เป็นที่ฮือฮากันไปทั่วบ้านทั่วเมือง เมื่อประธานาธิบดีไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศจัดการประชุมสุดยอดทางออนไลน์ ว่าด้วยเรื่องประชาธิปไตย ในวันที่9 ธันวาคมนี้ โดยผู้นำประเทศที่ได้รับเชิญนั้นมีร่วมกว่า 100 ประเทศ หรือประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนประเทศทั้งหมดของโลก แต่ในงานนี้ ผู้นำไทย คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลับไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศดอน ปรมัตถ์วินัย ก็ได้ออกมาชี้แจงตอบกระทู้สดในสภาผู้แทนราษฎรว่า แม้ไม่ได้รับเชิญก็ไม่เป็นไร
ในกรณีนี้ ก็คงไม่เป็นที่น่าแปลกใจใดๆ ต่อชาวไทยเท่าไหร่นัก เพราะรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มิได้เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยที่มาตามครรลองของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมิได้เป็นประชาธิปไตยทั้งในอุดมการณ์ความคิดเห็น และในพฤติกรรม ก็เลยไม่ได้เป็นเรื่องที่จะต้องรู้สึกเสียหน้าเสียตา จึงไม่สะทกสะท้าน แต่ทว่าเมื่อคณะรัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงนั้น ทำให้ประเทศชาติถูกเหมาให้เป็นสังคมที่ไร้ความเป็นประชาธิปไตยไปด้วยก็เลยดูว่าจะไม่ค่อยแฟร์ หรือยุติธรรมนัก ต่อประเทศไทยในภาพรวม และต่อปวงชนชาวไทยที่เรียกร้องใฝ่หาและได้ต่อสู้เพื่อนำประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศ และร่วมกันพัฒนาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก ทั้งเพื่อความเป็นอิสรเสรีและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ของปวงชนชาวไทย และเพื่อเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี และความนับหน้าถือตาของชาวโลกต่อราชอาณาจักรไทยด้วย
ถือได้ว่า คณะรัฐบาลปัจจุบันซึ่งประกอบด้วยพรรคการเมืองต่างๆ ได้กระทำการที่ส่งผลให้ประชาธิปไตยของไทยไม่เป็นที่ยอมรับ กลายเป็นที่น่าอับอาย อดสู และเสียหายต่อประเทศไทยโดยรวม ซึ่งคณะรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กุมเสียงข้างมากในรัฐสภา ก็มีโอกาสที่จะได้ปรับปรุงแก้ไข โดยเฉพาะการยกเลิกกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และให้มีการขีดเขียนกฎหมายรัฐธรรมนูญกันใหม่ เพื่อกำหนดให้ความเป็นประชาธิปไตยของราชอาณาจักรไทยมีความเป็นสากล และประกันซึ่งสิทธิเสรีภาพ การตระหนักในหน้าที่ของการเป็นพลเมืองประชาธิปไตยของปวงชนชาวไทย อีกทั้งก็มีคณะปวงชนชาวไทยได้ร่วมกันคิด และลงชื่อเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญที่จะขจัดความไม่เป็นประชาธิปไตยออกไป บางกลุ่มก็ได้เรียกร้องให้มีการยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งหมด แต่ทว่าฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐก็นิ่งเฉย หรืออำนวยให้มีการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญแค่บางเรื่อง บางจุด ที่มักจะพัวพันหรือสะท้อนแต่ผลประโยชน์ของตนเองเป็นสำคัญ มิได้มีการคำนึงถึง ตั้งใจและมุ่งมั่น ในการที่จะแก้ไขปรับปรุงหรือยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อให้โครงสร้างและเนื้อหาของการเป็นสังคมประชาธิปไตยของราชอาณาจักรไทยมีความสมบูรณ์ เอื้อประโยชน์อย่างสูงสุดต่อปวงชนชาวไทยผู้ร่วมเป็นเจ้าของประเทศ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นสำคัญยิ่ง
เรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยนั้นอยู่ในสายตาของประชาคมโลกเสมอ และต่างก็มีความห่วงใยในเรื่องสิทธิเสรีภาพของคนไทยในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และในฐานะนักประชาธิปไตยที่อยากให้เพื่อนมนุษย์อยู่ในสภาวะแวดล้อมของความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงด้วย
เมื่อประชาคมโลกเห็นว่าความเป็นประชาธิปไตยของราชอาณาจักรไทยถูกขวางกั้น กีดกัน และกดขี่ด้วยผู้มีอำนาจรัฐ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องเดือดเนื้อร้อนใจ และมีความรู้สึกร่วมเป็นธรรมดา และที่เขาจะแสดงออกได้ซึ่งความไม่พึงพอใจ ก็อาจจะด้วยการลดระดับการข้องแวะกับผู้มีอำนาจรัฐของไทย หรือไม่ก็ใช้
วิถีทางทางการทูตให้ผู้มีอำนาจรัฐของไทยยุติการขวางกั้นการเบิกบานของสังคมประชาธิปไตยของไทย
มาบัดนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ก็ได้แสดงออกอย่างแน่ชัดแล้วว่า ไม่สามารถจะข้องแวะกับรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่มีความเป็นประชาธิปไตย แล้วยังเป็นตัวอุปสรรคขวางกั้นความเป็นประชาธิปไตยของไทย ประเทศไทยโดยรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงไม่ได้รับเชิญให้เข้าเป็นสมาชิกของสโมสรประชาธิปไตยของโลกในครั้งนี้
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐบาลอาจจะยืดอกตีปลาหน้าไซว่า ฉันไม่แคร์ แต่ประเด็นปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่ว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐบาลจะแยแสต่อประชาคมโลกหรือไม่ ประเด็นปัญหาก็คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐบาล ยังมีความเคารพนับถือปวงชนชาวไทยที่ต้องการอยู่ในสังคมประชาธิปไตยแบบเต็มใบแค่ไหนต่างหาก
แม้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ปฏิวัติรัฐประหารยึดและครองอำนาจมาแล้ว 7 ปี ซึ่งก็ยังไม่สายเกินไปที่จะคืนประชาธิปไตยให้กับปวงชนชาวไทยและคืนศักดิ์ศรี เกียรติภูมิ ให้กับราชอาณาจักรไทยอีกด้วยว่า เป็นสังคมที่ปราศจากเงา คราบ หรือตะกอนของความเป็นเผด็จการไปหมดสิ้นแล้ว
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี