ไม่ใช่เพิ่งมียุคนี้ดอก สำหรับการฉ้อโกงประชาชน หรือแม้แต่แชร์ลูกโซ่
1. กรณีที่เป็นข่าวใหญ่โต ซินแสโชกุนและพวก ถูกดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชน อั้งยี่ ซ่องโจร
มูลค่าความเสียหายแท้จริงน่าจะไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท เพราะไม่ได้มีแค่ค่าทัวร์ญี่ปุ่น ซึ่งจะเรียกว่าค่าสมาชิก ค่าสินค้า หรืออะไรก็แล้วแต่ นอกจากนี้ ยังมีเงินลงทุนของสมาชิก ที่จ่ายมาแลกกับคำคุยโม้โอ้อวดของหัวขบวนที่ว่า จะมีผลตอบแทนคืนให้เดือนละสูงลิบ
ขณะนี้ ทราบว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กำลังทำงานร่วมกับ ปปง. ในการตรวจสอบทรัพย์สินของเครือข่ายนี้
อายัดมาแล้ว มูลค่าแค่ 10 ล้านบาท
ยังต่ำกว่ามูลค่าความเสียหายแท้จริง
เจ้าหน้าที่จะต้องติดตามสืบสวนเส้นทางการเงิน เส้นทางทรัพย์สิน เพื่อยึดอายัดเพิ่มเติมอีกต่อไป
คนที่พอมีสติปัญญา ย่อมไม่มีใครเชื่อว่าจะมีทรัพย์สินแค่นี้แน่นอน เพียงแต่จะถูกยักย้ายถ่ายโอนไปไว้ในรูปไหน ชื่อใคร เท่านั้นเอง
2. ส่วนที่มีการเข้าตรวจค้นบริษัทเครือข่ายแห่งหนึ่ง ย่านอโศกแล้วมีรายงานว่าพบอาหารเสริม ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศจำนวนหนึ่ง ราวๆ 200 กระปุก
นั่นก็ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ว่าเป็นการทำธุรกิจขายตรงอย่างถูกต้อง
ลองคิดดู สมาชิกในเครือข่ายมีเท่าไหร่?
เอาแค่ที่แสดงตัวจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็หลายพันคนแล้ว
หากทำธุรกิจขายตรงจริง สำหรับสมาชิกผู้ขายหลายพันคนจะต้องมีสินค้ามากมหาศาลแค่ไหน?
เก็บสต๊อกไว้ที่ใด? จัดส่งให้สมาชิกและลูกค้าอย่างไร?
ที่ผ่านมา มียอดนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศจำนวนแท้จริงเท่าใด?
สำแดงจำนวนและเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่?
บริษัทที่ดำเนินการขาย ดำเนินการหาสมาชิกเครือข่าย อ้างว่าเป็นการจ่ายค่าคอมฯกันนั้น มีการจดทะเบียนขายตรงอย่างถูกต้องหรือไม่?
หรือแท้จริงแล้ว ก็แค่บังหน้า อ้างขายตรง
แต่เป็นการระดมเงินจากสมาชิกรายใหม่ๆ เพื่อนำไปหมุนเวียนจ่ายแก่รายเดิม ในลักษณะแชร์ลูกโซ่?
3. แก่นแกนของรูปการณ์ ไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิม เปลี่ยนแค่ตัวสินค้าหรือฉากบังหน้า
แชร์ลูกโซ่เป็นกิจกรรมธุรกิจที่มีการหารายได้จากการระดมทุน หรือขายตรงในสินค้า หรือบริการที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ ในแต่ละยุค นำมาเป็นเครื่องล่อเช่น น้ำมัน ทองคำ การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า การเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน การทำธุรกิจจัดสรรวันพักผ่อน สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ฯลฯ
ใช้กลยุทธ์การตลาดในการดึงดูดความสนใจ เช่น จัดงาน แจกรางวัลเป็นทองคำ บ้าน รถยนต์ หรือไปเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ
ดึงคนเข้าร่วมลงทุน จริงๆ คือ เพียงแต่ลงเงิน แต่เอาเงินไปไหนต่อนั้น เป็นเรื่องของบริษัท
ผู้ลงทุนรอเพียงผลตอบแทนที่บริษัทสัญญาว่าจะให้
เมื่อผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนสูงในระยะแรก ก็จะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น
ตามสภาพความโลภ เช่น กู้เงินมาลงเพิ่ม ชักชวนญาติพี่น้องเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น
ธุรกิจแบบนี้จะอยู่ได้ ต้องอาศัยการระดมทุนใหม่ เอาเงินจากรายใหม่มาจ่ายผลตอบแทนให้กับรายเก่า
ตราบใดที่ฐานการลงทุนยังคงขยายต่อไปได้ ก็ยังคงมีเงินหล่อเลี้ยงวงจรแชร์ลูกโซ่ต่อไป
เมื่อใดที่การขยายตัวของเงินใหม่น้อยกว่าผลตอบแทนที่จะต้องจ่ายให้กับเงินลงทุนเก่า ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ก็จะล้ม ปิดบริษัทหนี ฉ้อโกงเงินของประชาชนที่นำไปลงทุนและยังไม่ได้รับชำระคืน
4. สูตรสำเร็จของขบวนการแชร์ลูกโซ่ในบ้านเรา ได้แก่
จัดตั้งบริษัทที่เปิดทำการส่วนหน้า เช่าพื้นที่ ไม่มีการผลิตสินค้า ไม่มีการเก็บสต๊อกสินค้า
อาจมีลักษณะข้ามชาติ อาจมีชาวต่างชาติร่วมมือด้วย เพื่อสร้างเรื่องราว สร้างความน่าเชื่อถือ
มีการร่วมกันทำเป็นขบวนการเครือข่าย แบ่งหน้าที่กันทำงาน ใช้ลูกค้ารายเก่าหาลูกค้ารายใหม่
เมื่อมีการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้กระทำความผิด ก็จะมีการถอนเงินออกจากบัญชีทันที
ช่องทางในการหลอกลวงมักทำโดยเปิดเผย อวดร่ำอวดรวยสร้างภาพลักษณ์ ใช้หลักจิตวิทยาและกลยุทธ์การตลาดในการกระตุ้นความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เช่น การแจก แถม ชิงรางวัล ทองคำรถ บ้าน การเดินทางไปต่างประเทศ และใช้ผู้มีหน้ามีตาในสังคมมาร่วมงาน
เพราะฉะนั้น สังคมที่ติดแค่เปลือก เห็นความโอ่อ่า ฟุ้งเฟ้อ หรูหรา ก็มักจะหลงนึกว่าเป็นของจริง เป็นของหอมหวน ก็จึงตกเป็นเหยื่อของโจรใส่สูทจำพวกนี้อยู่เสมอๆ
5. ล่าสุด ยังไม่ทันจบเรื่องแก๊งซินแสโชกุน ก็ปรากฏเรื่องแชร์เหมืองทองคำอีกแล้ว
อ้างว่าระดมเงินลงทุน ไปลงทุนกับบริษัทเหมืองแร่ทองคำ ในประเทศมาเลเซีย แต่ไม่ได้รับเงินปันผลคืนตามที่บริษัทกล่าวอ้าง มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
ทำเป็นเสนอขายหุ้น ในราคา 2,800 บาท/หุ้น
อ้างจะมีปันผล สัปดาห์ละ 200-300 บาท ทุกสัปดาห์
โดยจะเงินต้นคืน 200% ในสัปดาห์ที่ 17
ขณะนี้ เรื่องอยู่ที่ดีเอสไอแล้ว
เฮ้อ.... แชร์ลูกโซ่ไม่จบไม่สิ้น!
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี