ผมชอบอ่าน ยิ่งอ่านยิ่งพบอะไรที่น่าสนใจ เช่น Our World in Data มีอะไรที่น่าอ่าน น่าสนใจมาก เช่น ประชากรทั่วโลกในปี ค.ศ.1800มี 1,000 ล้านคน แต่ 2021 (ก.พ.2021) มี 7.85 พันล้าน อัตราการเพิ่มจาก 2.2% เป็น 1.05% ในปีนี้อายุมัธยฐานของประชากร(median age) เพิ่มจาก 22 ปี ใน ค.ศ.1970 เป็น 31 ปี และ 26% เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี 8% มากกว่า 65 ปี ในปี ค.ศ.2100 ประชากรจะเพิ่มเป็น 10.8 พันล้าน (UN) และอัตราการเพิ่มของประชากรจะเป็นศูนย์ อัตราการเจริญพันธ์ุจาก 2.5 เด็กต่อผู้หญิง เมื่อ 50 ปีที่แล้วได้ลดลงครึ่งหนึ่งในปัจจุบัน
55% ของประชากรอยู่ในเมือง เมื่อปี 1963 เพียง 34% เท่านั้นที่อยู่ในเมือง อายุขัยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 73 ปี มีเด็ก 5.5 ล้านคนที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบตายทุกปี อัตราการตายของเด็ก (child mortality อยู่ที่ 3.9%) มีประชากรทั่วโลกตาย 56 ล้านคนทุกปี9.6 ล้านคน ตายจากมะเร็งต่อปี 54% เป็นผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 70 ปีมีประชากร 8 แสนคน ฆ่าตัวตาย 58% อายุน้อยกว่า 50 ปี5 ล้านคน ตายเร็วกว่าปกติจากมลภาวะเป็นพิษ (air pollution) 3.4 ล้าน จากมลภาวะนอกบ้าน 1.6 ล้านคน จากในบ้าน (จากการหุงหาอาหารและต้องการความอบอุ่นในบ้านด้วยการเผาไม้ ฯลฯ) 8.1 ล้านคน ตายเร็วกว่าวัยอันควรจากบุหรี่ 11.8 ล้านคน ตายจากสารเสพติดที่รวมทั้งบุหรี่ แอลกอฮอล์ และยาเสพติด
13% ของผู้ใหญ่อ้วน ทำให้เกิดการตายก่อนวัยอันควรถึง 4.7 ล้านคน 2.8 ล้านคน ตายเร็วกว่าควรจากแอลกอฮอล์ 590,000 คนตายก่อนวัยอันควรจากยาเสพติด 620,000 คน ตายจากโรค malaria ซึ่ง 57% เป็นเด็กที่ต่ำกว่า 5 ปี 1.6 ล้านคน ตายจากโรคท้องร่วง และ 1 ใน 3 มีอายุต่ำกว่า 5 ปี 40,000 คน ตายจากโรคบาดทะยัก (ที่มีวัคซีนป้องกันได้ ที่พวกเราต้องฉีดกันทุก 10 ปี)
2.6 ล้านคน ตายจากโรคปอดบวม และ 1 ใน 3 อายุต่ำกว่า 5 ปี 11% ของประชากรโลกหรือ 820 ล้านคนมีสภาวะ undernourished หรือขาดอาหาร 22% มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ทำให้เด็กไม่โต (stunted) และโดยเฉลี่ยประชากรแต่ละคนกินอาหารวันละ 2,884 กิโลแคลอรี่ แต่ยังมีความไม่เท่าเทียมกัน เพราะบางคนอดอยาก แต่หลายคนกินมากเกินไป การกินกี่กิโลแคลอรี่อยู่ที่การใช้พลังงานมากหรือน้อย และรวมทั้งกรรมพันธุ์อีกด้วย เช่น เรามีอัตราการเผาผลาญที่ต่ำหรือสูงถ้าสูงกินมากก็ยังไม่อ้วน ถ้าต่ำกินนิดเดียวก็จะอ้วนง่าย ปกติคนเราอาจกินวันละ 2,000-2,500 กิโลแคลอรี่ ฯลฯ 130 ล้านคนตายจากfamine (ความอดอยาก) ใน 150 ปีที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ทั่วโลกสามารถผลิตอาหารได้มากพอสำหรับทุกๆ คน
และ 14% ของเด็กไม่ได้รับการฉีดวัคซีนที่ควรจะได้ บ้านเราโชคดีมากที่ทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีนทุกชนิดที่จำเป็น
26% ของก๊าซเรือนกระจกมาจากการผลิตอาหาร 50% ของแผ่นดินที่อยู่ได้ถูกนำมาเพื่อการเกษตร 26% ของแรงงานอยู่ในภาคเกษตร มีการผลิต 200 ล้านตัน ของปุ๋ยทุกปี เพียง 5% เท่านั้นของพลังงานในปัจจุบันนี้ที่มาจากพลังงานที่ยั่งยืน แต่อัตรานี้เพิ่มขึ้นตลอดเวลา คือ จากแสงพระอาทิตย์ ลม น้ำ ความร้อนใต้พิภพ 13% ของประชากรยังเข้าไม่ถึงไฟฟ้า 8 ล้านตันของของเสียถูกทิ้งลงทะเล (ส่วนใหญ่เป็นพลาสติก) การผลิตพลังงานได้เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าภายใน 50 ปี 86% ของการผลิตพลังงานมาจากการเผาผลาญ fossil fuels คือ ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซ 2.1 พันล้านคน เข้าไม่ถึงน้ำดื่มที่สะอาด หรือ 29% ของประชากรทั่วโลก 4.5 พันล้านคน ไม่มีการใช้ห้องสุขาที่ถูกต้องตามสุขลักษณะ หรือ 60% ของประชากรโลก 30.8% ของแผ่นดินเป็นป่า แต่ปริมาณนี้ลดลงทุกๆ ปี มีประชากรเสียชีวิตจากภัยพิบัติตามธรรมชาติ (natural disasters) ปีละ 45,000 คนต่อปี ในระยะ10 ปีที่ผ่านมา งบประมาณทางทหารมีปีละ 2.2% ของ GDP โลก 17%ของเด็กทำงาน และเส้นของความยากจนของโลกอยู่ที่ 1.9 เหรียญ US ต่อวัน ซึ่งเป็นเส้นของความยากจนที่ยากจนมากๆ 2 ใน 3 ของประชาชนมีเงินใช้จ่ายเพียงน้อยกว่า 10 เหรียญอเมริกันต่อวัน ฯลฯ
ก่อนอื่นเลย พวกเราควรจะดีใจที่เกิดมาเป็นคนไทย เรามีอาหารการกินพร้อม มากกว่าที่พวกเราจะกินหมดและยังส่งออกนอกได้อีก ซึ่งมีไม่กี่ 10 ประเทศ เคยทราบว่ามีเพียง 18 ประเทศเท่านั้นที่ผลิตอาหารพอกินและส่งออกนอก อย่างที่หลายๆ คนหลายๆ ประเทศพูด ว่า Thailand เป็นครัวโลก ทุกๆ คนจะไม่อดตายถ้าขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ “ในน้ำยังมีปลา ในนายังมีข้าว”ถ้าไม่มีการศึกษา ถ้าขยัน ฯลฯ เป็นคนรถ แม่บ้านก็ไม่อดตายแล้ว หรือเรียนภาษาอังกฤษก็เป็นไกด์นักท่องเที่ยวได้ ถ้ามีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ฯลฯ
หลายๆ คนที่อ่านข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ แล้วอาจพูดว่า “So what?!”(แล้วไง?) แต่ผมอยากให้ท่านผู้อ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้นำประเทศผู้บริหารทุกระดับ สนใจในข้อมูล และนำไปคิดต่อ ผมพูดเสมอว่า ทุกๆ คนควรมีคุณสมบัติ 4 ประการ คือ หนึ่ง ดี ดีต้องมาก่อนเก่ง สอง เก่ง สาม รอบรู้ และสี่มีสุขภาพที่ดี เกี่ยวกับข้อมูลวันนี้ถ้าพวกเรา โดยเฉพาะผู้บริหารประเทศมีความเก่ง (จริงๆ) จะต้องนำไปคิด (จะเก่งได้จะต้องมี 7 อย่าง คือ เก่งคิด คน งาน เงิน เวลา “ขาย” และฟัง) คิดเสร็จแล้วจะไปทำอะไรต่อ ฯลฯ
บ้านเราเองยังมีปัญหามาก เช่น ผู้สูงอายุ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ 2560 มีการศึกษาน้อย 5.4% เท่านั้นที่มีปริญญาตรี 68.7% จบต่ำกว่าประถมศึกษา!? 5% ของผู้เกษียณเท่านั้นที่มีอิสรภาพทางการเงิน และถึงแม้อายุยืนขึ้นแต่เต็มไปด้วยโรค ฯลฯ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี