สถานการณ์ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ตอนแรกมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะเข้าไปอุ้มโดยค้ำประกันหนี้จำนวนประมาณ 50,000 ล้านบาท เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่สถานการณ์กลับพลิกผัน เพราะมีเสียงต่อต้านคัดค้านจากทุกสารทิศ
เสียงคัดค้านเหล่านั้นเป็นนัยเดียวกันว่าจะทุ่มเงินลงไปสักเท่าใดก็ตามในสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ก็จะเป็นสภาพที่ถมเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเต็มเหมือนที่เคยถมกันมาแล้ว จึงเป็นเหตุให้มีการดึงเรื่องไม่สามารถนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ต่อเนื่องกันมาถึงสองนัดแล้ว
ในขณะเดียวกันก็มีการดักคอว่าเห็นทีว่าอีกไม่นานการบินไทยจะตกอยู่ในอุ้งมือของนายทุนใหญ่และจะมีรัฐวิสาหกิจอีกอย่างน้อยสองแห่งที่จะเดินตามเส้นทางสายนี้ โดยมีเหตุผลประกอบว่ามีขบวนการผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่มุ่งทำให้รัฐวิสาหกิจสำคัญของประเทศมีผลขาดทุนจนต้องยกให้หรือแปรรูปหรือให้เอกชนถือหุ้นข้างมาก จนมีฐานะประหนึ่งเป็นเจ้าของโดยแทบไม่ต้องลงทุนหรือลงทุนน้อยที่สุด
โดยยกตัวอย่างรัฐวิสาหกิจเกี่ยวกับพลังงานบางแห่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและค่าครองชีพของประชาชนดังที่ทุกคนทราบดีกันอยู่แล้ว
และในที่สุดท่าทีของผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายกระทั่งข่าวที่ปรากฏแบบกระเส็นกระสายก็ระบุว่ารัฐมนตรีส่วนใหญ่ในคณะรัฐมนตรีมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่าต้องให้การบินไทยเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย คงมีรัฐมนตรีเพียง 2-3 คนเท่านั้นที่เห็นว่าควรให้รัฐบาลค้ำประกันหนี้ของการบินไทยต่อไป
นั่นคือสภาพความคิดเห็นที่แตกต่างกันจากมุมมองต่างๆ แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดในขณะนี้คือในขณะที่สถานการณ์ทางด้านการเงินและสภาพคล่องของการบินไทยที่เผชิญอยู่นั้นรุมเร้าการบริหารอย่างรุนแรง อนาคตของการบินไทยจะเป็นอย่างไรเป็นเรื่องที่คนจำนวนมากให้ความสนใจ ซึ่งหนทางข้างหน้าจะมีสามทางเท่านั้นคือ
หนทางแรก ให้การบินไทยเข้าสู่กระบวนการกฎหมายล้มละลาย ซึ่งย่อมมีผลกระทบต่อบรรดาผู้ลงทุนและเจ้าหนี้เป็นมูลค่ารวมกันราว 350,000 ล้านบาท โดยเฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์ 74 แห่ง ที่เป็นเจ้าหนี้ประมาณ 40,000 คน มีสมาชิกออมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อนเสียหายร่วมแสนคน และจะกระทบต่อฐานะของสถาบันการเงินอีกอย่างน้อย 2 แห่ง เพราะเมื่อเงินลงทุนต้องสำรองเป็นศูนย์ก็จะทำให้เกิดสภาพขาดทุน ต้องเพิ่มทุน และรัฐบาลก็ต้องเข้าไปอุ้มอีก ทุกประเภทรวมกันก็ย่อมเกี่ยวกับเงินร่วม 300,000 ล้านบาท หรืออย่างน้อยก็ 150,000 ล้านบาท
ดังนั้นหนทางเข้าสู่กระบวนการล้มละลายจึงต้องพร้อมเผชิญกับความเสียหายและผลกระทบดังกล่าวให้จงหนัก เหตุนี้นายกรัฐมนตรีจึงเผยให้ทราบกันว่าจะใช้วิธีนี้เป็นหนทางสุดท้าย
หนทางที่สอง คือรัฐบาลเข้ามาอุ้มภาระหนี้สินและสภาพคล่องที่ขาดแคลนอย่างรุนแรงเบื้องต้น50,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแบบอย่างให้ต้องอุ้มรัฐวิสาหกิจอีกเกือบ 20 แห่ง จำนวนหลายแสนล้านบาท เพราะมีสภาพเป็นอย่างเดียวกันตามไปด้วย และเมื่อต้องอุ้มโดยการค้ำประกันหนี้ 50,000 ล้านบาทแล้วก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาอย่างถึงที่สุดได้ เพราะมีหนี้สินอยู่ถึง 250,000 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ในขณะที่ผลประกอบการก็ขาดทุนมากขึ้นโดยลำดับ
ดังนั้นหนทางสายนี้จึงมีแต่ทางตันในทุกทาง และมีความเสียหายเป็นเบื้องหน้าจนอาจถึงขั้นจะลากเอารัฐบาลล้มไปด้วย
หนทางที่สาม พอที่จะเรียกได้ว่าเป็นหนทางสายกลาง นั่นคือผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนไม่ได้ทั้งหมดและไม่เสียทั้งหมด แต่ต้องใช้สติปัญญาความสามารถในการแก้ปัญหาและบริหารจัดการ นั่นคือหนทางการเพิ่มทุน โดยจัดโครงสร้างสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหม่ ทำให้อัตราการถือหุ้นของรัฐทั้งหมดอยู่ที่ระดับประมาณ 30% ทำให้ทุกภาคส่วนที่เป็นผู้ถือหุ้นเดิมนอกจากรัฐอยู่ที่ระดับประมาณ 30% และเชื้อเชิญผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามาเป็นแกนนำในการบริหารจัดการ โดยอาจเพิ่มทุนประมาณ 100,000 ล้านบาท และค่อยๆ ปรับสัดส่วนการถือหุ้นตามโครงสร้างนี้
เหตุที่ให้รัฐดำรงโครงสร้าง 30% ก็เพื่อให้มีสิทธิ์ยับยั้งมติของที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐได้ และถ้าจำเป็นก็ต้องแก้ไขข้อบังคับของบริษัทให้รัฐมีอำนาจยับยั้งมติของกรรมการที่ทำให้รัฐเกิดความเสียหายด้วยก็ได้
ต้องทำให้การบินไทยปลอดจากการเมือง ต้องยุติสภาพที่ใครมาเป็นรัฐมนตรีแล้วจะต้องจัดซื้อเครื่องบินมูลค่าแสนกว่าล้านบาท โดยเพียงแค่หวังบรรณาการราว 3,000 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวในอดีตให้จงได้ จะต้องให้การบริหารกระทำโดยมืออาชีพที่ปรีชาสามารถ จะต้องไม่มีบรรดากาฝากทั้งหลายเข้าไปดูดเลือดกินเนื้อของการบินไทยอีกต่อไป จะต้องยกเลิกสิทธิประโยชน์ที่เหลวไหลเลอะเทอะไร้เหตุผลของกรรมการและผู้บริหารและพนักงานให้หมด ให้มีสิทธิประโยชน์ในฐานะพนักงานบริษัททั่วไปก็พอแล้ว
สำหรับการขาดสภาพคล่องก็ให้แก้ไขโดยเร่งขายเครื่องบินที่ซื้อมาแล้วใช้บินทางธุรกิจไม่ได้ ต้องมาจอดซุ่มอยู่นับสิบลำ ต้องเลิกการเช่าเครื่องบินที่เช่ามาแล้วบินไม่คุ้มกับค่าเช่า ต้องลดจำนวนเครื่องบินให้เหลือไม่เกิน 4 แบบ เพื่อจะได้ไม่ต้องสำรองอะไหล่มากมายแล้วขายอะไหล่ที่สำรองไว้มหาศาลนั้นออกไป รวมทั้งการปรับปรุงผู้บริหารกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการบินไทยให้เป็นมืออาชีพเหมือนกันด้วย
นี่คือหนทางสายกลางที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสสอนไว้ และน่าจะเป็นหนทางออกที่ดีที่สุดของการบินไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี