีรันเพื่อทำศึก “รีแมทช์” ช้างชนลากับ โจ ไบเดน
ปกติมีแต่ช้างชนช้าง แต่เคสนี้คงต้องบอกว่าช้างชนลาเพราะสัตว์ทั้งสองเป็นสัญลักษณ์ของสองพรรคใหญ่ในอเมริกา
ตาลุงผมเป๋ยังย้ำจุดเดิมว่าจะกลับมาเพื่อทำอเมริกาให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมและยิ่งใหญ่อีกครั้ง แน่ใจเหรอ สี่ปีก่อนนี่ก็ยับเยินเอาการผู้ช่วยทรัมป์ยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐบาลสหรัฐฯ(US Federal Election Commission) พร้อมกับตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ที่ใช้ชื่อว่า “Donald J. Trump for President 2024” คำปราศรัยของ ทรัมป์ เน้นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลไบเดนและอวดอ้างไปถึงความสำเร็จเชิงนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตนทำไว้
ที่ลุงทรัมป์แกรีบร้อนลนลานออกมาประกาศตัวแบบนี้ไม่ใช่อะไรที่ไหนคือลุงอยากออกมาประกาศศักดาข่มขวัญคู่แข่ง
พรรคตัวเองซึ่งก็ไม่ได้ไกลตัวลุงเล้ยยยย คนหนึ่งก็คืออดีตเด็กสร้างอีกคนก็คืออดีตรองประธานาธิบดีที่ลุงเลือกเองกับมือ
นั่นแหละ
ข่าวรายงานว่าทรัมป์ต้องการข่มขวัญคู่แข่งชิงตัวแทนพรรครีพับลิกันคนอื่น เช่น รอน เดอแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา หรือแม้กระทั่ง ไมค์ เพนซ์ ซึ่งเป็นอดีตรองประธานาธิบดีของตนเอง
การประกาศตัวลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯของทรัมป์เกิดขึ้นท่ามกลางบาดแผลและความด่างพร้อย เช่น ถูกสอบสวนเรื่องการครอบครองเอกสารของรัฐบาลหลังจากที่พ้นตำแหน่งประธานาธิบดีแถมยังถูกสภาคองเกรสสอบสวนจากกรณีที่ยุยง
ให้ผู้สนับสนุนบุกเข้าไปก่อจลาจลในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ปี 2021แต่ตาลุงผมเป๋ทรัมป์อ้างว่ากระบวนการสอบสวนเหล่านี้เป็นเรื่องการเมืองและยืนยันว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไรทั้งสิ้น
ผลสำรวจเอ็กซิตโพลโดย Edison Research พบว่า ชาวอเมริกันที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอม 7 ใน 10 คนมองว่าไบเดน “ไม่สมควร” ที่จะลงสมัครประธานาธิบดีอีกสมัย ขณะที่ 6 ใน 10 คน ตอบว่ามีมุมมองที่ไม่ค่อยดีต่อทรัมป์
ที่ฮาคือลุงโดนลูกสาวกับลูกเขยเทเรียบร้อยแล้วจ้า ทรัมป์ พยายามโน้มน้าวให้อิวานกา ลูกสาวคนโต และเจเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยกลับมาขึ้นเวทีหาเสียงพร้อมกับตนเองอีกครั้งในวันที่ประกาศชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี แต่ปรากฏว่าทั้งลูกสาวและลูกเขยไม่เอาด้วย
บอกตรงๆ นะ ว่าภาพม็อบที่ลุงทรัมป์หนุนบุกรัฐสภายังเป็นภาพจำฝังใจอยู่เลย เพราะเพิ่งผ่านมาไม่นานนี้เอง
ตอนนั้นตาลุงผมเป๋หัวร้อน ปลุกระดมรัวๆ ขึ้นเวทีปลุกเร้าบรรดาผู้สนับสนุนใกล้ทำเนียบขาวพูดย้ำไปมาว่าตัวเองนั้นถูกโกงชัยชนะในการเลือกตั้งพร้อมทั้งยุม็อบแห่ไปที่อาคารรัฐสภาซึ่งเป็นสถานที่สภาคองเกรสกำลังประชุมรับรอง โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่
กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์หลายพันคนเต็มไปด้วยความโกรธแค้นภายหลังฟังคำปลุกระดมของทรัมป์ เลยยกขบวนไปยังอาคารรัฐสภาบุกฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่จนเข้าไปภายในอาคารห้องทำงานและห้องประชุมสภาได้ ทั้งนี้เพราะต้องการขัดขวางการประชุมลงมติของสมาชิกรัฐสภาเพื่อรับรองผลคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งจากมลรัฐต่างๆ ว่า โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตคือผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง 306 ต่อ 232 คะแนน
ผู้สนับสนุนทรัมป์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ บางคนทำลายข้าวของทุบกระจกแตก ขณะที่ผู้ก่อจลาจลคนอื่นๆ ปีนอัฒจันทร์ ที่จัดไว้เพื่อรองรับพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของไบเดนพร้อมกับป้ายข้อความว่า “พวกเราประชาชนจะทำให้ ดี.ซี.คุกเข่า” และ “เรามีอำนาจ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภาไม่ทักไม่ถามแต่ชักปืนเล็งใส่ม็อบแบบไม่ลังเล ขณะที่ม็อบทุบกระจกหน้าต่างแตกจากนั้นก็ยิงสวนทันที ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย หนึ่งในนั้นคือแอชลี แบ๊บบิต วัย 35 ปี อดีตทหารผ่านศึกหญิงในกองทัพอากาศซึ่งเป็นกองเชียร์ทรัมป์ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตทันทีขณะพยายามปีนช่องหน้าต่างใกล้กับห้องประชุมสภา
กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิวอชิงตัน ดี.ซี. 1,100 นาย ถูกเรียกเข้าสนับสนุนเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางระดมพลทั้งหน่วยสวาทและหน่วยทหารรบพิเศษเข้ามาควบคุมสถานการณ์รุนแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยปราบจลาจล
เข้าเคลียร์พื้นที่พบไปป์บอมบ์ 2 ลูก ใกล้บริเวณสนามหญ้าในอาคารรัฐสภานอกจากนั้นยังพบรถกระบะเต็มไปด้วยปืนยาวหลายกระบอกและระเบิดมือหลายลูกด้วย
สภาคองเกรสตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ชุลมุนนองเลือด
ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนรวมทั้งคำให้การของคนในม็อบที่บอกว่าพวกตนเดินทางจากวอชิงตัน ดี.ซี. ตามที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์บอกให้มา
กระบวนการพิจารณาคดีผ่านไปแล้วเกือบปีทางคณะกรรมการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องเกือบ 100 คน ไปให้ปากคำมีการสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ กว่า 1,000 ครั้ง รวมไปถึงทรัมป์และคนใกล้ชิดประธานคณะกรรมการฯกล่าวชัดเจนว่าทรัมป์ต้องรับผิดชอบต่อเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นทำให้คณะกรรมการต้องนำเสนอหลักฐานที่มาสนับสนุนคำกล่าวนี้พร้อมเสนอว่าทรัมป์ควรถูกดำเนินคดีอาญา คนแบบนี้น่ะหรือที่จะกลับมานำประเทศอีกสมัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี