ผู้หญิงทุกคน (ถ้าไม่พิกลหรือพิการมากๆ) มักจะสวยอยู่แล้ว
มีผู้หญิงจำนวนน้อยที่พอใจความสวยของตัวเอง
แต่มีผู้หญิงอีกจำนวนมากที่ไม่พอใจความสวยของตัวเอง อยากสวยให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
บางคนอยากสวยมากขึ้นชนิดไม่มีจุดสิ้นสุด เป็นอินฟินิตี้ไปเลย
ผู้หญิงอยากสวยเหล่านี้จึงมีความทุกข์ซ่อนเร้นอยู่ในใจ แม้บางคนจะสวยมากอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่พอใจตัวเองตระเวนไปพบแพทย์ความงามเพื่อฉีด Botox ทำเลเซอร์ใบหน้า ฉีดและใส่ซิลิโคนที่เต้านม ผ่าตัดตา จมูก ปาก หน้าท้อง ขา สะโพก ฯลฯ ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อจะให้อวัยวะเหล่านั้นสวยสมบูรณ์แบบ
ผลปรากฏออกมากลายเป็นสวยแบบแปลกๆ เหมือนดอกไม้พลาสติก และเธอก็ไม่พอใจอยู่ดี
ยังคิดซ้ำๆ ว่าตัวเองไม่สวยพอและใช้จ่ายเงินเพื่อแสวงหาวิธีทำตัวเองให้สวยขึ้นอยู่ต่อไป...ซ้ำๆ ซากๆ
แต่ผู้หญิงที่อยากสวยมากๆ น่าจะมีสาเหตุมาจาก
1. มีปมด้อยในใจคิดว่าตัวเองไม่สวย อาจเคยถูกล้อเลียน หรือเปรียบเทียบกับคนอื่นที่สวยมาแล้ว จึงคิดซ้ำๆ และฝังใจว่าตัวเองไม่สวย กลายเป็นปมด้อยในระดับจิตใต้สำนึก
2. มีจิตสำนึกอ่อนแอ เชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อทั้งหลายได้ง่าย เช่น เครื่องสำอาง แฟชั่น การเสริมความงามด้วยการผ่าตัด หรือใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
3. มีปมในระดับจิตใต้สำนึก (Unconscious) ที่ลึกมากคือคิดว่าตัวเองมีเต้านมที่เล็กกว่าของแม่และอยากแข่งขันกับแม่ เพื่อเอาชนะพ่อ (ซึ่งรักแม่) ปมนี้เรียกว่า Electra Complex
จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมผู้หญิงจึงชอบเสริมหน้าอกให้ใหญ่เพื่อจะได้เป็นผู้ชนะเพศหญิงด้วยกันว่ามีเต้านมใหญ่กว่าคนอื่น (Bigger Breast) ซึ่งเป็นปมในใจของเธอนั่นเอง
4. อยากเอาชนะเพศชาย โดยใช้ความสวยไปสยบผู้ชายให้มาสนใจหรือหลงรัก เพื่อเธอจะได้เอาชนะ แต่เธอมักไม่รักตอบผู้ชายเหล่านั้น เธอต้องการเพียงเอาชนะผู้ชายเท่านั้น
5. เป็นความย้ำคิดย้ำทำว่าตัวเองไม่สวย เป็นบุคลิกหรือความคิดที่เบี่ยงเบนจากปกติออกไป
ชอบคิดซ้ำๆ ในแง่ไม่ดีกับตัวเองว่าไม่สวย และแสวงหาผลิตภัณฑ์หรือวิธีมาทำให้สวยขึ้น
ปมในใจของผู้หญิงอยากสวยเหล่านี้ ทำให้ผู้หญิงมีความซับซ้อนในตัวเอง หาทางออกด้วยการใช้เงินซื้อสินค้าเสริมความงาม หรือทำศัลยกรรมความงามหลายๆ ครั้ง เป็นช่องทางให้นักธุรกิจใช้ความอยากสวยของผู้หญิงเหล่านี้ทำธุรกิจความงามจนเกิดผลประโยชน์ได้เงินมหาศาล
มีผู้หญิงจำนวนน้อยที่มาหาจิตแพทย์เพราะเธอเริ่มทุกข์กับชีวิตประจำวัน ซึ่งต้องมาวิเคราะห์หาสาเหตุและทำให้เธอมีจิตสำนึกที่อยากสวยแค่ปกติธรรมดาๆ ก็พอ
ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าทุกอย่างในโลกนี้เป็นอนิจจังและอนัตตา คือมีความไม่แน่นอนและยึดครองไม่ได้ยั่งยืนทั้งนั้น และสุดท้ายก็ไม่สามารถครอบครองความสวยได้ต้องแปรเปลี่ยนไปตามหลักอนัตตา บางคนแลดูน่าเกลียดหรือพิกลพิการมากกว่าเดิมเสียอีก
บอกไปเถิด...เธอไม่เชื่อหรอก
คงจะเป็นความหลงผิดสีขาว (White Delusion)ที่แม้จะทุกข์หรือจนมากขึ้นก็ยอมทนกันต่อไป และได้ผลออกมาอย่างไรก็ไม่พอใจสักที
ผมเขียนมาให้อ่านเผื่อจะเกิด สติ กันได้บ้าง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี