ผมเป็นคนที่ไม่สนับสนุนอาหารเสริม (ยกเว้นในผู้ป่วย) และการรับประทานวิตามินเสริมเลย เพราะผมเข้าใจมาเสมอว่า วิตามินต่างๆ นั้นเราได้รับอย่างเพียงพอจากการรับประทานอาหารที่ถูกต้อง ครบทุกหมวดหมู่ ตั้งแต่แป้ง โปรตีน ไขมัน พืช ผัก และผลไม้ ผมเป็นคนที่ทานอาหารทุกอย่าง โดยเฉพาะผักทุกชนิด ถั่ว เต้าหู้ นม ไข่ และทานผลไม้ทุกชนิดมากทุกๆ วัน ผมพยายามทานเนื้อน้อยโดยเฉพาะเนื้อวัว พยายามทานเนื้อปลา ไก่มากที่สุด
ไม่เคยนึกเลยว่าผมจะขาดวิตามิน วิตามินที่กล่าวถึงคือ วิตามินดี (vitamin D) ทั้งนี้เพราะผมถึงแม้เป็นแพทย์แต่ก็ไม่รู้หมด ถึงรู้บ้างก็ไม่รู้จริง นึกว่าเราออกกำลังกายมาก ชอบออกกำลังกลางแจ้งมากกว่าในบ้าน และกินอาหารทุกหมวดหมู่ดังที่กล่าวไว้แล้ว จึงไม่เคยคิดว่าจะขาดวิตามิน D
แต่มาวันหนึ่ง วันที่ผมจะต้องตรวจเลือดก่อนไปพบแพทย์ ตามนัด เลือดที่ผมตรวจก็จะเป็น CBC-Complete Blood Count หรือเม็ดเลือดแดง ขาว เกล็ดเลือด ว่าโลหิตจางไหม เม็ดเลือดขาวปกติไหม เกล็ดเลือดโอเคไหม ดูน้ำตาล รวมทั้งน้ำตาลสะสม (HbA1C) ซึ่งก็เป็นวิธีที่แพทย์จะตรวจจับว่าประชาชนหรือผู้ป่วยปฏิบัติตนเองอย่างไรใน 2-3 อาทิตย์ก่อนมาพบแพทย์ กล่าวคือ พอผู้ป่วยจะมาหาหมอจะลดอาหารที่ทำให้น้ำตาลสูง เช่น แป้ง ของหวาน น้ำหวาน ในช่วงไม่กี่วันก่อนตรวจเลือด น้ำตาลในเลือดก็จะลง แต่ HbA1C จะยังสูงอยู่ถ้าผู้ป่วยมีพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสมก่อนหน้านี้ ไขมัน(total cholesterol, triglyceride, HDL, LDL) โดย total Cholesterolควรต่ำกว่า 200 mg%, triglyceride ต่ำกว่า 150 mg%,LDL ต่ำกว่า 130 mg% หรือต่ำกว่านี้ถ้าเป็นโรคเบาหวาน หัวใจ ฯลฯHDL ควรสูงกว่า 40 mg% เพราะเป็นไขมันที่ดีที่ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ นอกจากการดูระดับไขมันทั้ง 4 ตัวแล้ว ยังควรดูอัตราส่วนไขมันรวม (total cholesterol) ต่อ HDL อัตราส่วนนี้ยิ่งต่ำยิ่งดี ควรต่ำกว่า 4 เช่น total cholesterolอาจสูง 230 (สูงเกิน 200) แต่ HDL 60 ฉะนั้นอัตราส่วน Cholesterol ต่อ HDL = 230/60 = 3.6 ซึ่งถือว่ายังดีอยู่
นอกนั้นผมยังตรวจ uric acid (ดูโรค gout) ดูโรคตับ (bilirubin ทั้ง total และ direct, alkaline phosphatase, transaminases (การอักเสบของเนื้อตับ) คือ SGOT, SGPT, albumin globulin Prothrombin Time หรือ INR ถ้ากินยาขับปัสสาวะอาจตรวจ Na, K, Cl, CO2 หรือเกลือแร่ด้วย
นอกนั้นจะตรวจอะไรแล้วแต่เราเป็นอะไร สงสัยโรคอะไร
ควรตรวจปัสสาวะ เพราะการตรวจปัสสาวะเป็นการตรวจดูโรคไตที่ง่ายที่สุด สะดวก ราคาถูก ไม่เจ็บตัว เราดูว่ามีโปรตีน เม็ดเลือดแดง ขาว ไหม
นี่เป็นสิ่งที่ผมตรวจเป็นปกติ และอื่นๆ ตามที่หมอสั่ง พอดีก่อนตรวจเลือดครั้งสุดท้าย มีลูกศิษย์ที่ขณะนี้เป็นอาจารย์เดินมาจึงถามแกว่าควรตรวจอะไรอีกไหม แกก็ตอบว่าตรวจวิตามิน D ผมไม่คิดว่าจะขาด แต่เมื่อถามแล้ว ตอบแล้ว จึงสั่งตรวจด้วย
แต่พอผลเลือดออกมา ผมแปลกใจมาก ค่าวิตามิน Dในเลือดของผม (25 OH) มีค่าเพียง 14 ng/ml เท่านั้น !?ค่าปกติควรอยู่สูงกว่า 30 ng/ml ถ้าต่ำกว่า 20 ng/ml ถือว่า insufficient (ไม่เพียงพอ) ถ้าต่ำกว่า 20 ng/ml จะเรียกว่า deficient (ขาด, บกพร่อง)
ผมแปลกใจมาก จึงไปหาข้อมูลมาอ่าน ซึ่งสมัยนี้หาอ่านได้ง่ายมากโดยไม่เสียสตางค์ ผมหาบทความมากมายมาอ่าน เรียกว่าอ่านกันหลายสิบชั่วโมง หลายวัน พอดีมีประชุมวิชาการประจำปีที่ 36 ของราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ผมไปฟัง ผศ.พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร จากรามาธิบดี บรรยายเรื่องวิตามินดี ผมสนใจมาก จึงถามท่านในห้องประชุม หลังจากนั้นโทรคุยต่อ ท่านยังได้แนะนำให้รู้จัก คุณหมอบุญส่ง (ทางด้านต่อมไร้ท่อ รามาฯ) ที่ทำงานด้านนี้จึงคุยกันถึงปัญหาของประเทศ รวมทั้งคุยกับลูกศิษย์ คุณหมอนริสร อาจารย์ Nutrition ที่จุฬาฯที่เพิ่งกลับจากนอก
รวมทั้งภายหลัง ผมได้รับเชิญจากคุณหมอปิยะวัฒน์ลูกศิษย์ที่เชี่ยวชาญทางโรคตับมาก ให้เขียนคำนิยมสำหรับหนังสือที่คุณหมอกำลังตีพิมพ์ เรื่อง Vit D กับโรคตับ จึงได้รับความรู้มากมายจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ 2 ครั้งอีกด้วย ผมเห็นความสำคัญของ Vit D และคิดว่าคนส่วนใหญ่รวมทั้งแพทย์จะไม่ค่อยรู้เรื่องวิตามิน D หรือรู้ไม่หมด รู้ไม่จริง ผมจึงขอนำมาให้พวกเรารับทราบ และผมยังได้นำไปสอดแทรกในการสอนแพทย์ประจำบ้านปี 2 ของภาควิชาอายุรศาสตร์ที่ผมสอนทุกวัน
ยังมีต่อครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี