สมัยผม (1960 เข้าเรียนแพทย์) ถ้าจะเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างน้อยต้องมี “A” level 2 วิชา และ “O” level อีก 3 วิชา (โดย 3 วิชานี้ต้องไม่ใช่ 2 วิชาที่ได้ระดับ “A” level)ฟังดูกระจอกมากนะครับ แต่นักเรียนส่วนใหญ่มักสอบผ่าน 3 “A” level และ 5 วิชาหรือมากกว่าที่ “O” level
สมัยผมเรียกว่า “O” level GCE (อายุ 16 ปี หรือเรียนมาแล้วประมาณ 10 ปี) แต่สมัยนี้ “O” level ไม่มีแล้ว แต่เรียก GCSE หรือ General Certificate of Secondary Education แทน แต่ “A” level ยังมีอยู่
ที่ Applegarth ผมเรียน 3 วิชาที่ระดับ “A” level คือ Physics, Chemistry และ Zoology (การศึกษาสัตว์) เพราะผมไปหาข้อมูลได้ว่าจะเข้าแพทย์ปีที่ 2 ได้เลย ถ้าสอบ
“A” level 3 วิชานี้ คือ Physics, Chemistry และ Biology หรือ Zoology และเราต้องสอบผ่าน “O” level หลายๆ วิชาตามที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด และคะแนน “A” level ต้องเป็น Grade ที่มหาวิทยาลัยต้องการ ถ้าสอบได้ “A” level เพียง 2 วิชา หรือ 3 วิชาแต่ไม่ใช่วิชาที่เขาต้องการ ถ้าเขารับ จะต้องเข้าเรียนแพทย์ปีที่ 1 สมัยโน้นการเรียนแพทย์ที่อังกฤษมี 6 ปี แต่ถึงแม้เราสอบ “A” และ “O” levelได้ตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยวางไว้ เขาก็อาจยังไม่รับเราก็ได้
ที่อังกฤษเขาไม่เรียนเหมือนบ้านเรา ตามที่ผมเข้าใจ แต่ผมไม่มีประสบการณ์การเรียนที่ไทยที่ระดับสูงกว่า ม.2 (จบ ป.4แล้วขึ้น ม.1) เพราะผมเรียนที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน จบ ป.4แล้วเรียนต่อจนจบ ม.2 เท่านั้น หรือเรียน 6 ปีตั้งแต่ ป.1 แล้วผมก็ไปนอกตอนปี 1954 หรือ พ.ศ.2497 ที่อังกฤษต้องพยายามสอบ “O” level (สมัยผม) ให้ได้มากวิชาที่สุดที่จะทำได้ แต่ไม่สอบทุกวิชาที่เรียน เมื่อได้ “O” level แล้วจึงเลือกเรียนวิชาต่างๆ ที่ระดับ “A” level 2-3 วิชาตามที่มหาวิทยาลัยต้องการเช่น ถ้าเรียนแพทย์ ก็ต้องเรียน Physics, Chemistry และ Biology หรือ Zoology ถ้าเรียนคณะอื่นก็ต้องสอบวิชาอื่นๆ ฯลฯ
ที่โรงเรียนใหม่นี้ Applegarth ผมเรียน 3 วิชาทุกวัน(ครูมาทุกวัน!?) Physics, Chemistry, Zoology เหมือนกันทุกวัน (จากครู Physics มาสอนเพียง 1 ครั้งต่อ 2 สัปดาห์!? ที่โรงเรียนเก่า) มีการสอบซ้อมทุกอาทิตย์จนวิชา Physics จากที่ผมไม่เคยรู้เรื่อง สอบได้เพียง 14% ในโรงเรียนก่อน คะแนนผมค่อยๆ ขยับขึ้นจนในที่สุดได้ 70-80% ตลอดเวลา (ถือว่าเป็นระดับ Grade A แล้ว) ผมยังจำได้ดีว่าครู Zoology เป็นผู้หญิง สอนดีมาก ดูผมผ่าสัตว์ต่างๆ และยังชมผมว่าผมเก่งหัตถการ และทำนายว่าผมคงจะเป็นหมอผ่าตัด! จะบ้าเหรอ เข้าแพทย์จะได้ไม่ได้ยังไม่รู้เลย จะให้เป็นหมอผ่าตัดแล้ว ผมผ่าอะไรจำไม่ได้ แต่คงมีกระต่าย กบ ปลา แมลงสาบ!?
บรรยากาศการเรียนดีมาก มีครูต่อนักเรียนไม่กี่คน จนในที่สุด ไม่น่าเชื่อ ผมก็สอบทั้ง 3 วิชาได้ภายในปีเดียว ถ้าอยู่โรงเรียนทั่วๆ ไปจะต้องใช้เวลา 2 ปี แต่ถ้าผมอยู่ที่โรงเรียนเดิม อย่าว่าแต่ 2 ปีเลย คนไม่เก่งอย่างผมใช้เวลา 3 ปี ก็คงสอบไม่ได้!? แต่จากโรงเรียน Lindisfarne ภายหลังก็มีคนไทย เพื่อนผมชื่อ ชาญวิทย์ ตันติพิพัฒน์ (ต่อมาเป็น ศ.นพ.) สอบทุกอย่างได้จากโรงเรียนนี้และเข้าแพทย์ที่ Leeds ได้เหมือนผม แต่เขาเก่งกว่า สอบได้จากโรงเรียนนี้ ชาญวิทย์เข้าแพทย์หลังผม 3 ปี(อายุน้อยกว่าผมหนึ่งปี) ฉะนั้นโรงเรียน Lindisfarne อาจไม่ได้แย่อย่างที่ผมพูด คงจะเป็นผมเองที่เรียนไม่ดี จะเป็นจากสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ แสดงว่าคนเก่งอยู่ที่ไหนก็เรียนได้ แต่ผมไม่เก่ง ต้องอาศัยครู สิ่งแวดล้อมที่ดี
ผมสมัครเข้าโรงเรียนแพทย์ รู้สึกสมัยโน้นจะให้สมัครผ่าน Central Office(ส่วนกลาง) 5 แห่ง ถ้าจำไม่ผิด ผมสมัครEdinburgh, Glasgow, Guy’s (3 อันนี้ตามคุณพ่อเพราะท่าน อ.อรรถสิทธิ์ ปูชนียบุคคลทางการแพทย์ที่เพิ่งเสียชีวิตจบจากที่ Guy’s ลอนดอน ท่านดังมากทั้งในสมัยโน้นและต่อมา) และ Leeds, Sheffield ปรากฏว่า3 แห่งแรกปฏิเสธผมอย่างนิ่มนวล (น่าเตะ!?) คือ บอกว่าผมอายุน้อยไป คือ 17 ปีเท่านั้น ขอให้สมัครปีหน้า ส่วน Leeds, Sheffield เรียกผมไปสัมภาษณ์
ปรากฏว่าผมสอบ “A” level ผ่านหมดทั้ง 3 วิชา แต่ยังไม่มีโรงเรียนแพทย์ใดตอบรับ พอเปิดเทอมจึงกลับไปที่ Applegarth เพื่อเรียนต่อ ตอนนั้นเซ็งเป็นบ้า เพราะต้องเรียนแบบเดิมซ้ำ และถึงแม้เรียนอีกปีก็ไม่แน่ใจว่าจะสอบได้อีกไหม และที่อังกฤษ ถ้าเรียนซ้ำ คะแนนต้องดีกว่าเก่า เช่น ถ้าได้ BBB ปีนี้ อย่างน้อยปีหน้าจะต้องเป็น ABB หรือมากกว่า เพราะเขาถือว่าใช้เวลาเรียนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว! ต้องแข่งกับคนอื่นและยังต้องแข่งกับตัวเองด้วย!! แย่มากๆ ไม่มีความยุติธรรมเลยโลกใบนี้
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี