วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ผู้หญิง / พินิจ-พิจารณ์
พินิจ-พิจารณ์

พินิจ-พิจารณ์

นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
วันอาทิตย์ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ทำอย่างไรจึงจะมีสุขภาพที่ดี

ดูทั้งหมด

  •  

ทำไมคนบางคนมีสุขภาพที่ดีมาก ไม่เป็นโรคอะไร ไม่เป็นโรคเบาหวาน ไขมัน ความดันโลหิตสูง ทั้งๆ ที่กินทุกอย่างที่ไม่ดีและแทบไม่ออกกำลังกาย แต่คนบางคนเป็นทุกอย่าง ความดัน ไขมัน เบาหวาน ทั้งๆ ที่คุมอาหาร ออกกำลังกายพอสมควร

ในความเห็นของผม การที่จะมีสุขภาพที่ดีขึ้นอยู่กับ 2 อย่าง คือ พรสวรรค์ และพรแสวง เหมือนนักกีฬา ถ้าเราเกิดมาไม่เป็นโรคอะไรตั้งแต่เกิด ถือว่าโชคดีพอสมควร หลังจากนี้จะมีสุขภาพที่ดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับเรา แต่ถ้าเรามียีนที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ได้ เราก็ยังอาจที่จะมีโรคต่างๆ เกิดขึ้นได้ภายหลัง เช่น โรคความดันโลหิต ไขมัน เบาหวาน มะเร็ง ฯลฯแต่เกิดมาไม่พิการ คุณหมอตรวจร่างกายเด็ก ไม่พบโรคอะไร เช่น หัวใจ ก็ถือว่า so far so good ถือว่าโชคดีมากแล้ว ต่อไปนี้ก็อยู่ที่เรา - ตอนเด็กๆ คงอยู่ที่คุณพ่อคุณแม่ คุณหมอมากกว่า -เช่น ให้เรากินนม (หรือมีนมแม่ให้กิน) แม่อย่างเดียวหรือเปล่า 6 เดือนแรก และหลัง 6 เดือนแรก ยังให้เรากินนมแม่จนถึงอายุ 2 ปีหรือเปล่า ถึงแม้จะต้องกินอาหารเสริมอื่นๆ ด้วย สอนให้เราชอบกินผัก ปลา ออกกำลังกายตั้งแต่เด็กหรือไม่ สอนให้เราไม่กินเค็ม หวาน มัน หรือไม่ ฯลฯ


30% ของสุขภาพอยู่ที่กรรมพันธุ์หรือพันธุกรรม หรือยีนต่างๆว่า ร่างกายเรามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ ไหม ผมเองมีความเห็นส่วนตัวว่า เมื่อไหร่ที่ความรู้ทางด้าน genetics หรือยีนอยู่ตัวแล้วสปสช. ฯลฯ อาจตรวจเลือดทุกๆ คนดูว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอะไรบ้าง จะได้เน้นการป้องกันทางโรคต่างๆ นี้ ฯลฯ

อีก 70% ของการมีสุขภาพดีหรือไม่ดี อยู่ที่พฤติกรรมเราและสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมเราที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ คือ การกินอาหาร การออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การใช้สารเสพติด การมีเพศสัมพันธ์ การตรวจสุขภาพ การตรวจคัดกรองหาโรคต่างๆ หรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับเรา เราเท่านั้นที่จะช่วยป้องกัน ลดความเสี่ยงต่างๆ องค์การอนามัยโลกมีข้อมูลว่า74% ของการเสียชีวิตของชาวโลกมาจากโรคที่ไม่ติดต่อ หรือ non communicable diseases, NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมที่ไม่ดีของเราที่ทำมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ โรค NCDs เป็นโรคที่ป้องกัน ลดความเสี่ยง ได้ ถ้าเรามีความรู้และมีวินัย เราทุกๆ คนในปัจจุบันนี้สามารถหาความรู้ได้ไม่ยาก แต่การมีวินัยอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องที่ยากมาก เช่น การออกกำลังกายที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง การไม่กินเค็ม หวาน มัน ฯลฯ

แต่ก็ยังมีปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมอีกมาก ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เรา แต่เราสามารถลดปัญหา(mitigate) และปรับตัว (adapt) ได้บ้าง ตัวอย่างของปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม คือ สภาวะ climate change หรือสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้น-global warming-ซึ่ง climate change นี้จะมากับสภาพอากาศเป็นพิษ หรือ Air Pollution

Climate Change เกิดขึ้น เนื่องมาจากมนุษย์ค้นพบพลังงานจาก fossils คือ ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซ ซึ่งการเผาผลาญพลังงาน fossils นี้ จะทำให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (green house gases, GHGs) เช่น CO2, methane ฯลฯ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนผ้าห่ม ทำให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้น และทำให้มีมลพิษในอากาศ ถ้าอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นมากๆ มนุษย์ สัตว์ พืช ระบบนิเวศ โลกก็จะอยู่ไม่ได้ ประเทศต่างๆ ในโลกจึงได้ตกลงกันที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.2015 ว่าจะพยายามช่วยกันทั้งโลก ไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นถึง 2 0C เมื่อเปรียบเทียบกับอุณหภูมิโลกก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม (ในปี ค.ศ.1750-1850) ซึ่งปัจจุบันนี้ได้สูงขึ้นไปแล้ว 1.1 0C และถ้าเป็นไปได้ไม่ควรให้สูงกว่า 1.5 0C

แต่ถึงแม้พวกเรา มนุษย์ ประชาชนไม่ได้เป็นคนปล่อย GHG เป็นส่วนใหญ่ เพราะส่วนใหญ่ GHG มาจากภาคพลังงาน อุตสาหกรรม ขนส่ง ครัวเรือน ภาคเกษตร ป่า ภาคของเสีย ฯลฯ แต่เราแต่ละคนและทุกคนสามารถช่วยลดปัญหาของ Climate change และ Air pollution ได้ ด้วยการปฏิบัติตนเองในชีวิตประจำวันที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน ฯลฯ ได้ เช่น ปิดไฟ ปิดแอร์ เมื่อไม่อยู่ในห้อง ถ้าจะซื้อรถ ซื้อรถไฟฟ้า ไม่กินเนื้อวัว หรือสัตว์ใหญ่เพราะการเลี้ยงวัวจะต้องตัดไม้ ทำลายป่า เพื่อหาที่เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช ผัก เพื่อเป็นอาหารสัตว์ มีข้อมูลจาก Our World in Data ว่า ถ้ามนุษย์ในโลกนี้หันจากการกินอาหารต่างๆ ในปัจจุบันมากิน plant base diet แทน จะลดพื้นที่เพื่อการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ลงถึง 75% คือ จากการใช้พื้นที่ 4,000 ล้าน hectares (1 hectare คือ 6 ไร่ 1 งาน หรือ 2,500 ตารางวา) ลงเหลือ 1,000 ล้านhectares เท่านั้น ซึ่งจะทำให้โลกเรามีพื้นที่ป่า ต้นไม้อีก 3,000 ล้านhectares ที่จะดูดซึม CO2 และปล่อย O2 ออกมาแทน

นอกจากนั้น วัวยังเรอและผายลมออกมาเป็น methane ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย

การกิน plant based diet จะดีต่อทั้งมนุษย์ สัตว์ พืช ระบบนิเวศ และโลกเองด้วย

ยังมีวิธีการต่างๆ อีกมากมายที่มนุษย์เราแต่ละคนจะช่วยลด ป้องกันโลกร้อนและอากาศเป็นพิษ

แต่หลักๆ ของการมีสุขภาพที่ดีนั้น Hippocrates บิดาทางการแพทย์ชาวกรีก ได้กล่าวไว้ 2,500 กว่าปีแล้วว่า การดูแลสุขภาพที่ปลอดภัยที่สุด คือ “การออกกำลังกายและทานอาหารที่ถูกต้องอย่างพอเหมาะ ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป”

เป็นคำกล่าวที่อมตะจริงๆ

นพ.พินิจ กุลละวณิชย์

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
02:00 น. ครม.ไฟเขียว โยกย้าย20บิ๊ก‘มหาดไทย’ นั่งผู้ว่าฯ-ผู้ตรวจราชการ
02:00 น. คุณแหน : 3 ธันวาคม 2568
22:03 น. เดินหน้านำร่องติดอาวุธดิจิทัล! ส่ง'ครูตำรวจต้นแบบ'สร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์สู่เยาวชน
21:30 น. 'ผู้ตรวจการแผ่นดิน'ลุยสายใต้ใหม่ ตรวจค้าปลีกนอมินี-แรงงานต่างด้าว
21:15 น. ราชกิจจาฯประกาศจำนวน สส.แบ่งเขตทั่วประเทศ กทม.ครองแชมป์ 33 เขต
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 30 พ.ย.-6 ธ.ค.68
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2568
มาแล้ว กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 28 พ.ย.-4 ธ.ค.68
ถึงบางอ้อ นักเขียนซีไรต์ เล่าเรื่องราว เขต 8 หาดใหญ่
เคลียร์ชัดอีกครั้ง ​ก็อต อิทธิพัทธ์ ชี้แจงสาเหตุเลิก ริชชี่ ปิดฉากรัก6ปี
ดูทั้งหมด
จบแล้วแต่ยังไม่จบ : ทำไมการสิ้นสุด QT ไม่ได้ทำให้สภาพคล่องกลับมาทันที
‘นายกแป้น’กับน้ำท่วมหาดใหญ่
เมื่อองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันทั้งภูมิภาคมาร่วมวงคุยกันจริงจัง
ฟื้นฟูและเยียวยา
ตรรกะสักแต่จะด่าหาแสง
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ข้อความจาก'ชาวหาดใหญ่' เรื่องราวดีๆสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

ผู้กำกับพิธีเปิดซีเกมส์โพสต์เศร้า! เตรียมงาน7เดือนก่อนโดนเทหลังเปลี่ยนรัฐบาล

รู้จักทีม'USAR'ของกองทัพเรือ 'หน่วยกู้ซ่อม ค้นหาช่วยเหลือ'

ปปง.ยึด-อายัดทรัพย์ 'เฉิน จื้อ-ก๊ก อาน'และเครือข่าย'เบน สมิธ'นับหมื่นล้าน

นมเรืองแสง! 'อ.เจษฎา'แชร์ซิลิโคนเรืองแสงสุดล้ำ ติดไฟLEDควบคุมด้วยสมาร์ทโฟน

'อภิสิทธิ์'ชี้'อุตสาหกรรมใต้'อ่วมหนัก จ่อเสนอมาตรการเจาะลึกพื้นที่ให้ฟื้นได้เร็วขึ้น

  • Breaking News
  • ครม.ไฟเขียว โยกย้าย20บิ๊ก‘มหาดไทย’ นั่งผู้ว่าฯ-ผู้ตรวจราชการ ครม.ไฟเขียว โยกย้าย20บิ๊ก‘มหาดไทย’ นั่งผู้ว่าฯ-ผู้ตรวจราชการ
  • คุณแหน : 3 ธันวาคม 2568 คุณแหน : 3 ธันวาคม 2568
  • เดินหน้านำร่องติดอาวุธดิจิทัล! ส่ง\'ครูตำรวจต้นแบบ\'สร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์สู่เยาวชน เดินหน้านำร่องติดอาวุธดิจิทัล! ส่ง'ครูตำรวจต้นแบบ'สร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์สู่เยาวชน
  • \'ผู้ตรวจการแผ่นดิน\'ลุยสายใต้ใหม่ ตรวจค้าปลีกนอมินี-แรงงานต่างด้าว 'ผู้ตรวจการแผ่นดิน'ลุยสายใต้ใหม่ ตรวจค้าปลีกนอมินี-แรงงานต่างด้าว
  • ราชกิจจาฯประกาศจำนวน สส.แบ่งเขตทั่วประเทศ กทม.ครองแชมป์ 33 เขต ราชกิจจาฯประกาศจำนวน สส.แบ่งเขตทั่วประเทศ กทม.ครองแชมป์ 33 เขต
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

มองโลกในแง่ดี

มองโลกในแง่ดี

30 พ.ย. 2568

ผลของสังคมผู้สูงอายุ

ผลของสังคมผู้สูงอายุ

23 พ.ย. 2568

อายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพกับ อ.เฉก ธนะสิริ

อายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพกับ อ.เฉก ธนะสิริ

16 พ.ย. 2568

‘สุขภาพดี ด้วยวิถีนายแพทย์เฉก ธนะสิริ’

‘สุขภาพดี ด้วยวิถีนายแพทย์เฉก ธนะสิริ’

9 พ.ย. 2568

อะไรที่ทุกคนต้องเรียน

อะไรที่ทุกคนต้องเรียน

2 พ.ย. 2568

อ.หมอเฉก ธนะสิริ

อ.หมอเฉก ธนะสิริ

26 ต.ค. 2568

ผศ.นพ.วิศิษฎ์ ฐิตวัฒน์  ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย 2537-2568  (การปลูกถ่ายอวัยวะ)

ผศ.นพ.วิศิษฎ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย 2537-2568 (การปลูกถ่ายอวัยวะ)

19 ต.ค. 2568

Colorado

Colorado

12 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved