Health หรือสุขภาพ คืออะไร WHO ให้คำนิยามของ Health ไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1948 ว่า Health คือ “Health is a state of complete physical, mental and social wellbeing and not merely the absence of disease and infirmity” หรือ “สภาวะแห่งความสมบูรณ์ทางร่างกายจิตใจ และสังคม ไม่ใช่เพียงการปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ” หรือ “สุขภาพที่ดี คือ ดีทั้งกาย ใจ สังคม และปัญญา” ที่พูดกันบ่อยๆ ในวงการแพทย์ไทย
มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนเถียงเกี่ยวกับคำนิยามของคำว่าhealth โดยเฉพาะคำว่า complete ซึ่งแปลว่า “เสร็จสมบูรณ์” แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำนิยามนี้
สำหรับผม health หรือต่อไปนี้ผมจะใช้คำว่าสุขภาพนั้นหมายถึง สภาวะที่ทั้งกาย คือ ไม่เป็นโรคทั้งภายนอกต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง, หัวใจ ตีบและอุดตัน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ฯลฯ และควรจะไม่เป็นโรคภายในร่างกายในระดับหนึ่งด้วย แต่สำหรับผม ทุกๆ คน เป็นโรคภายในร่างกายหมด เช่น ตั้งแต่เราเกิดมาหลอดเลือดทั่วร่างกายเราเริ่มตีบแล้ว ทีละเล็กละน้อย แต่ยังไม่มีอาการ คือ ยังไม่เป็นโรค “ภายนอก” จนกว่าหลอดเลือดจะตีบมากจนมีอาการ หรือตีบไม่มาก แต่ไขมันที่เกาะตามผนังหลอดเลือด (plague) แตกออกมา ก็จะทำให้มีปฏิกิริยาและมีการตีบตันของหลอดเลือดได้ ซึ่งทำให้เกิดอาการเกิดโรค หลายคนอาจมีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง หรือแม้แต่เริ่มเป็นมะเร็งแล้ว แต่ยังไม่มีอาการ จึงอาจนึกว่าตนเองยังมีสุขภาพที่ดี ฉะนั้นนี่เป็นเหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่เห็นด้วยกับคำนิยามของคำว่า Health ของ WHO โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคำว่า complete (เสร็จสมบูรณ์) แต่เอาละ โดยสรุปก็คือ สุขภาพที่ดี คือไม่เป็นโรคทั้งกาย และใจด้วย ใจต้องดีมั่นคง หนักแน่นด้วย ปัญหาทางด้านจิตเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคนเราตั้งแต่เกิดมามีปัญหาทั้งนั้น มีภาวะความกดดันตลอด ผมจึงสอนศิษย์ว่าชีวิตคือ การบริหารความเสี่ยง ต้องเดินสายกลางในชีวิต ปล่อยวางบ้าง อย่าโกรธ เกลียด โลภ ฯลฯ มาก ต้องสร้างภูมิคุ้มกันภัยอันตรายต่างๆ ต้องมีศิลปะในการดำรงชีวิต เดิมภาควิชาอายุรศาสตร์ให้ผมสอนเรื่องศิลปะในการเรียน แต่ผมสอนไป สอนไป ค่อยๆ มีความเห็น ตกผลึก ว่า ศิษย์ผมมีศิลปะในการเรียนอย่างเดียวไม่พอ ต้องพร้อมที่จะออกไปอยู่ในสังคม พบเจ้าพ่อ เจ้าแม่ต่างๆ ในต่างจังหวัด ต้องพบปะ จัดการกับคนทุกยี่ห้อ (!?) หรือทุกประเภท ดีมาก น้อย ชั่วมาก น้อย เห็นแก่ตัวฯลฯ จึงต้องรู้จักวิธีการบริหารจัดการกับคนต่างๆ เหล่านี้ให้ได้ต้องสามารถอยู่ร่วมกับคนทุกประเภท เช่น ผมได้เรียนจากหลักสูตรจิตวิทยาความมั่นคงซึ่งสอนผมดังนี้ “ต้องทำให้ศัตรูมาเป็นคนกลาง (neutral) ต้องทำให้คนกลางมาเป็นพวก” ฯลฯ ตั้งแต่เกิดมาชีวิต คือ การบริหารความเสี่ยงจริงๆ เช่น ในสมัยก่อน และรวมทั้งสมัยนี้สำหรับบางประเทศ เด็กที่เกิดมามีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตใน 7 วันแรก ในเดือนแรก ในปีแรกและ 5 ปีแรก (ขึ้นอยู่กับพ่อ แม่ แพทย์ พยาบาล ที่จะดูแลเราให้รอดพ้นช่วงวิกฤตินี้ให้ได้) แล้วต่อมาจะเสี่ยงต่อการเข้าโรงเรียนอนุบาล ประถม มัธยม อุดมศึกษา ฯลฯ เสี่ยงต่อการหางานที่ดี มีเงินเดือนที่ดี เสี่ยงต่อการหาคู่ครองที่ดี เสี่ยงต่อการมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี (5% ของผู้เกษียณเท่านั้นที่มีอิสรภาพทางการเงิน) ฉะนั้นต้องมีภูมิคุ้มกันความยากจนด้วยต้องมีความรู้ทางด้านการเงิน การลงทุน และเริ่มออม ลงทุน ตั้งแต่ทำงานเดือนแรก เสี่ยงต่อการมีปัญหาทางด้านสุขภาพที่ปัจจุบันนี้ประชาชนมีอายุยืนขึ้น แต่เต็มไปด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ป้องกันได้ ฯลฯ
ทุกๆ คนจะต้องรู้จักบริหารทางด้านจิตใจให้ดีด้วย เพราะจะมีสภาวะของความกดดันตลอดชีวิต จะทำให้เกิดความเครียด ซึมเศร้าได้ง่าย ต้องรู้จักปล่อยวางบ้าง ต้องรู้จักวางแผนที่ดีในการดำรงชีวิต จะได้เครียดน้อยหน่อย เพราะทั่วโลกมีคนฆ่าตัวตายปีละ 8 แสนคน!
เรื่องการมีสภาวะที่ดีทางสังคม ก็คือ ต้องรู้จักใช้ชีวิตในสังคม ต้องยอมรับว่าในสังคมมีคนหลากหลายชนิด ต้องเข้าได้กับทุกๆ คน ไม่ว่าจะดี หรือชั่ว ถ้าดีก็คบได้ใกล้ นานหน่อยถ้าดีน้อยก็รู้จัก แต่ต้องมี physical and social distancing!! ไว้เหมือนกับการป้องกันเชื้อ COVID-19 555!!
ฉะนั้นผมจึงเห็นด้วยว่าคำนิยามของ WHO เกี่ยวกับ health อาจจะต้องเปลี่ยนนิดหน่อยตรงคำว่า complete เพราะถ้ายังใช้คำ complete อยู่คนในโลกนี้ทุกๆ คนจะไม่มีสุขภาพที่ดีตามคำนิยาม ถึงแม้ไม่มีโรคปรากฏออกมาข้างนอกกาย
การป้องกัน หรือการบริหารความเสี่ยง หรือการสร้างภูมิคุ้มกัน ในทุกๆ เรื่องของชีวิต มีความสำคัญที่สุดครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี