เมื่อ “น้าเหลิม” ออกโรง อุณหภูมิการเมืองก็ร้อนแรงขึ้น
ล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวหาว่า มี “อีแอบ” ใช้ให้รัฐมนตรี 4 คน ออกหน้า
1.ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า อดีตสส.ของพรรคเพื่อไทยที่ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ จะไปแต่ตัว แต่ไม่มีคะแนนเสียง และแม้พรรคพลังประชารัฐ จะชูใครเป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่สำคัญ เพราะประชาชนเห็นฝีมืออยู่แล้ว ว่าคนคนนั้น เปรียบเหมือนลิเกที่ประชาชนรู้อยู่แล้วว่า จะเล่นบทไหน ตอนไหน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถสนองความต้องการของประชาชนได้
ส่วนการที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะเป็นผู้นำทีมหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ร้อยตำรวจเอกเฉลิมเชื่อว่า บุคคลทั้งสองจะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน เพราะแม้แต่ช่วงที่เป็นสส.อยู่ในรัฐสภา ก็ไม่เคยแม้กระทั่งยกมือปราศรัยหรืออภิปราย ทั้งนี้ หากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นผู้นำของพรรคพลังประชารัฐ ก็ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่สำหรับ 4 รัฐมนตรีของรัฐบาล ที่เป็นแกนนำของพรรค แม้ทางกฎหมายจะไม่จำเป็นต้องลาออก แต่ก็ต้องมีจิตสำนึกทางการเมืองที่จะตัดสินใจลาออก อย่างไรก็ตาม นอกจาก 4 รัฐมนตรีแล้ว ยังพบว่ามีอีกคน ที่เป็น “อีแอบ” ใช้ให้ 4 รัฐมนตรีออกหน้า ทำทุกวิธีทาง เพื่อเอาเปรียบทุกขั้นตอนในการเลือกตั้งครั้งนี้
2.ร.ต.อ.เฉลิมเป็นนักการเมืองสีสันคัลเลอร์ฟูล
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง
รู้ว่าตอนไหนควรซ่าส์ ตอนไหนควรหลบ และตอนไหนควรหนี
จะสังเกตได้ว่า น้าเหลิมไม่เคยต้องเข้าไปนอนคุกนอนตะรางเหมือนแกนนำ นปช.หลายคน
แกเป็นอดีตนายตำรวจกองปราบฯ เป็นตำแหน่งที่แกเอ่ยอ้างถึงบ่อยมาก
เมื่อเล่นการเมืองก็เคยเป็นถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ตอนนั้นเองสร้างวีรกรรมนำรถถ่ายทอดสดไปปฏิบัติการจนเป็นที่มาของฉายา “เหลิมดาวเทียม” แล้วรัฐบาลที่ถูกสื่อมวลชนขนานนามว่า “บุฟเฟ่ต์คาบิเนต” ก็ถูก รสช.ทำการรัฐประหาร ร.ต.อ.เฉลิมเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ เคยถูกยึดทรัพย์ 32 ล้านบาท และเตลิด
หายหน้าไปไกลถึงประเทศเดนมาร์ก
ก่อนจะกลับมาผงาด เหมือนแมว 9 ชีวิต
เคยประกาศว่า “เป็นขี้ข้าทักษิณ” และบอกว่า “พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม”
3.ล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิมเย้ยหยันนายสมศักดิ์ และนายสุริยะ ทำนองว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน เพราะแม้แต่ช่วงที่เป็นสส.อยู่ในรัฐสภา ก็ไม่เคยแม้กระทั่งยกมือปราศรัยหรืออภิปราย
น้าเหลิมคงลืมไปว่า ใครบ้างหนอ ที่สมัยเป็น สส.ไม่เคยยกมืออภิปรายเลย ยกเว้นจำใจจริงๆ เพราะถูกตั้งกระทู้ถามแล้วหลบเลี่ยงไม่ได้ หรือต้องตอบอภิปรายในสภาด้วยตนเอง จึงจะลุกขึ้นอ่านโพย
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ บทบาทในสภาเป็นอย่างไรบ้าง?
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อ่านโพยเก่งไร้เทียมทานแค่ไหน?
ทั้งคู่ ทำงานในพื้นที่น้อยกว่านักการเมืองเกือบทุกคนในสภา แต่ได้ดิบได้ดีเพราะอะไร? ดีงามไหม?
4.ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึง “อีแอบ” แต่เสียดายไม่กล้าออกชื่อตรงๆ
ได้แต่กล่าวหาลอยๆ แบบที่นักการเมืองน้ำเน่าสมัยก่อนทำกัน
เอาเป็นว่า “เรื่องแอบการเมือง” ในยุคนี้ จะเชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมดีไหม? รอกาลเวลาเป็นเครื่องพิสุจน์
แต่พฤติกรรม “แอบการเมือง” ในสมัยก่อนนี้ เคยมีจริง และเคยมีแบบไม่รู้สึกเขินอาย
ป๋าเหนาะ - เสนาะ เทียนทอง เคยเขียนบทความ “จะเอาทักษิณหรือประเทศไทย” อยู่ในหนังสือ “รู้ทันทักษิณ 4” เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลเอกชวลิตและทักษิณ สะท้อนบทบาทการเมืองอย่างน่าสนใจ
ป๋าเหนาะถึงขนาดใช้คำพูดว่า “ทักษิณไม่เคยเป็นเพื่อนในนิยามของผม”
ป๋าเหนาะเล่าว่า
“...ช่วงนั้น ใกล้ๆ เลือกตั้ง พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ กำลังต่อสู้ในการเลือกตั้งกับพรรคประชาธิปัตย์... ทักษิณโทร.มาชวนผมไปกินข้าว เรื่องนี้สำคัญมาก
เมื่อเจอกัน ทักษิณก็ถามผมว่า “พี่เหนาะมีทางสู้ได้ไหม”
ผมประเมินด้วยประสบการณ์ตอนนั้นแล้ว ตอบว่า “สู้ได้” แต่ก็บอกปัญหาและความหนักใจไปตามตรงว่า “แต่ถ้ามันกระท่อนกระแท่นแบบนี้ ก็คงลำบาก มันเกี่ยวกับเรื่องกำลังทรัพย์”
ทักษิณถามผมอย่างจริงจังว่า “พี่เหนาะคิดว่าจะใช้อีกเท่าไหร่”
ผมมองหน้าเขา แล้วก็บอกจำนวนเงินไปตามตรง ทักษิณได้ยินแล้ว ก็ทำท่าทีตอบรับ หลังจากนั้นก็รู้สึกว่า เขาจะจัดมาให้ ช่วยเอามาเสริมกำลัง แต่ไม่ได้ผ่านมาทางผมโดยตรง รู้สึกว่าจะผ่านไปทางพี่จิ๋ว
หลังการเลือกตั้ง พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้เข้ามาเป็นรองนายกรัฐมนตรี”
อยากถาม “น้าเหลิม” ว่า แบบนี้ เรียกว่า “แอบ” หรือไม่?
“น้าเหลิม” น่าจะมีข้อมูลลึกกว่านี้ แต่จะกล้าพูดหรือไม่? จะแหยใครรึป่าว?
5.ยิ่งกว่านั้น “ป๋าเหนาะ” ยังเล่าต่อไปอีกว่า
“...ก่อนเกิดวิกฤติค่าเงินบาท คุณอำนวย วีรวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในระหว่างนั้น คุณอำนวยลาออก ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อตรงนี้ เมื่อไม่มีรัฐมนตรีคลัง พี่จิ๋วก็มาถามว่าจะเอาใครมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตอนนั้น คิดกันถึงขนาดว่า จะเอาทักษิณมาเป็นรัฐมนตรีคลังเสียด้วยซ้ำไป
ตอนนั้น ผมก็ได้ช่วยไปคุยกับคนที่น่าเชื่อถือในสังคม ทาบทามให้มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คุณโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัฐ ก็รับปากแล้วว่าจะเข้ามาช่วยเป็น แต่กลับปรากฏว่า ทักษิณไปเอาคุณทนง พิทยะ เข้ามาเป็นรัฐมนตรีคลัง ซึ่งตอนนั้น
คุณทนงยังเป็นผู้บริหารของธนาคารทหารไทย ตอนที่เอาทนงเข้ามานี่ผมไม่รู้เรื่องเลย เขาไปซุบซิบกันระหว่างพี่จิ๋วกับคุณโภคิน แล้วก็ตั้งคุณทนงขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีคลัง
ก่อนจะลอยตัวค่าเงินบาท ผมไม่รู้เรื่องด้วยเลย อยู่นอกวงของพวกเขา คนที่เกี่ยวข้องกับการลดค่าเงินบาทในขณะนั้น มีอยู่ 4 คน คือ คุณทนง พิทยะ ซึ่งเป็นคนที่ทักษิณไปเอาเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคลัง คุณโภคิน พลกุล ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล มีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ แล้วก็คุณทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่เป็นคนไปเอารัฐมนตรีคลังคนนี้เข้ามา
ส่วนเขาจะรู้เห็นกันขนาดไหน ผมไม่รู้
เขาบอกว่า เขาไม่รู้ อันนี้ไม่มีใบเสร็จ แต่ถ้าถามผมว่า ผลที่เกิดภายหลังการลอยตัวค่าเงินบาทมันออกมาอย่างไร อันนี้มันส่อชัด เพราะทักษิณและบริษัทเขารอดวิกฤติอยู่คนเดียว คือผลลัพธ์มันสะท้อนชัดอยู่แล้ว
การที่มีคนไปซื้อประกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงินบาทเอาไว้มากๆ หรือการไปซื้อเงินดอลลาร์ตุนไว้มากๆ ก่อนจะประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ก็เหมือนกับการจุดไฟเผาบ้านตัวเองเพื่อเอาเงินประกัน…”
อยากฟังจาก “น้าเหลิม” เหมือนกันว่า แบบนี้ เรียกว่า “แอบ” หรือไม่?
6.ถ้า “น้าเหลิม” เจ๋งจริง ควรจะออกมาโชว์ภูมิ ให้ความรู้ความเข้าใจทางการเมืองแก่ผู้คนอย่างถูกต้องด้วย
ไม่ใช่ทำเหมือนตอนที่ถูกนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. “ถอนหงอก” ไปก่อนหน้านี้ ตอนที่ “น้าเหลิม” ออกมาวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองพาดพิงถึงแกนนำเสื้อแดง
ครั้งนั้น จตุพรตอบโต้ “น้าเหลิม” ปรากฏว่า “น้าเหลิม” เงียบไปเลย
เว้นแต่ “น้าเหลิม” จะหมอบราบคาบแก้วใต้อาณัติผู้นำพรรคคนใหม่“คุณหญิงหน่อย” หรือหงอกับผู้เฒ่าผู้แก่ในพรรค “ป๋าเหนาะ” หรือกลัวจะถูก “พี่ตู่-จตุพร” ถอนหงอกอีกรอบ?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี