วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568
หลังจากไทยกับเขมรปะทะกันตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 พอถึงวันที่ 27 สิงหาคม 2568ก็มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ของเขมร ประชุมกันที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ
ตามมาด้วยวันที่ 28 กรกฎาคม มีการประชุมที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างรัฐบาลไทยภายใต้การกำกับของตระกูลชิน และรัฐบาลเขมรภายใต้อำนาจตระกูลฮุน ให้หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข โดยมีนายกฯมาเลเซียเป็นตัวกลาง ในฐานะประธานอาเซียน
วันที่ 7 สิงหาคม มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) สมัยวิสามัญ ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ผู้แทน 2 ชาติลงนามบันทึกผลการประชุม
วันที่ 8 กันยายน 2568 ประชุมคณะเลขานุการ GBC ไทยและกัมพูชา ต่อด้วยการประชุม จะใช้เวลา 3 วัน คือวันที่ 7-9 กันยายน 2568 ต่อด้วยการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ
วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา
การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission : JBC) สมัยวิสามัญจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม ที่จังหวัดจันทบุรี และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดการประชุม JBC ครั้งต่อไปในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2569 ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
การประชุม GBC ไทย–กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ คนดีคนเดิมตั้งแต่รัฐบาลเพื่อไทยจนมาถึงภูมิใจไทย เป็นผู้นำตัวแทนประเทศไทย
ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 โดยนายกรัฐมนตรีของไทย, เขมร, มาเลเซีย และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ทรัมป์ ที่อุตส่าห์บินมาเอาแสง โดยพูดจาแบบประดิษฐ์คำว่า “เป็นข้อตกลงประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำผู้กล้าหาญของไทยและกัมพูชา ก่อนจะอวดตัวว่า รัฐบาลของตนสามารถยุติความขัดแย้งนี้ได้ และนั่งเซ็นสัญญาโชว์โลกกัน
ยัง...ยังไม่จบ วันที่ 31 ตุลาคม มีการประชุม RBC พิเศษ ว่าด้วยการถอนอาวุธหนักและอาวุธทำลายล้างสูง ระหว่างภูมิภาคทหารที่ 4 ของเขมร กับ กองทัพภาคที่ 2 ของไทย ที่ด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) จากทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา เข้าร่วมสังเกตการณ์ในที่ประชุม
เอาแค่ชื่อของคณะกรรมการที่เข้าประชุมชาวบ้านก็มึนแล้ว แต่เอาเถอะ เมื่อเชื่อว่าสันติภาพระหว่างไทยกับเขมรจะเกิดขึ้นได้จริงก็ประชุมกันไป เสร็จแล้วก็เซ็นๆๆๆๆ และแถลงผลการประชุมด้วยรายละเอียดต่างๆ มากมาย ประชาชนรู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบหลัง
แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้ช่วยให้คนไทยมีความสุข หรือรู้สึกปลอดโปร่งขึ้น เพราะวันที่ 31 ตุลาคม ทหารไทยยังเจอทุ่นระเบิดที่เพิ่งวางใหม่ในเขตอรัญประเทศอีก1 ทุ่น ชาวบ้านแถวชายแดนไทย-เขมรอาจจะเครียดถึงกับเซลล์มะเร็งแตกตัว
นี่ยังไม่รู้ว่า ตลอดแนวชายแดน 7 จังหวัดที่ติดกับเขมร ยังมีทุ่นระเบิดที่เขมรเข้ามาแอบวางใหม่อีกไม่รู้เท่าไหร่ และดูท่าว่า เขมรจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ อาจจะกลัวโลกประนามว่า “มึงยังไม่เลิกนิสัยเดิมนี่หว่า”
ข้อความต่างๆ ที่บันทึกในการประชุมทั้งหลายเหล่านี้ รวมถึงการถอนอาวุธยุทโธปกรณ์, ถอนกำลังพลและการทำแผนที่ภาพถ่ายโดยเทคโนโลยีใหม่ อย่าง Light Detection and Ranging (LiDAR) เพื่อสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน จะเป็นไปได้แค่ไหน?
ตัวอย่างชัดๆ จากการประชุม JBC ครั้งหลังสุด ไทยหยิบยกเรื่องการสร้างรั้วเพื่อป้องกันปัญหา ป้องกันการกระทบกระทั่งกัน และป้องกันการลักลอบเข้าเมือง ขึ้นมาพูด หารือหาวเรอกันไปสักครึ่งชั่วโมง ตัวแทนฝ่ายเขมรก็บอกว่า ไม่มีอำนาจในการหารือเรื่องการสร้างรั้วสุดท้ายเรื่องนี้ก็ถูกเขี่ยออกจากระเบียบวาระการประชุมไปแบบชิลๆ
นอกจากภาษาที่เยิ่นเย้อ ฟูมฟาย แต่ไม่รู้อนาคต จะมีใครสักคนที่อธิบายง่ายๆ กระชับ ให้ประชาชนเข้าใจและเห็นผลลัพธ์ที่เป็นบวก อยู่หรือไม่? เชื่อว่าไม่มีใครมั่นใจ แม้แต่คนใหญ่ๆ โตๆ ทั้งหลายที่เข้าประชุมก็คงไม่กล้ารับประกัน
ถ้าจะเล่นมุกถาม-ตอบแบบกวนอวัยวะใส่รองเท้าว่า
ถาม : ประเทศไทยได้อะไรจากการประชุม
ตอบ : ก็ได้ประชุมไง
ทิวา สาระจูฑะ

‘เมย์’สุดยอด!โค่นมือ5โลก-ลิ่วตัดเชือกเวิลด์ฯไฟนอล
พระวรวงศ์-องคมนตรี บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง
เลือดใหม่ ปชป.! ‘วิเวียน จุลมนต์’ลงชิงสส.‘จตุจักร หลักสี่ บางเขน’ ชูเชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์-วิศวกรรม
สหพันธ์คนไทยปกป้องสถาบันฯ แจ้งเอาผิด ฮุนเซน-ฮุนมาเนต-มาลี
ผมรับผิดเอง : 'โค้ชวัง'ขอโทษช้างศึกชวดแชมป์ซีเกมส์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี