Global Health Sector Strategy (GHSS, WHO) เรียกร้องให้กำจัดเชื้อไวรัสตับอักเสบจากการเป็นปัญหาทางสาธารณสุขภายใน 2030 (2573) โดยมีเป้าหมายลดจำนวนผู้ติดเชื้อลง 90% และอัตราการตายลง 65% จากปี ค.ศ.2015 Global Hepatitis Report 2017 (ซึ่งเป็นข้อมูลของปี 2015) พบว่า HBV (Hepatitis B Virus หรือไวรัสตับอักเสบบี) HCV (Hepatitis C Virus หรือไวรัสตับอักเสบซี) เป็นสาเหตุการเสียชีวิตถึง 96% ของการเสียชีวิตทั้งหมดของเชื้อไวรัสตับอักเสบ (A,B,C,D และ E) โดยในปี 2015 มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสตับ 1.34 ล้านคน จากวัณโรค 1.37 ล้านคน จาก HIV/AIDS 1.06 ล้านคน และจากมาลาเรีย 0.44 ล้านคน ซึ่งโรคทุกชนิดมีอัตราการตายลดลง ยกเว้นไวรัสตับอักเสบที่มีอัตราการตายสูงขึ้น 22% ในปี 2015 (นับจากปี 2000)
อัตราการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสตับอักเสบต่างๆ ในปี ค.ศ.2015 มีดังนี้
อัตราการตายจากเชื้อ HBV 66%, HCV 30%, HEV 3.3% และ HAV 0.8%
ในแต่ละปีจะมีการติดเชื้อ HCV ใหม่ 1.75 ล้านคน (2015) หรือ 23.7 คน/แสนคน ตาย 399,000 คน หายขาด 843,000 คนซึ่งส่วนใหญ่การติดเชื้อมาจากการใช้เข็มฉีดยาที่สกปรกฉีดยาเสพติด และประมาณ 5% เกิดจากการใช้หลอด เข็ม ที่ไม่สะอาดจากระบบสาธารณสุข (5%) ในบางประเทศ
สาเหตุการเสียชีวิตของไวรัสตับอักเสบส่วนใหญ่มาจากโรคตับอักเสบเรื้อรัง เช่น 720,000 คน จากโรคตับแข็ง(cirrhosis) 470,000 คน จากมะเร็งตับ (hepatoma)
ในปี 2515 มีคนมีเชื้อ HBV 257 ล้านคน แต่มี 9% (22 ล้านคน)เท่านั้นที่ได้รับการวินิจฉัย และ 8% (1.7 ล้านคน) ของกลุ่มนี้เท่านั้นที่ได้รับการรักษา 0.5% ของผู้ที่มีเชื้อ HBV ใช้เข็มฉีดยาเสพติด
ในปี 2515 มีคนมีเชื้อ HCV 71 ล้านคน แต่มี 20% (14 ล้านคน)เท่านั้นที่ได้รับการวินิจฉัยและ 7.4% (1.1 ล้านคน) ของกลุ่มนี้เท่านั้นที่ได้รับการรักษา 5.6 ล้านคน (8%) เป็นผู้ใช้ยาเสพติดโดยเข็มฉีด จากคน 36.7 ล้านคน ที่มี HIV 2.7 ล้านคน มี HBV 2.3 ล้านคนมี HCV ร่วมด้วย (1.3 ล้านคนใช้เข็มฉีดยาเสพติด)
เชื้อไวรัสตับอักเสบทั้งหมดมี A,B,C,D และ E ทุกตัวทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลันได้ แต่มี B,C,D เท่านั้นที่ทำให้เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรังได้
วิธีการกำจัดไวรัสตับอักเสบภายใน ค.ศ.2030 (พ.ศ.2573) คือ
1) ฉีดวัคซีนป้องกันโรค HBV (ประเทศไทยฉีดให้ฟรีแล้วตั้งแต่ 2535) ในวันแรกเกิด แต่ในปี 2015 มีการฉีดวัคซีนในวันแรกเกิดเพียง 39% ทั่วโลก
2) ป้องกันการแพร่เชื้อ HBV จากแม่สู่ลูกตอนเกิดด้วยการให้การรักษา
3)ดูแลความปลอดภัยของเลือด ซึ่งศูนย์บริการโลหิตสภากาชาดไทยมีมาตรฐานระดับสากล
4) การฉีดยาอย่างปลอดภัย (ไม่ใช้เข็มที่สกปรก หรือใช้แล้วทิ้งเลยทั้งหลอดและเข็ม)
5) Harm Reduction คือหลักการการป้องกันการแพร่เชื้อ HBV, HCV ในผู้ป่วยที่ใช้ยาเสพติดโดยเข็มฉีด เช่น นำเข็มสกปรกมาแลกเข็มที่สะอาด ฯลฯ
HAV ทำให้เป็นโรคตับอักเสบเฉียบพลันได้เท่านั้น ติดต่อได้จากอาหาร น้ำ และผู้ที่มีเชื้อ มีวัคซีนป้องกันแล้ว เป็นสาเหตุการตายถึง 11,000 คน ในปี 2015 หรือประมาณ 0.8% ของการตายทั้งหมดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบทั้งหมด
HDV เป็นไวรัสที่ไม่สมบูรณ์ (incomplete) ติดต่อได้ผ่านทางเลือด ติดในคนได้ถ้ามี HBV อยู่แล้ว 5% ของผู้ที่มีเชื้อ HBV จะมี HDV
HEV ทำให้เป็นโรคตับอักเสบเฉียบพลัน ติดต่อจากอุจจาระ-ปาก น้ำ เช่นเดียวกับ HAV ทุกปีจะมีคนติดประมาณ 20 ล้านคน แต่จะมีเพียง 3.3 ล้านคนเท่านั้นที่จะมีอาการ เสียชีวิต44,000 คน (3.3% ของการเสียชีวิตทั้งหมดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบ) อาจมีตับวาย มีวัคซีนในประเทศจีนเท่านั้น
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการส่วนน้อยเป็นตับอักเสบเฉียบพลัน
การได้เชื้อ HBV ในเด็ก เช่น ตอนเกิด จะมีโอกาสเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรังถึง 90% ถ้าได้เชื้อตอนเป็นผู้ใหญ่ 1-10% เท่านั้นที่จะมีเชื้อเรื้อรัง ส่วนเชื้อ C ได้เมื่อไหร่เรื้อรังทั้งนั้น (ประมาณ 85%) อาจมีเชื้อทั้ง B และ C ถึง 30 ปีก่อนมีอาการ ฉะนั้นต้องไปตรวจหาเชื้อว่ามีหรือไม่ จะได้รักษาตามความเหมาะสม
20% ของผู้ที่ติดเชื้อเรื้อรัง จะเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็งมะเร็งตับ ปัจจัยที่ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น คือ มีเชื้อ HIV หรือการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย
ถ้าแม่มี HBsAg (จากการตรวจเลือด ถ้าพบ HBsAg จะบอกว่ามีเชื้อ HBV) และมี HBeAg จะยิ่งทำให้เด็กมีโอกาสติดเชื้อHBV การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HBV ต้องฉีดวัคซีนในวันแรกเกิดและฉีด HBIG ด้วย ไม่ว่าจะมี HBeAg หรือไม่ ถ้ามี high viral load (มีเชื้อในปริมาณมาก) ต้องให้ยาด้วย
ถ้าแม่ไม่มี HBeAg ในเลือดโอกาสที่เด็กจะติดเชื้อ HBV จากแม่แทบเป็นศูนย์
ถ้าแม่มี HBeAg เด็กมีความเสี่ยง 20% ที่จะติดเชื้อจากแม่ถึงแม้เด็กจะได้รับวัคซีน
ถ้าแม่มีเชื้อ HBV ช่วงตั้งครรภ์ต้องรักษา แต่ใน HCV ไม่รักษาแม่ในช่วงตั้งครรภ์ เพราะยาอาจมีความเสี่ยงต่อเด็ก
ทั้งหมดเป็นข้อมูลในปี 2015 จาก WHO
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี