คนบางกลุ่ม เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล เอาตัวเอง เป็นบรรทัดฐานความถูกต้อง เอาความถูกใจของตัวเองเป็นตัวชี้วัดตัดสินความยุติธรรมตามกระบวนการกฎหมาย
แล้วพยายามปลุกปั่น สร้างความสับสนวุ่นวายในสังคม
1. ในคดี กปปส. ขนาดว่าศาลอาญา (ศาลชั้นต้น) พิพากษาลงโทษจำคุกแกนนำ กปปส. โดยไม่รอลงอาญา 15 ราย จำคุกแต่รอลงอาญา 12 ราย และยกฟ้อง 12 ราย
ทำให้รัฐมนตรีที่เป็นจำเลย 3 คน ได้แก่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จำคุก 7 ปี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ จำคุก 6 ปี 16 เดือน นายถาวร เสนเนียม จำคุก 5 ปี ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีไปทันที
ศาลชั้นต้นลงโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งด้วย 6 ราย ได้แก่ นายชุมพล จุลใส, นายอิสสระ สมชัย, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ, นายสำราญ รอดเพชร และนางทยา ทีปสุวรรณ ทำให้จำเลยที่เป็น สส.ต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย คือ นายชุมพล จุลใส, นายอิสสระ สมชัย, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
ขนาดนั้น ยังมีคนบางกลุ่มพยายามตีฝีปาก หมิ่นแคลน ทำนองว่าเป็นไปตามบท ยังหาว่าระบบยุติธรรมเอนเอียงช่วยเหลือ กปปส. อยู่อีก
และขณะที่คนกลุ่มนี้ด้อยค่าดูแคลนแกนนำกปปส. ที่ไม่หนีคดีไปไหน น้อมรับคำพิพากษาพร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป แต่คนกลุ่มนี้ก็ยังกราบไหว้เชิดชูคนหนีคดี หนีคุกไปอยู่ต่างประเทศ
2. กรณีกล่าวว่า แกนนำ กปปส.ได้ประกันตัว แกนนำคณะราษฎรก็ต้องได้ประกันตัว จึงจะยุติธรรม
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว แกนนำกปปส. 8 คน โดยระบุ พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว จำเลยเคยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นมาก่อน ไม่ปรากฏว่าจำเลยมีพฤติการณ์จะหลบหนีหรือไม่ มาศาลตามกำหนดนัด แม้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย แต่โทษจำคุกสำหรับความผิดในแต่ละกระทงก็ไม่สูงนัก อีกทั้งจำเลยมีที่อยู่เป็น
หลักแหล่งแน่นอน จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ตีราคาประกัน 800,000 บาท และห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น โดยให้ศาลชั้นต้นแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยเร็ว
ข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ชัด คือ จำเลย กปปส. หลังถูกดำเนินคดี ก็เดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไป
ศาลทุกนัด และไม่มีพฤติกรรมไปปลุกม็อบ จัดม็อบ ปราศรัยปลุกระดม หรือไปมีพฤติกรรมเหมือนที่ถูกฟ้องดำเนินคดีซ้ำอีกเลย
ข้อเท็จจริงแห่งพฤติการณ์ของจำเลย จึงแตกต่างกับจำเลยม็อบคณะราษฎร ที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ยังเที่ยวไปก่อเหตุซ้ำ ปราศรัย จาบจ้วงล่วงละเมิด แสดงความเห็น กระทำในลักษณะซ้ำกับข้อหาที่ถูกดำเนินคดีอยู่
3. คดี กปปส. มีคนกล่าวหาว่า กว่าจะมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น ใช้เวลากว่า 7 ปี ยาวนานเหลือเกิน
แต่คนกลุ่มนี้กลับไม่รู้สึกว่าช้า กรณีคดีเสื้อแดงบุกบ้านพักอดีตประธานองคมนตรี เหตุเกิดปี 2550 แต่กว่าจะมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น ก็เดือน ก.ย. 2558 ใช้เวลากว่า 8 ปี
เช่นเดียวกับกรณีคดี 24 แกนนำ นปช. จากเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองปี 2553 ก็เพิ่งมีคำพิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อเดือน ส.ค. 2562 ใช้เวลากว่า 9 ปี
ในความเป็นจริง แต่ละคดี มีจำนวนจำเลย จำนวนพยาน รายละเอียดเหตุการณ์แตกต่างกันย่อมใช้เวลาพิจารณาสืบพยานแตกต่างกัน และบางคดีกว่าจะมาถึงศาล ก็ไปติดอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนและอัยการ
4. คดี 39 แกนนำ กปปส. ศาลชั้นต้นยกฟ้องข้อหาก่อการร้าย และข้อหากบฏ
เนื่องจากศาลชั้นต้นพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเป็นการชุมนุมของ กปปส.เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มุ่งหวังรัฐบาลลาออก ให้มีการปฏิรูปเพื่อแก้ปัญหาประเทศก่อนเลือกตั้ง จึงไม่มีลักษณะล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญ โดยที่คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร วินิจฉัยแล้วไม่มีเจตนาความผิดฐานกบฏ
แต่ในคดี กปปส. ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีด้วยข้อหาในรายละเอียดอีกมากมาย ได้แก่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 (กบฏ), 116, 117, 135/1 (ก่อการร้าย), 209, 210, 215, 216, 362, 364 และมาตรา 365 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ.2550 มาตรา 76 และมาตรา 152 และขอให้ลงโทษตามกฎหมายเหล่านั้นด้วย
ด้วยเหตุนี้ แม้จะรอดพ้นคดีก่อการร้าย และคดีกบฏ แต่ก็ยังเหลือความผิดตามกฎหมายอื่นๆ
เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลให้ลงโทษแต่ละกรรมเป็นกระทง
ยกตัวอย่าง กรณีนายชุมพล จุลใส หรือลูกหมี อดีต สส.ชุมพร ไม่มีความผิดฐานก่อการร้าย และกบฏ แต่กลับยังต้องโทษจำคุกรวมมากที่สุด ถึง 9 ปี 24 เดือน เนื่องจากถูกชี้ว่ามีความผิดฐานอื่นๆ ได้แก่
ฐานร่วมกันยุยงให้เกิดการร่วมกันหยุดงานเพื่อบังคับรัฐบาล 6 ปี (6 กระทง)
ฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ 3 ปี (3 กระทง)
ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ 8 เดือน
ฐานขัดขวางสิทธิเลือกตั้งฯ 16 เดือน (2 กระทง)
รวม 9 ปี 24 เดือน
ทั้งหมด ยังพร้อมต่อสู้คดีในอุทธรณ์ต่อไป ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี