สาธารณชนและวิญญูชนต่างตั้งคำถามกันอย่างครึกโครมว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีคุณประโยชน์ต่อสังคมไทยในประเด็นใดบ้าง แล้วที่ผ่านมานั้นผู้ตรวจการแผ่นดินเคยทำคุณงามความดีประการใดให้สังคมไทยได้ประจักษ์บ้าง
แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีคำถามหนึ่งที่สาธารณชนและวิญญูชนตั้งคำถามตัวโตๆ ไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำไมจึงได้มีการกำหนดให้คู่สมรสของผู้ตรวจการแผ่นดินสามารถเบิกค่าใช้จ่ายเมื่อเดินทางไปต่างประเทศได้ และมีคำถามว่า ทำไมเมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินเดินทางไปต่างประเทศ จึงต้องนำเอาคู่สมรสไปด้วย นำไปเพื่อประโยชน์อันใด ประเทศชาติได้ประโยชน์สถานใดจากการที่คู่สมรสของผู้ตรวจการแผ่นดินเดินทางไปต่างประเทศ แล้วผู้ตรวจการแผ่นดินใช้สมองส่วนใดในการขอเบิกค่าใช้จ่ายของคู่สมรสในการเดินทางไปต่างประเทศ หรือใช้จิตสำนึกฝ่ายสูงบ้างหรือไม่กับการขอเบิกค่าใช้จ่ายดังกล่าว
เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อไปทำงานตามหน้าที่ แล้วทำไมจึงต้องนำคู่สมรสไปด้วย เพราะการไปทำงานที่แท้จริงย่อมต้องทุ่มเทการทำงานอย่างเต็มเวลา และเต็มกำลังความสามารถ แต่การที่นำคู่สมรสไปด้วยแล้วจะช่วยก่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติสถานใดนั้น เรื่องนี้ยังเป็นที่สงสัย แล้วถ้ายิ่งนำคู่สมรสไปด้วย แต่กลับมาขอเบิกค่าใช้จ่ายจากทางราชการเพื่อให้กับคู่สมรส เรื่องนี้จึงทำให้เกิดคำถามว่า แล้วนำคู่สมรสไปเพื่ออะไร หรือผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังเข้าใจผิด คิดว่าการเดินทางไปราชการในต่างประเทศคือการไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ หรือไปเพื่อการพักผ่อนส่วนตัว หากตั้งใจว่าจะไปเพื่อการพักผ่อนส่วนตัวก็ต้องลาราชการไป ไม่ควรจะนำเรื่องส่วนตัวไปผสมกับเรื่องของราชการ
ประเด็นการเบิกค่าใช้จ่ายให้กับคู่สมรสของผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อเดินทางไปต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องที่สาธารณชนตั้งคำถามว่าใครเป็นผู้เสนอเรื่องนี้ขึ้นมา ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นผู้เสนอเอง หรือว่าใครคนไหนในสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นผู้เสนอ แล้วเมื่อเวลาเสนอเรื่องนี้ขึ้นมานั้น เสนอโดยที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ หรือว่าอยู่ในอาการสติไม่สมประกอบ โดยเฉพาะประเด็นที่ให้คู่สมรสสามารถเบิกค่าเครื่องแต่งตัวได้ด้วยนั้น เป็นเรื่องที่สาธารณชนต่างวิพากษ์ว่า เป็นข้อเสนอที่ไร้เหตุผล ไร้สติ และไร้ความละอายเป็นอย่างยิ่ง
สาธารณชนตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ถ้าหากผู้ตรวจการแผ่นดินไม่สามารถมีจิตสำนึกที่ถูกต้องในการปฏบัติหน้าที่ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ก็ไม่ควรจะฝืนทนรับหน้าที่อีกต่อไปเพราะผู้ตรวจการแผ่นดินจำเป็นต้องเป็นผู้มีความละอายต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรมมากกว่าคนอื่นๆ ทั่วไป เพราะมิฉะนั้นแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
คุณสมบัติประการสำคัญของผู้ตรวจการแผ่นดินคือจำเป็นต้องมีความละอายต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และต้องละเว้นจากสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรทั้งปวง ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังสาธารณชน หากผู้ตรวจการแผ่นดินปราศจากความละอายแล้ว ก็ไม่ควรจะทนอยู่ในหน้าที่เพื่อประจานตัวเองอีกต่อไป
ผู้ตรวจการแผ่นดินที่ปราศจากความละอายก็มีสถานะไม่ต่างไปจากผู้สูบเลือดสูบเนื้อแผ่นดิน หากประเทศไทยมีผู้ตรวจการแผ่นดินจำพวกที่เป็นผู้สูบเลือดสูบเนื้อของแผ่นดินแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้ตรวจการแผ่นดินอีกต่อไป ขอย้ำว่าผู้ที่ปราศจากความละอายไม่ควรรับหน้าที่เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี