แม้ขณะนี้จะไม่ได้เกิด “สงครามการรบ” แต่ก็ได้เกิดสงครามที่จะต้องต่อสู้ป้องกันกับโรค “โควิด ๑๙”ที่เกิดอยู่ทั่วโลกขณะนี้และถ้าไม่อาจที่จะหยุดยั้งได้ คนที่จะต้องตายเพราะโรค “โควิด ๑๙” นี้อาจจะไม่น้อยกว่าผลของสงครามโลก รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วย
การต่อสู้ที่สำคัญอย่างหนึ่งคือความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินแผ่นดินเป็นจำนวนมากนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในกรณีนี้ ไม่ว่าจะเป็นเงินในงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดหรือเงินนอกงบประมาณเช่นเดียวกับการใช้ในสงครามการรบ ในสงครามโลกครั้งที่ ๑ และ ๒ ที่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
การใช้จ่ายเงินยามสงครามนี้ ท่านบุญมาวงศ์สวรรค์ อดีตอธิบดีหลายกรมในกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสมัยท่านอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ผู้ได้รับการยกย่องเป็น “คนดีศรีคลัง” ปูชนียบุคคลทางการคลังที่ยึดหลักความ “พอ” ได้เคยเขียนตำรา “เสถสาตรว่าด้วยสงคราม” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่อาจนำมาปรับใช้ได้กับสงครามโควิด ๑๙ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ทั่วโลกขณะนี้ได้ เพียงแค่เติมคำว่า“โควิด ๑๙” คำเดียวเท่านั้นลงไปท้ายคำว่า “สงคราม” เป็นเศรษฐศาสตร์ว่าด้วยสงคราม “โควิด ๑๙” และคำใดในหนังสือที่ใช้คำว่า “สงครามการรบ” ก็เปลี่ยนเป็น “สงครามที่จะต้องรบกับโรคระบาด “โควิด ๑๙” เช่นเปลี่ยน“กองทุนเพื่อการสงคราม เป็น “กองทุนสงครามโควิด ๑๙”
เพราะ ความเป็น “อกาลิโกในคัมภีร” เล่มนี้ อาจนำมาปรับใช้กับ “สงครามโควิด ๑๙” ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกและประเทศไทยอยู่ในขณะนี้
โดยเพียงอ่านจากคำนำและสารบรรณบางส่วนมาเสนอต่อผู้อ่านโดยคงไว้ตามอักขระที่ใช้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ ดังนี้ “กองทุนสำหรับสงคราม ค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายในการสงคราม ผลในทางเศรษฐกิจของการเตรียมสงคราม การประหยัดและการบริโภค การเกณฑ์ทรัพย์ ภาษีและเงินกู้ วิธีหาเงินกู้ การพิมพ์ธนบัตรและการเพิ่มเครดิต การควบคุมราคา การปันส่วน การควบคุมอัตราแลกเงินต่างประเทศ การสงเคราะห์คนจน
ท่านบุญมา วงศ์สวรรค์ ได้กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ไว้ในคำนำ ตอนหนึ่งว่า
“หนังสือเล่มนี้ คงจะเป็นเล่มแรกเล่มหนึ่งซึ่งใช้ภาษาแบบใหม่ (อักขรปี ๒๔๘๕) ฉันเองสนับสนุนความเป็นระเบียบและความง่ายของภาษาอย่างที่สุด แต่ถ้าภาษาซึ่งใช้ในที่นี้ยังไม่เป็นระเบียบและยังไม่ง่ายต่อการอ่าน ก็เป็นเพราะไนขนะตีพิมพ์การชำระสะสางยังไม่สิ้นสุดประการหนึ่ง เพราะความไม่เคยชินอีกประการหนึ่ง เหตุทั้งสองขอใช้เวลาแก้ได้ แต่ปัญหาเศรษฐกิจย่อมไม่รอเวลาฉันใด การออกหนังสือนี้ก็รอเวลาไม่ได้ฉันนั้น
ประเทศไทยกำลังหยู่ในภาวะสงคราม(โควิด ๑๙) คงไม่มีชาวไทยคนได หยากเห็นไทยเป็นฝ่ายปราชัย สงคราม(โควิด ๑๙) สมัยใหม่ไม่เหมือนสมัยเก่า สงครามสมัยใหม่เรียกร้องการเสียสละจากทุกผู้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ไหย่หรือลูกเล็กเด็กแดง หยิงหรือชาย บ้านนอกหรือไนกรุง ทุกระแหงย่อมได้รับความสั่นสะเทือน เราคนไทยทุกคนต้องแข็งข้อเตรียมพร้อมหยู่ทุกขณะ
ภัยนั้นมิใช่แต่ภัยของลูกระเบิดเพลิงและกระสุนปืนกล เสถภัยของสงครามสมัยใหม่ดูเหมือนจะสำคัญยิ่งกว่า สงครามสมัยใหม่ต้องมีเครื่องกลไกสนับสนุนการยุธ เครื่องกลไกนี้คือเครื่องกลไกเสถกิจ เสถกิจของโลกยิ่งกล้าวหน้ามากเท่าไร เสถกิจก็ยิ่งแทรกแซงเข้าไปในชุมชนของสังคมมากเท่านั้น ไนสมัยปัจจุบันถ้าประเทสใดตีปัญหาเสถกิจของสงคราม (โควิด ๑๙) ไม่แตกก็น้อยนักที่จะประสบความมีชัย
หนังสือเล่มนี้มิไช่ตำราพิชัยสงคราม (โควิด ๑๙)แต่ก็หวังว่าจะอำนวยประโยชน์ไห้ได้บ้าง ไนด้านหนึ่งของสงคราม (โควิด ๑๙) เราจะได้เรียนรู้ว่าเสถกิจสามารถเป็นชนวนแห่งสงคราม (โควิด ๑๙) ได้อย่างไร และเมื่อสงคราม (โควิด ๑๙) เกิดขึ้นแล้ว ประชาชนต้องแบกภาระแห่งสงคราม (โควิด ๑๙) มากน้อยเพียงไรด้วยวิธีใด เราจะได้ศึกษาเรื่องพาสี และเงินกู้เพื่อสงคราม (โควิด ๑๙) อันเป็นเรื่องที่โต้เถียงกันมาก นอกจากนั้นแล้วยังจะได้พิจารนาว่า รัถอาดควบคุมทางเดินของเสถกิจสามัญเพื่อให้เป็นไปโดยราบรื่นและด้วยความเสมอภาค ทั้งนี้เพราะว่าไนยามฉุกเฉินทางเดินของเสถกิจมักประสบอุปสัคนานาประการ ไนระยะนี้ถ้าจะไม่ไห้เกิดความอยุตติธัมและความปั่นป่วนทั้งในด้านการเงินและการคลัง จำเป็นที่จะต้องยื่นมือเข้าเกี่ยวข้อง
ผู้เรียบเรียงหวังว่า ผู้อ่านจะได้นำความรู้ในด้านเสถกิจไปใช้ประโยชน์โดยแท้จริง ถ้าผู้อ่านเป็นผู้มีอิทธิพลไนทางที่จะชักนำสามัญชน ก็ขอไห้ทำการชักนำ เพื่อจะได้เปนเครื่องสนับสนุนไห้กลไกเสถกิจของชาติดำเนินไปด้วยดี ถ้าผู้อ่านเป็นสามัญชน ก็ต้องถือว่าไนยามสงคราม (โควิด ๑๙) นั้นต้องมีการเสียสละ และถ้าเราซาบซึ้งถึงว่าการเสียสละเป็นสิ่งจำเป็นเพียงไร ก็ย่อมจะเป็นผู้ที่เสียสละอย่างหน้าชื่นตาบาน
นั่นแหละเปนทางที่จะนำประเทศไปสู่หลักชัย....”
(หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือหายาก เพราะพิมพ์เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๕ แต่ขอดูได้ที่ห้องสมุดคณะเศรษฐศาสตร์ ท่าพระจันทร์)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี