เฝ้ามองด้วยความสนใจ เพราะชื่นชมในพลังบริสุทธิ์ของคนหนุ่มสาวเสมอ
แต่ยิ่งดู ยิ่งน่าผิดหวัง
จากผิดหวัง กลายเป็นความเวทนา
จากเวทนา กลายเป็นสังเวชไอ้คนที่มันปลุกเร้า ผลักดันให้เด็กๆ ออกหน้าแทน เพราะมันรู้ว่าหลายๆ เรื่องนั้น มันไม่เป็นความจริง มันอายที่จะออกมาเรียกร้องเอง มันกลัวที่จะติดคุกถ้าออกมาชูป้ายเอง มันก็เลยสนับสนุน ผลักดัน บริหารจัดการให้เกิดภาพการเรียกร้อง โดยที่มันไม่ออกหน้าเอง
หลายๆ เรื่องที่ปรากฏในป้าย ในข้อเรียกร้อง ความหยาบคาย ถ่อยเถื่อน การแสดงความเห็นผ่านสื่อของผู้ชุมนุมบางส่วน รวมถึงแกนนำผู้ปราศรัยมันเป็นความเท็จที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเชื่อ ติดกับดักความคิด โดยไม่รู้สึกรู้สา และอย่างมั่นใจ และมั่นหน้าตัวเอง
ยกตัวอย่าง
1. เรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาชน โดยยกเอากรณีอุ้มหายคนหนึ่งคดีในต่างประเทศมากล่าวหารัฐบาล พ่วงกล่าวหาสถาบันที่อยู่นอกเหนือการเมือง โดยปราศจากหลักฐาน มีแต่เรื่องเล่าแบบหยาบคาย ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันจับต้องอะไรไม่ได้เลย
มั่วหนักถึงขนาดไปเอากรณีอุ้มบิลลี่มากล่าวหารัฐบาลปัจจุบัน ทั้งๆ ที่บิลลี่ถูกอุ้มหายไปตั้งแต่ก่อนรัฐบาลคสช.ด้วยซ้ำ แถมไปเชิดชูพรรคการเมืองที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย เคยเป็นรัฐบาล แล้วในยุคนั้นมีการอุ้มฆ่า คุกคามเอ็นจีโอ ผู้บริสุทธิ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
2. พูดเต็มปากว่าโครงการจำนำข้าวไม่มีการโกง แสดงความมั่นใจว่าเพราะเขาบอกว่าไม่มีการโกง เท่านั้นก็เชื่อเขา โอ้ยยย.... ตายแล้ว
คดีโกงข้าวจีทูจี คำพิพากษามีพยานหลักฐานชัดเจน โกงยังไง ที่ไหน เอกสารหลักฐานคืออะไร เสียหายอย่างไร ใครได้ประโยชน์ไปอย่างไร ยึดทรัพย์กลับมาแล้วเท่าไหร่ ยังต้องตามใช้หนี้ความเสียหายจากโครงการเหลืออีกกี่แสนล้านฯลฯ ปัจจุบัน คนโกงติดคุกกันหัวโต ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ
แต่เยาวชนกลุ่มนี้ กล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่า ไม่โกง เพราะเขาบอกว่าไม่มีการโกง
สงสารพ่อแม่ผู้ปกครองของเยาวชนที่ถูกเขาหลอกให้เชื่อแบบนี้“ขายวัว ส่งควายเรียนจริงๆ”
3. เรียกร้องทางการเมือง ยุบสภาเอย นายกฯออกไปเอย ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับเอย ฯลฯ ชูป้ายด่าด้วยคำหยาบคาย ประหนึ่งว่าข้อเสนอและความต้องการทางการเมืองของตนเองคือความถูกต้องเท่านั้น ถ้าไม่ทำตามนั้น คือไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เคารพประชาชน
ไม่สนใจเลยว่า คนที่เห็นต่างจากพวกตัวเอง มีมากมายแค่ไหน คนที่ลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ รับคำถามพ่วงที่ให้ใช้ไป 5 ปี กว่า 14 ล้านคน แล้วผลการเลือกตั้งก็ออกมาอย่างไร? เลือกตั้งซ่อมคนก็ยังหนุนพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร? แต่ทั้งหมดถูกด้อยค่า ตราหน้า อ้างว่าไม่ใช่ประชาชนแท้จริง เพราะเจ้าของอำนาจคือพวกตนเท่านั้น คนที่ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นแบบนี้ คือเสรีประชาธิปไตยจริงหรือ?
4. เที่ยวชูป้ายบอกว่า เราจะอดตายกันหมดแล้ว ปราศรัยโจมตีราวกับว่าเศรษฐกิจมันพินาศหมดแล้ว เพราะน้ำมือของรัฐบาลปัจจุบัน เป็นวิกฤติที่มีแต่ประเทศไทยเท่านั้น ประเทศอื่นเขาบริหารดีหมด อยู่รอดหมด
เปิดหูเปิดตาดูสักนิด ก็จะทราบว่า วิกฤติเศรษฐกิจมันเกิดขึ้นทั่วโลก เพราะโควิด ทำให้การท่องเที่ยว การนำเข้าส่งออกกระทบหมด แล้วประเทศไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวและการส่งออกต่างประเทศถึง 62% ของจีดีพี มันจึงกระทบตามไปด้วย แต่ก็ใช่ว่าเศรษฐกิจไทยจะล่มสลายไปทั้งหมดเลย หากแต่มีสัญญาณดีต่อเนื่อง ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา
ดูอย่างวันหยุดยาวที่ผ่านมา เมื่อเริ่มผ่อนปรนมาตรการ ก็จะเห็นคนออกไปเที่ยว ไปจับจ่ายใช้สอยตามจังหวัดต่างๆ ทั้งเมืองหลักเมืองรอง คึกคักอย่างที่สุด สะท้อนว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนจะอดตายกันหมดแล้วดอก
นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เล่าว่า
ผมคุยแชทกลุ่ม (ทาง Whatsapp) กับเพื่อนๆ ที่เคยเรียนร่วมกันที่“สถาบันการทูตสเปน” เพื่อนผมส่วนใหญ่เป็นนักการทูต ตอนนี้เป็นเอกอัครราชทูตประจำการอยู่ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็หลายคน เป็นจนท.รัฐบาล เป็นหน่วยข่าวกรอง เป็นอาจารย์ / นักวิชาการ / นักธุรกิจ กระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ ทั้งยุโรป อเมริกา ลาตินอเมริกา เอเชีย แอฟริกา ฯลฯ ทำให้รู้ว่า หลายๆ ประเทศไม่ได้มี ศบค. ไม่มีโฆษก ศบค.แบบหมอทวีศิลป์ ไม่มี รองอธ.กรมสารนิเทศ คุณณัฐภานุ ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษปิดท้ายทันทีที่แถลงข้อมูลรายวัน รวมทั้งให้ข้อมูลสถานการณ์ทั้งโลกในภาพรวมให้คนไทย และสื่อต่างชาติรับทราบแบบเปิดเผย ไม่ปิดบัง
หลายๆ ประเทศไม่ได้ดูแลคนของตัวเองที่ตกค้างในต่างประเทศ ไม่มีถุงยังชีพ ไม่มีการจัดเที่ยวบินพิเศษไปรับคนของตัวเองกลับโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
หลายๆ ประเทศไม่มีการเยียวยาใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีเงินแม้แต่เซนต์เดียวโอนเข้าบัญชี
หลายๆ ประเทศคนที่เจ็บป่วยไม่มีโอกาสพบแพทย์ ไม่มียาใดๆ ให้
หลายๆ ประเทศหรือเกือบทุกประเทศไม่มีประมุขของประเทศคนใดเลยที่มอบถุงยังชีพ (ถุงพระราชทาน) ให้กับชาวบ้านตามชุมชนต่างๆ รวมทั้งการพระราชทานอุปกรณ์ที่จำเป็นทางการแพทย์ให้กับ รพ.ต่างๆ
หลายๆ ประเทศคิดเงินสำหรับผู้ที่กลับจากต่างประเทศและต้องถูกกักกันตัว 14 วัน ไม่มีการให้ฟรี แถมที่พักกักกันตัวก็ไม่ได้มีสภาพแบบโรงแรม 3-4 ดาวแบบไทย
หลายๆ ประเทศ ไม่ได้มีโรงทาน การแจกอาหาร / สิ่งของ ฟรีทั้งจากภาครัฐ และเอกชน มากเหมือนบ้านเรา
หลายๆ ประเทศ ผู้คนไม่ใส่ใจ ไม่เคร่งครัดต่อการป้องกันตนเอง ไม่มีการใส่ mask ไม่มีเจลล้างมือในทุกจุด ไม่มีการตรวจสอบอุณหภูมิก่อนเข้าสถานที่ต่างๆ
หลายๆ ประเทศผู้คนยังต้องกักตัวเองอุดอู้อยู่ในบ้านเกือบตลอดเวลาออกจากบ้านได้ช่วงเวลาที่กำหนด 1 - 2 ครั้ง/สัปดาห์ จำกัดระยะทางที่ออกจากบ้านไปซื้อของ
หลายๆ ประเทศ เด็กๆ ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับไปเรียนตามปกติเมื่อไหร่
เล่าสู่กันฟังครับ คนไทยเราโชคดีกว่าคนชาติอื่นมหาศาล แต่เราก็เอาแต่บ่นไม่ “ปลื้ม” เอาแต่ด่าต่อว่าตลอด”
5. ทั้งหมดนี้ มีคนหยอดยาพิษ ใส่ความเท็จที่เร้าใจ ถูกจริตกับคนหนุ่มสาว ป้อยอ ปลุกปั้นและปลุกปั่น จนหลงคิดว่าการออกมาตะโกนด่าใครด้วยถ้อยคำหยาบคาย
ด้อยค่าญาติผู้ใหญ่ตัวเอง แม้แต่ดูแคลนคนที่ตัวเองขอเงินใช้อยู่ เหมือนไม่ละอายแก่ใจเลย
จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพียงเพราะเขาบอกว่า เขาว่ากันว่าใช้ถ้อยคำต่ำช้า หยามหมิ่นรุนแรง ราวกับเป็นเรื่องเล่นๆ สนุกสนาน ไม่ต้องยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง
น่าอับอาย สำหรับผู้ใหญ่ที่คอยหนุนส่งเด็ก
หลบอยู่ใต้กระโปรงเด็กหญิง หลบอยู่หลังกางเกงเด็กชาย
ไม่ออกมานำชูป้ายด้วยตัวเอง
คนพวกนี้ มันไม่ละอายแก่ใจตัวเองบ้างหรือ?
คอยแต่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทางการเมือง คอยติดไต่ คอยต่อยอด คอยยุแหย่ รอรับผลประโยชน์ เพราะรู้ว่ารัฐบาลไม่ได้เห็นเยาวชนเป็นศัตรู ไม่ต้องการดำเนินคดีกับคนหนุ่มสาว ทั้งๆ ที่ หลายเรื่องสามารถดำเนินคดีได้
คนแบบนี้หรือ ที่คิดว่า เขาจะจริงใจกับคนหนุ่มสาวจริงๆ หรือเจตนาดีกับบ้านเมืองจริงๆ
แค่ออกหน้า รับผิดชอบด้วยตัวเอง มันยังขี้ขลาดเลย!
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี