วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีข่าวว่า บรรดาอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่เคยแวดล้อมและใกล้ชิดกับคุณทักษิณ ชินวัตร กำลังรวมตัวกันเพื่อ “กลับสู่สนามการเมืองไทย” คล้ายๆ กับสำนวนฝรั่งที่ว่า Old soldiers never die (ทหารเก่าไม่มีวันตายจากไป) ในแง่ลบก็เป็นคล้ายๆ กับแดร็กคูลาการเมืองคืนชีพ
แต่ถ้ามองในแง่บวกการกลับกันมาจริงดังว่า ก็น่าจะทำให้สนามการเมืองไทยเกิดความคึกคัก และมีรสชาติยิ่งขึ้นไม่น้อย เพราะต่างคนต่างมีประสบการณ์มากมาย ทั้งในฐานะนักต่อสู้ในป่า นักเคลื่อนไหวในเมือง และนักการเมือง ที่มีความช่ำชองในเรื่องการบริหารจัดการ การระดมมวลชน และการสื่อสารกับสาธารณชน และที่สำคัญ ยังยึดมั่นอยู่ในอุดมการณ์ของการต้องการเปลี่ยนแปลงรูปโฉมของสังคมไทยที่ปราศจากชนชั้น ไปสู่สังคมที่ถูกนำพาด้วยกลุ่มผู้นำที่อุทิศตน
แต่สังคมก็ยังมีคำถามคาใจว่า ทำไมกลุ่มมือฉมังเหล่านี้ ถึงอยากจะคืนสู่สนามรบการเมืองอีกหน? ก็เป็นการไม่แปลกที่คนนอกจะเข้าไปเดาใจ หรือล้วงลึกเข้าไปในหัวใจอดีตนักการเมืองรุ่นเก๋าเหล่านี้แต่ก็ไม่สามารถหาความชัดเจน ชัดแจ้ง ได้หมด อย่างเก่งก็ได้แต่ประมวลวิเคราะห์ เดาใจได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
ในฐานะที่เป็นคอการเมืองคนหนึ่ง ก็เลยขออาสาประเมินประมาณการดู เพื่อเป็นข้อคิดข้อวิจารณ์ และเพื่อการติดตามกันต่อไป เพราะอย่างไร การเคลื่อนไหวของกลุ่ม ก็ย่อมเกี่ยวข้องกับพวกเราในฐานะประชาชนพลเมืองไม่มากไม่น้อย ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม
ผมนั้นเห็นว่า การฟื้นตัวรวมพลังของมือเก๋าเหล่านี้มีหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
1.บุญคุณ และความผูกพันต่อตัวคุณทักษิณ ชินวัตรยังค้างคากันอยู่ โดยเฉพาะเมื่อคุณทักษิณนั้นยังไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมเลิกรา นั่นย่อมทำให้บรรดาเพื่อนร่วมงาน ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมอุดมการณ์ กันมา ต้องกลับมาสานงานให้คุณทักษิณต่อไป
2.ที่ผ่านมา มือเก๋าเหล่านี้ ไม่ได้คิดจะลงจากเวทีการเมืองแต่อย่างใด เพียงแต่หลบไปซุ่มดูสถานการณ์ รอจังหวะเวลาอยู่เท่านั้น และก็คงเห็นพ้องกับคุณทักษิณว่า ในวันนี้คงจะไปพยายามเข็นพรรคเพื่อไทย (ภายใต้การนำพาของคุณสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์) อีกต่อไปก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไรอีกแล้ว
3.(อดีต) พรรคอนาคตใหม่ อยู่ดีๆ ก็ได้กระทำการอัตวิบากกรรมตนเองไปจากวงการเมืองไทยชนิดที่คนนอกพรรคก็งงคนร่วมพรรคก็ยิ่งงง ทั้งๆ ที่ถูกวางตัวมาให้เป็นทางเลือก หรือมาเป็นม้าเสริมให้กับคุณทักษิณ ชินวัตร ก็สิ้นฤทธิ์เดชไปอย่างไม่คาดคิด
4.ผลงานทางด้านต่างๆ ของทั้งรัฐบาลประยุทธ์ทั้งหนึ่งและสอง สะท้อนให้เห็นถึงความไร้ปัญญาและไร้ฝีมืออย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความแข็งแกร่งอยู่ที่ตัวรัฐสภา แต่ประชาชนพลเมืองกลับเดือดร้อนไร้อนาคต และในเร็ววันนี้เมื่อจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 3 ทำให้อีกฝ่ายเล็งเห็นถึงการห่างออกจากฐานอำนาจด้านความมั่นคง ความโยงใยของพลเอกประยุทธ์ กับกองทัพก็จะเบาบางลงและฉะนั้นก็จะอ่อนแอลง
5.ในขณะเดียวกัน คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำได้แค่เชียร์พลเอกประยุทธ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น มวลชนที่เคยสนับสนุนต่างก็หนีตีจากไปหมดแล้ว หันกลับไปมองพรรคประชาธิปัตย์ โดยลีลาการเข้าร่วมรัฐบาลประยุทธ์ 2 ก็สะท้อนให้สังคมเห็นกันชัดๆ แล้วว่า ทำได้แค่เพียงการเป็นนักเลือกตั้งคอยฉวยจังหวะ และโอกาสหาตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้นไม่ได้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยอะไรเหลือหรออยู่อีกเลย ดูแล้วก็น่าจะฟื้นตัวลำบาก นอกจากนั้นจากพฤติกรรมการบริหารงานในช่วงปัญหาโควิด-19 ที่สังคมส่ายหน้า ทำให้มีทีท่าว่าจะป่วยหนักลงไปอีก ส่วนพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนา ก็เป็นพรรคท้องถิ่น โตได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น ไม่คิดขยับขยายไปในระดับภูมิภาค ระดับประเทศ ส่วนพรรคเล็กพรรคน้อยในวงการเมืองตอนนี้ ก็เป็นเพียงพรรคเฉพาะกิจ ในทำนองที่ตั้งกันขึ้นมาเพื่อหัวหน้าพรรคจะได้มีตำแหน่งในสภา หรือในฝ่ายบริหาร พวกลูกพรรคก็เป็นแค่ผู้อุ้มชู เป็นลูกหลาน
ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองดังกล่าวแล้ว ก็ดูจะเป็นจังหวะอันดีที่กลุ่มโปรดังกล่าว จะคืนสู่สังเวียน พร้อมด้วยทุนทรัพย์จากคุณทักษิณ และคุณหญิงพจมาน
รวมความแล้วก็ท่าทางดูดี เป็นมืออาชีพ คือจะมีวิธีการทำงานแบบการทำงานเป็นทีม (Team work) มากกว่าจะมี “ท่านผู้นำ” เหมือนดังที่เป็นอยู่ในทุกพรรคในวันนี้
แต่สังคมก็ยังตั้งคำถามว่า ยังจะยึดโยงกับคุณทักษิณมากน้อยแค่ไหน ยังจะมุ่งเอาคุณทักษิณกลับบ้านแบบเท่ๆ หรือเปล่า หรือจะโยงกับคุณทักษิณเพียงแค่ให้บรรลุเป้าหมายทางอุดมการณ์การเมืองเท่านั้น โดยไม่มีเรื่องคุณทักษิณกลับไทยโดยไร้การเอาผิดเข้ามาเกี่ยวข้อง
ถ้ายังรับใช้คุณทักษิณ ก็ไปไม่รอด แต่ถ้าตัดคุณทักษิณได้ ฝีมือก็น่าเกรงขาม และจะลดการผูกขาดอำนาจรัฐของฝ่ายทหารการเมืองได้
ถ้าเป็นแบบกรณีแรก บ้านเมืองก็คงไม่พ้นที่จะคุกรุ่นไปเรื่อยๆ เพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็จะพยายามคงความได้เปรียบไว้ด้วยข้ออ้างต่างๆ นานา
แต่หากเป็นกรณีหลัง กลุ่มและพรรคที่จะตั้งขึ้น ก็จะไม่ใช่พรรคระดับธรรมดาๆ อาจจะกลายเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับคุณประยุทธ์ คุณประวิตร และคุณอนุพงษ์ และเสี่ยทั้งหลาย ซึ่งรวมถึงกุมารทองเยาวราชอีกด้วย
โดยที่ได้รู้จักคนในกลุ่มนี้อยู่หลายคน บางคนเคยร่วมงานด้วย ส่วนบางคนก็เคยเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมือง ในฐานะคอการเมืองก็บอกได้เพียงว่า รีบๆ ตัดสินใจกระโดดลงไปเลย
อย่างน้อย ก็ช่วยลงมาสอนมวยให้พวกมือสมัครเล่นกันเสียหน่อย อย่างน้อยก็จะทำให้การเมืองไทยจะได้มีสีสันบ้าง และที่สำคัญจะเปิดโอกาสให้ประชาชนพลเมืองมีทางเลือกที่จะดูเข้าท่าด้วย
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

ไม่ยกเลิกจัดที่ไทย! Miss Universe 2025 พร้อมปรับรูปแบบให้เหมาะสม
จังหวัด-อำเภอทั่วไทยร่วมประกอบพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์'สมเด็จพระพันปีหลวง'
'ในหลวง-พระราชินี'เสด็จฯในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ'สมเด็จพระพันปีหลวง'
น้อมรำลึกเก้าอี้ทรงประทับของ'สมเด็จพระพันปีหลวง' เมื่อทรงเสด็จเยี่ยมชาวผู้ไทยบ้านโพน
'นฤมล'แจงชัด!คำสั่งงดกิจกรรมรื่นเริง ไม่กระทบกีฬาสี-กิจกรรมเสริมหลักสูตร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี